เกิดใหม่ครั้งนี้ไม่ขอทวงรักยุค 80

47.0K · จบแล้ว
วริษา
25
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“ชีวิตที่แล้วโง่บรม ดูแลพ่อแม่สามีเลี้ยงดูแลลูกและหาเงินส่งเสียสามีจนได้ดี สุดท้ายเขาตอบแทนด้วยความตาย ชาตินี้ฉันจะไม่ยอมให้เป็นเช่นเดิมจะเลิกเป็นคนโง่เขลาให้เขาหลอกลวงออกไปใช้ชีวิตหาความสุขให้ตัวเอง”

นิยายจีนโบราณประธานทหารเกิดใหม่จีนโบราณยุค80มีลูกแม่ผัวลูกสะใภ้แม่เลี้ยงเดี่ยวสัมพันธ์ครอบครัว

ตอนที่ 1 ชีวิตของอวี้หราน

บทนำ

อวี้หรานเฝ้าดูแลเอาใจใส่พ่อแม่สามีเป็นอย่างดีรอคอยสามีตามคำมั่นสัญญา สู้ทนหางานทำร่างกายแทบไม่ได้พัก จนวันหนึ่งร่างกายของเธออ่อนแอลง และก็เป็นเวลาที่สามีของเธอได้รับตำแหน่งนายพล เขากลับมาบ้านเธอคิดว่าเขากลับมารับเธอทำตามอย่างที่เอ่ยบอกเธอไว้ ทว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด เขาพาหญิงสาวที่เขาต้องการแต่งงานด้วยกลับมาที่ตระกูลไป๋ พรากลูกชายไปจากเธอและความจริงที่ว่าเขารักเธอนั้นคือคำโกหกจากเขาไม่มีความจริงสักข้อ และที่เธอเจ็บปวดมากที่สุดคือพ่อแม่สามีต่างก็รู้เรื่องนี้มาตลอด อวี้หรานเหมือนตายทั้งเป็นหัวใจแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี จ้องมองไป๋หงเทียนพรากลูกชายไปต่อหน้าต่อตา ซ้ำร้ายอาการของเธอดันมากำเริบทำให้สิ้นใจทั้งน้ำตาในอกเต็มไปด้วยความแค้นต่อตระกูลไป๋

แต่สวรรค์ยังคงเมตตาให้เธอได้ย้อนกลับมามีลมหายใจอีกครั้งและย้อนเวลากลับไป 2 ปีที่แล้ว ก่อนที่เธอจะเป็นโรคร้าย ย้อนกลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมทนกับครอบครัวน่ารังเกียจนี้อีกแล้ว เธอจะทำตามความฝันที่เธอเคยทิ้งไปเมื่อครั้งก่อนและพาลูกชายออกมาจากนรกขุมนั้น ทว่าโชคชะตาเล่นตลกทำให้เธอได้พบเจอเขาอีกครั้ง เขายังคงเป็นเช่นเคยต้องการมาพรากลูกชายไปจากเธออีกแต่ครั้งนี้เธอจะปกป้องลูกชายไม่ยอมเขามาพรากไปได้ง่าย ๆ

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้แต่งตามความเข้าใจของนักเขียนเท่านั้นไม่ได้อ้างอิงตามประวัติศาสตร์ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงสิ่งสมมุติขึ้นมา โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537

วริษา

ตอนที่ 1 ชีวิตของอวี้หราน

บรรยากาศยามเช้าเย็นสบายแสงแดดสาดส่องเข้ามาในบ้านหลังเล็กในชนบท มณฑลฟางอี้เชิง หมู่บ้าหยุนหนิง หญิงสาวร่างเล็กตื่นก่อนที่ดวงอาทิตย์จะโผล่ขึ้นขอบฟ้าเพื่อทำอาหารให้ทุกคนในบ้านด้วยความขะมักเขม้น มือที่ควรจะนุ่มเมื่อเทียบกับอายุของเธอ แต่กลับมือหยาบกร้านยิ่งกว่าผู้ชายบางคนเสียอีก

“อวี้หรานวันนี้มีอะไรกินท้องของฉันร้อนไปหมดแล้ว”เสียงทุ่ม ๆ เอ่ยถามพรางใช้มือเช็ดน้ำหูน้ำตาคล้าย ๆ กับพึ่งจะลุกมาจากเตียงนอน แต่เธอไม่เคยเอ่ยปากว่าตนเองเหน็ดเหนื่อยและอารมณ์ไม่ดีใส่เลย รีบเข้าไปประคองแม่สามีไปนั่งที่เก้าอี้พร้อมตอบคำถามด้วยรอยยิ้มเต็มดวงหน้า

