บทที่8 เหมือนจะเข้าสู่หน้ามรสุม
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ชาวบ้านก็ต่างแยกย้ายไปจับกลุ่มคุยกันเรื่องบ้านถัง
"พ่อหนุ่มเจอเยียนนี้มีฝีมือเหมือนกันนะ ดูสิสังหารโจรได้ด้วย แบบนี้พี่น้องถังก็มีคนปกป้องแล้ว"ป้าตันเอ่ยชื่นชม
"คงเพราะชายผู้นั้นยอมแต่งเข้าหรือเปล่า เพราะไป๋เสวียนนางเคยบอกไว้ว่านางจะรับเขยแต่งเข้าเท่านั้น"ป้าจูเอ่ยขึ้น
"แต่เจ้าหนุ่มเจอเยียนเป็นคนต่างถิ่น จะไว้ใจได้มากแค่ไหนกันเชียว"ป้าฉีที่อยากได้ไป๋เฟิ่งมาเป็นสะใภ้ก็รู้สึกเสียดายหญิงสาว นางเคยให้ป้าจูไปพูดทาบทามแต่โดนไป๋เสวียนปฏิเสธกลับมา นางรู้ว่าไป๋เฟิ่งเหลือแต่พี่สาวกับน้องสาวแถมนางยังดูแลทั้งคู่ดีงานบ้านงานเรือนครบ จึงเสนอสินสอดพอสมควรไม่ถึงกับมากเพราะคิดว่านางเหลือกันแค่พี่น้องคงอยากแต่งงานเพื่อช่วยครอบครัวแถมถ้าได้มาเป็นสะใภ้ต้องคุ้มแนๆ แต่วันนี้ไป๋เฟิ่งกลับหมั้ยหมายกับชายอื่นเสียแล้ว ช่างน่าเสียดายแรงงานยิ่งนัก
"ยังไงนางก็มีคู่หมั้นแล้ว เจ้าอย่าเสียดายไปเลยนะ"ป้าจูเอ่ยปลอบเพื่อนบ้าน นางพอจะมองออกว่าแม่ฉีผู้นี้อยากได้ไป๋เฟิ่งแต่งกับบุตรชายที่ไม่เอาไหน คงคิดว่าบ้านถังไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแลเลยจะหลอกให้แต่งงานง่าย แต่ไป๋เสวียนกลับบอกปัดอย่างไม่ใยดี
"จะให้ไปขอไป๋เสวียนก็ยากที่นางจะตอบตกลง แถมนางยังแข็งแรงดีไม่ดีแต่งไป เจียงหนานอาจโดนนางหักแขนขาก็ได้ "
"แต่ก่อนไป๋เสวียนออกจะเรียบร้อยไม่แข็งกระด้างแบบทุกวันนี้ ตั้งแต่ที่นางโดนหินหล่นใส่ตัวนางก็แปลกไปมาก"
"ก็คงเพราะเสียทั้งบิดามารดาไปพร้อมกัน เลยต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นหลักให้น้องๆนะ ข้าก็ยังเห็นนางเหมือนเดิม แค่อาจจะดูแข็งกระด้างไปบ้างก็เท่านั้น"แม่เฒ่าเหลียงเห็นไป๋เสวียงพาน้องสาวอุ้มเดินรอบๆหมู่บ้าน ก็เห็นว่านางรักน้องสาวดีไม่เปลี่ยน
"แต่จะว่าไปช่วงนี้เหมือนลมพัดแปลกๆนะพวกเจ้าว่ามั้ย"แล้วหัวข้อการสนทนาก็เปลี่ยนไปพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศกันต่อ
"หรือจะเป็นลมฝน แต่เพิ่งเข้าฤดูร้อนเอง จะเข้าฤดูฝนเลยหรือ?"