“วันนี้มีผัดผัก และมีไก่ตุ๋นสมุนไพรค่ะ”

“ดีจริง ๆ ที่มีเธอเป็นลูกสะใภ้คอยดูแล อย่างนี้ไป๋หงเทียนคงหมดห่วง จริงสิอีกไม่กี่วันเธอต้องส่งเงินให้ไป๋หงเทียนคงไม่ได้ลืมใช่มั้ย? ” อวี้หรานยิ้มบาง ๆ พรางตอบคำถามแม่สามี

“ฉันเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะเข้าไปตักข้าวมาให้เมื่อครู่คุณแม่บอกว่าหิว ฉันจะได้เตรียมตัวออกไปทำงานข้างนอก ป่านนี้ฉู่อี้คงใกล้จะตื่นแล้ว ฉันจะเอาลูกชายไปด้วยไม่อยากให้รบกวนคุณแม่” อวี้หรานเดินไปหยิบชามมาตักอาหารให้แม่สามี

เดิมแต่แรกอวี้หรานเป็นหญิงสาวที่มีความฝันอยากเป็นนักข่าว เมื่อเธอเรียนจบเธอพยายามอย่างมากที่จะเข้าไปเป็นผู้ประกาศข่าว เธอจึงไปยื่นใบสมัครและได้เรียกให้ไปสัมภาษณ์งาน เธอเป็นเด็กกำพร้าถูกเลี้ยงโดยป้าแท้ ๆ ของเธอเอง ทำให้เธอตั้งใจเรียนและทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียน หากได้เป็นผู้ประกาศข่าวอย่างใจหวัง เธอจะสามารถส่งเสียและเลี้ยงดูป้าของเธอได้อย่างสบายตอบแทนที่ป้าคอยเลี้ยงดูเธอมา ทว่าหลังจากที่เธอไปสัมภาษณ์มาต้องได้รับรู้เรื่องที่เธอไม่เคยคิดมาก่อน ป้าของเธอส่งตัวเธอไปแต่งงานกับลูกชายบ้านไป๋ เด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกับเธอและเป็นคนที่เธอแอบรักเสมอมา เธอเต็มใจที่จะแต่งกับเขา

อวี้หรานแต่งงานเข้าบ้านตระกูลไป๋ใบหน้าเบิกบานด้วยความสุขละทิ้งความฝันของเธอที่เธอพยายามดิ้นรนมาตลอดเพียงเพราะคิดว่าแต่งงานกับไป๋หงเทียนจะทำให้เธอสุขสบายมากกว่าเดิม แต่เมื่อแต่งเข้าบ้านตระกูลไป๋เธอไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับเขา เขาให้เหตุผลว่าต้องเข้าไปเรียนในเมืองเพราะเขาต้องการเป็นทหาร ตอนนี้เขาเข้าเรียนโรงเรียนสอนทหารจึงให้อวี้หรานอยู่ที่บ้านตระกูลไป๋ดูแลพ่อกับแม่ของเขา เธอทำด้วยความเต็มใจระหว่างช่วงนั้นเขายังไปกลับบ่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอท้องและเป็นเวลาเดียวกับที่เขามีข่าวดีมาบอกที่บ้าน เขาได้รับคัดเลือกไปเรียนต่อเพื่อรับตำแหน่งที่สูงมากกว่าเดิม พ่อกับแม่ของเขาดีใจมากแต่แล้วก็ใบหน้าเศร้าหงอยลงเมื่อคิดได้ว่าหากย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองค่าใช้จ่ายจะต้องเพิ่มมากกว่าเดิม อย่างนี้เขาจะหาเงินจากไหนมาส่งเสียลูกชาย อวี้หรานเป็นคนขยันและไม่อยากให้ไป๋หงเทียนละทิ้งความฝันของตนเองจึงบอกว่าเธอจะช่วยหาเงินเพื่อส่งไป๋หงเทียนเอง

ทั้งสามคนดีใจมาก ๆ ขอบคุณอวี้หรานว่าเป็นคนดีโชคดีของตระกูลไป๋จริง ๆ ที่มีเธอเข้ามาเป็นคนในครอบครัว