"ยังไม่ถึงฤดูฝนนะ พืชผลที่บ้านเพิ่งจะออกดอก ถ้าฝนมาทำให้ดอกร่วงก็แย่เหมือนกันนะ"
"แต่วัน2วันมานี้ลมมันพัดแปลกมาก ดูท้องฟ้าก็สดใสดีนะ อาจเป็นแค่ลมก็ได้"
"แต่ลมแบบนี้เหมือนจะมีพายุนะยังไงก็เตรียมรับมือไว้บ้างก็ดีนะ"แม่เฒ่าเหลียงเอ่ยเตือน
การที่แม่เฒ่าเหลียงเอ่ยเตือนนั้นเพราะนางอยู่มานานเลยสังเกตุความผิดปกติได้ และสิ่งที่นางเตือนก็ไม่ผิด เพราะหลังจากนั้น2วันฝนก็ตกจริงๆแถมไม่มีทีท่าจะหยุดอีกด้วย สร้างความเสียหายให้ชาวบ้านไม่ใช่น้อย เพราะส่วนใหญ่ทุกครัวเรือนจะทำการเกษตรแล้วผลผลิตเพิ่งจะออกดอกทำให้ดอกร่วงลงพื้นหมด ส่วนผักก็โดนฝนมากเกินไปจนรากเน่า
ส่วนบ้านถังไม่ได้รับผลกระทบเท่าไรเพราะไม่ได้ปลูกพืชผัก ถึงแม้ฝนจะตก แต่เจอเยียนยังออกไปตัดหญ้ามาให้เหล่าสัตว์ได้กินแต่มากหน่อยเพราพได้เก็บได้หลายวัน แถมชายหนุ่มยังสุมไฟให้ความอบอุ่นแก่พวกมันอีกด้วย ส่วนคอกสัตว์เขาก็นำไม้ไผ่มาตีให้แตกแล้วนำมาสานเป็นข้างฝาไม่ให้ฝนสาดมาโดน เพราะไม่เช่นนั้นพวกสัตว์อาจป่วยได้
และฝนที่ตกไม่หยุดหลายวันทำให้น้ำในแม่น้ำหลังหมู่บ้านซานเอ่อล้นจนทำให้หมู่บ้านน้ำท่วม บ้านถังที่อยู่ท้ายหมู่บ้านก็ได้รับผลกระทบเต็มๆ เจอเยียนต้องทำนั้งร้านให้เหล่าสัตว์อยู่ชั่วคราว เพราะน้ำที่ท่วมรอบบ้าน แม้แต่เสบียงไป๋เสวียนต้องเอาเข้าไปเก็บในคลังสมบัติ นางพยายามจะนำสัตว์เข้าไปเก็บในนั้นด้วยแต่กลับทำไม่ได้ แล้วทำไมตอนเจอเยียนถึงเก็บได้ละ
"พี่ใหญ่ท่านทำอะไร"เจอเยียนที่เห็นไป๋เสวียนทำท่าโบกตรงหน้าสัตว์ก็เอ่ยถาม
"ข้าจะเก็บพวกมันเข้าไปในห้องลับที่ข้ามี แต่กลับเก็บไม่ได้นี้สิ อยู่ข้างนอกพวกมันอาจป่วยได้"
เมื่อเจอเยียนได้ยินดั่งนั้นเขาเลยลองทำบ้างโดยแตะไปที่เจ้าม้าหนุ่ม แล้วเจ้าม้าก็หายไป
"เจ้าก็มีห้องลับหรือ ?"
"ใช้..แต่ในนั้นมีแต่อาวุธไม่มีสมบัตินะขอรับ"
"แค่นี้ก็ดีแล้ว ส่วนสมบัติข้ามีเยอะ เจ้าแต่งกับน้องสาวข้าไม่ลำบากแน"เจอเยียนฟังแล้วคิ้วกระตุก เขาไม้ได้เห็นแกเงินทองเสียหน่อย ว่าที่พี่ภรรยาเขานี้พูดอะไรแปลกๆ
"ถึงพวกท่านไม่มีสมบัติ ข้าก็ต้องเลี้ยงดูเฟิ่งเอ๋อให้สุขสบายอยู่แล้วขอรับ" ไป๋เสวียนพอได้ฟังก็พยักหน้า แต่ไม่พูดว่าอะไร นางแค่แกล้งพูดจะได้เห็นว่าชายหนุ่มจะรู้สึกยังไง แต่นางเห็นชายหนุ่มที่ทำท่าขัดใจแล้วพูดแก้ออกมา ถือว่าใช้ได้
พอเจอเยียนเก็บเหล่าสัตว์เข้าคอนโดจนหมดก็อาสาเดินไปดูหน้าบ้านที่มีีน้ำไหลผ่าน พอเห็นว่าประตูรั้วยังแข็งแรงก็เดินเข้าบ้าน
หลังจากนั้นอีก2วันน้ำเข้ามาถึงภายในบ้าน น้ำขึ้นถึงเหนือเข่า ทำให้ไป๋เฟิ่งต้องผูกไป๋หย่างอยู่กับหลังนางตลอด นางกลัวน้องสาวจะตกน้ำ
ไป๋เสวียนนำของที่จำเป็นเก็บเข้าห้องลับจนหมด ตอนนี้น้ำขึ้นเกือบทุกถึงเตียงแล้ว
"น้ำขึ้นสูงทุกวัน ถ้าขึ้นถึงเตียงเตาเราจะไม่มีที่นอนแนๆ"นางพูดอย่างหนักใจ
"หรือพวกเจ้าจะเข้าไปอยู่ในห้องลับข้า ขนาดสัตว์ยังเข้าไปได้ คนก็น่าจะเข้าได้"
"เช่นนั้นลองดู..ให้เฟิ่งเอ๋อพาหย่างเอ๋อเข้าไปก่อน นางได้ปลอดภัย"ไป๋เสวียนพูดอย่างไม่ลังเล นางห่วงน้องสาวที่สุด
เจอเยียนจึงพาคู่หมั้นแล้วน้องสาวเข้าไปในคอนโด พอเข้ามาเขาก็เห็นทั้งม้า,ไก่และแพะเดินไปเดินมาอย่างงง
"ที่นี้ที่ไหนหรือเจ้าคะ?"