“ขอบคุณเธอมาก ๆ นะอวี้หรานฉันจะไม่ลืมเรื่องที่เธอทำให้ฉันดูแลฉันและพ่อแม่ เมื่อไหร่ที่ฉันได้ดีฉันจะตอบแทนเธอเป็นอย่างดี ไม่แน่ฉันอาจจะได้เป็นนายพลใหญ่ เมื่อนั้นฉันจะแต่งงานกับเธออีกครั้งจัดงานอย่างยิ่งใหญ่และพาเธอไปจดทะเบียนสมรสออกหน้าออกตา เป็นคุณนายภรรยาของท่านนายพล”

“ฉันไม่ได้หวังถึงขั้นนั้นเสียหน่อย ขอแค่นายมีความสุขฉันเองก็มีความสุขเช่นกันและฉันเองก็มีเรื่องสำคัญจะบอกด้วยตอนนี้ฉันกำลังจะต้องท้อง ”

“ว้าว เรื่องน่ายินดีมักจะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันเลยสินะ ไม่ได้การวันนี้ต้องฉลอง ”ไป๋ซินหย่าแม่ของไป๋หงเทียนลุกขึ้นจากเก้าอี้ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินว่าตนเองจะมีหลาน รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารฉลองเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้น อวี้หรานดีใจและมีความสุขกับความรักของครอบครัวที่เธอไม่เคยได้สัมผัสคิดว่านี่คือความอบอุ่นความรักที่ทุกคนในครอบครัวตระกูลไป๋มีให้เธอ

2 ปีผ่านไป

อวี้หรานเฝ้าดูแลพ่อแม่สามีเป็นอย่างดีและเป็นแม่ที่ดีของลูกชายตัวน้อย เธอขยันขันแข็งไม่ย่อท้อ วันหนึ่งเธอต้องทำงานหลายอย่างเพื่อหาเงินส่งให้ไป๋หงเทียนร่ำเรียนและต้องนำมาใช้จ่ายในครัวเรือน

ตั้งแต่ที่ไป๋หงเทียนไปเรียนในเมืองเขาไม่เคยกลับมาที่บ้านเลยมีเพียงจดหมายที่คอยส่งมาถามไถ่และเล่าเรื่องราวที่เขาพบเจอ คำสุดท้ายในจดหมายไม่ใช่คำว่ารักหรือคิดถึงแต่เป็นการขอเงินเพิ่มจากเธอในทุก ๆ ครั้ง แต่อวี้หรานไม่เคยบ่นส่งเงินให้เขามากกว่าเดิมแทบทุกเดือน เวลากินเวลานอนแทบไม่มี กลางวันทำงานไร่รับจ้างทุกอย่าง ตอนกลางคืนทำงานบ้านดูแลพ่อแม่สามีกล่อมลูกชายนอนหลับเธอก็ยังต้องทำงานเย็บผ้าที่รับมาทำที่บ้าน เธอทำงานหนักเช่นนี้จนเวลาล่วงเลยมาอีก 3 ปี ร่างกายของเธอเริ่มอ่อนแอ เกิดจากพักผ่อนไม่เพียงพอโหมงานหนักเกิน แต่เธอไม่เคยแสดงอาการให้พ่อแม่สามีได้รู้ เฝ้าฝันว่าจะได้มีวันที่เธอสุขสบายหลังจากที่สามีของเธอเรียนจน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอสละร่างกายและจิตวิญญาณของตัวเองเอาใจใส่พ่อแม่ของไป๋หงเทียนที่ไม่ต้องทำงานอะไรวัน ๆ เรียกใช้แต่เธอ จนวันหนึ่งเธอเป็นลมกลางแดดร้อนจ้า หมอสั่งให้เธอหยุดพักผ่อนก่อนที่ร่างก่ายของเธอจะรับไม่ไหว ทว่าเมื่อกลับมาที่บ้านจดหมายของสามีก็ถูกส่งมา บอกให้เธอหาเงินจำนวนหนึ่งและนี่จะเป็นเงินจำนวนสุดท้ายที่เขาจะให้เธอส่งเสีย เขาใกล้จะเรียนจบและกลับมารับเธอกับพ่อแม่ไปอยู่ด้วยในเมือง ความเหน็ดเหนื่อยของอวี้หรานหายเป็นปลิดทิ้ง และทำงานหนักกว่าเดิมไม่ฟังคำเตือนของหมอเพราะคิดว่าหลังจากนี้ตัวเองจะได้พักจริง ๆ และสุขสบายอย่างที่ไป๋หงเทียนบอกมาในจดหมาย ความฝันส่องสว่างเจิดจ้าทำให้เธอตั้งใจทำงานมากหลายเท่าตัวอย่างไม่คิดชีวิต