"เป็นห้องลับข้าเอง พวกเจ้าอยู่ได้ตามสบาย"ชายหนุ่มพาหญิงสาวเดินดูทั่วๆแถมสอนให้นางใช้ตู้เย็นและเครื่องครัวอีกด้วย
"เจ้านั้งเล่นกับหย่างเอ๋อไปก่อนนะ เดี๋ยวข้าขอไปจัดการเหล่าสัตว์เลี้ยงก่อน"
"เจ้าคะ"หญิงสาวรับคำแล้วแกะผ้าที่ผูกน้องสาวออกให้หนูน้อยนั้งบนที่นั้งที่นิ่มมากๆ หนูน้อยนอนกลิ่งไปกลิ่งมาอย่างมีความสุข
เจอเยียนต้อนเหล่าสัตว์ให้ไปรวมอยู่ที่ระเบียงที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง
"พวกแกอยู่ที่นี้ไปก่อนนะ น้ำแห้งค่อยออกไป"เหล่าสัตว์เมื่อได้รับอากาศจากหมอกก็พยักน้ำชอบใจ แต่เจอเยียนไม่รู้ คิดว่าพวกมันพยักหน้ารับรู้เลยเดินกลับเข้าไปในคอนโด
"พี่เจอเยียนออกไปรับพี่ใหญ่มาอยู่ในนี้ด้วยสิเจ้าคะ"
"ข้าก็ว่าจะออกไปรับนางเข้ามา เจ้า2คนรอเดี๋ยวนะ"แล้วชายหนุ่มก็หายตัวไป ไป๋เฟิ่งที่ยังไม่ชินรู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ไป๋หย่างกลับตบมือชอบใจ
เจอเยียนออกมาจากคอนโดก็เห็นว่าที่พี่ภรรยาขึ้นอยู่บนเตียงก็เดินเข้าไปจับมือนางแล้วพาเข้าไปในคอนโด
"พี่ใหญ่ ท่านมาแล้ว มานั้งก่อนเจ้าคะ"ไป๋เฟิ่งเห็นพี่สาวก็รีบไปจุงมือให้พี่สาวมานั้งอยู่ด้วยกัน
"ในนี้มีห้องนอนห้องเดียว พวกเจ้าเข้าไปนอนในนั้นแล้วกัน เดี๋ยวข้านอนข้างนอกเอง"
"ที่นี้แปลกจริง"ไป๋เสวียนมองรอบๆก็พูดขึ้น
"เป็นห้องลับของข้าเอง ท่านไม่ต้องกลัวอันตราย ในนี้ปลอดภัย"ชายหนุ่มพูดให้ความมั่นใจ
"เจ้ามีอะไรปิดบังอีกมั้ย มีก็รีบพูดมา ข้ารับได้ทุกอย่างแต่รับไม่ได้ที่สุดคือคำโกหก ถ้าคิดจะมาเป็นน้องเขยข้าอย่างคิดโกหก" น้ำเสียงที่จริงจังทำให้เจอเยียนคิดก่อนจะพูดขึ้น
"ข้าก็ไม่รู้ว่าบอกยังไง...คือว่า ถ้าข้าบอกว่าข้าไม่ใช้คนในภพนี้พวกท่านจะคิดว่าข้าสติฟันเฟืองมั้ย?"
"พี่เจอเยียนหมายความว่าไงนะเจ้าคะ ถ้าท่านไม่ใช้คนภพนี้แล้วท่านมาจากไหน"
เจอเยียนเลยตัดสินใจบอกเรื่องราวของตัวเองให้ทั้ง2สาวฟัง
"อ้อ...แบบนี้เอง แบบนี้ข้าต้องเรียกท่านว่าใครดีเจ้าคะ?"ไป๋เฟิ่งฟังก็เข้าใจ นางรู้จักเจอเยียนคนปัจจุบันไม่ใช้คนก่อนเสียหน่อย
"พี่ไป๋เสวียงรู้ได้เช่นไรขอรับว่าข้ามีเรื่องปิดบัง?"
"ข้าสงสัยตั้งแต่คืนที่มีโจรมาปล้นเราแล้ว อาวุธเจ้ามันแปลก พอวันนี้สบโอกาสเลยแกล้งถามไปงั้นแหละ เจ้าดันหลงกลเอง555"
เจอเยียนถึงกลับคิ้วกระตุก ว่าที่พี่ภรรยาเขานี้แสบจริงๆ
"แล้วเราจะอยู่ในนี้กันจนน้ำลดเลยมั้ย เพราะตอนที่เจอเยียนไปรีบมาน้ำสูงถึงเตียงแล้วนะ"
"ก็คงต้องเป็นเช่นนั้น แต่เดี๋ยวข้าจะออกไปดูระดับน้ำอยู่เลื่อยๆแล้วกันขอรับ"
แล้วทุกคนก็เหมือนมีอะไรที่แปลกไป พอหันไปมองที่โซฟาก็เห็นไป๋หย่างนอนหลับเงียบ
3วันที่อยู่ในคอนโดของเจอเยียนทุกคนก็เริ่มปรับตัวได้ ไป๋เฟิ่งสามารถใช้เตาไฟฟ้าทำอาหารได้อย่างไม่ติดขัด และอยู่ในนี้ก็ไม่ตีองห่วงว่าต้องกลัวนมแพะจะบูดก่อนเพราะสามารถเก็บเข้าตู้เย็น พอหนูน้อยจะกินก็แค่เอาออกมาอุ่นในไมโครเวฟสะดวกมาก
"เจ้าฝึกใช้ของพวกนี้ได้ไวจริง สมแล้วที่จัแต่งเป็นภรรยาเขา อิอิ"
"พี่ใหญ่ก็พูดเจ้าคะ..ถ้าข้าไม่ฝึกแล้วใครจะทำอาหารให้พวกท่านละเจ้าคะ"พี่สาวนางตั้งแต่หายป่วยก็ลืมว่าตนเองเคยเก่งเรื่องเข้าครัวไปสิ้น
"ว่าแต่ พี่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมพี่ถึงนำสัตว์เข้าไปในห้องสมบัติไม่ได้้"
"อาจเพราะตอนนั้นพี่เจอเยียนไม่ได้สติก็ได้เจ้าคะ "ไป๋เฟิ่งพูดออกไปแบบไม่คิดอะไรมาก แต่มันกลับสะดุดความคิดของไป๋เสวียน
"อาจจะจริงๆก็ได้ มีโอกาสพี่จะลอง"
"แต่ปัญหาของเราตอนนี้คือไม่มีหญ้าให้ม้ากับแพะนะเจ้าคะ เรามาคิดก่อนดีกว่าจะทำเช่นไรดี"
ตอนนี้เรื่องอาหารสำหรับคนไม่มีปัญหา แต่หญ้าสำหรับสัตว์นี้สิกำลังจะหมด
"เจอเยียน..เจ้าออกไปหาหญ้ามาให้ม้ากับแพะได้มั้ย?"
"ได้สิขอรับ ข้าก็ว่าจะออกไปดูสถานการณ์เสียหน่อย "เจอเยียนที่กำลังเล่นกับไป๋หย่างก็กำลังคิดว่าจะออกไปดูโลกภายนอกว่าน้ำลดหรือยัง ตอนนี้น้ำท่วมหมู่บ้านทั้งหมดไม่รู้ว่าคนในหมู่บ้านจะเป็นเช่นไรกันบ้าง จะหนีน้ำกันทันมั้ย เพราะน้ำถือว่ามาไวมาก จากตอนแรกคิดว่าแค่น้ำอาจไหลผ่าน แต่น้ำกลับสูงขึ้นไม่มีท่าทีว่าจะลดลง ถ้าไม่มีห้องลับของไป๋เสวียนกับคอนโดเขาก็แย่เหมือนกัน สัตว์อาจจะย้ายหนีไม่ทันจนเกิดการสูญเสียได้
"เจ้าออกไปแล้วช่วยดูชาวบ้านด้วยนะว่าเป็นเช่นไรกันบ้าง..หนีน้ำกันทันมั้ย?"
"ได้ขอรับ"
