บทที่2 นี้ร่างใครกัน
เยียหลินรู้สึกตัวเองล่องลอย อย่างไร้จุดหมาย นางเห็นร่างกายตนเองที่นอนไร้ชีวิตมีชิงฉีค่อยอยู่ข้างๆตลอด จนวันฝังร่างนาง นางเห็นมารดาบิดาที่มางานศพนาง เห็นครอบครัวสามีที่ไม่ได้มีความเสียใจแต่อย่างใด หญิงสาวล่องลอยไปมาจนเห็นว่าชิงฉีเก็บของเตรียมไปจากสกุล แต่สาวใช้นางกลับไม่ได้เดินทางออกไปนอกเมือง แต่กลับตรงไปที่ฝังศพนางก่อนที่เยียหลินจะเห็นว่าสาวใช้คนสนิทดื่มอะไรบางอย่างก่อนที่จะพูดออกมา
"ฮูหยินรอบ่าวด้วยนะเจ้าคะ บ่าวกำลัง..จะตามไปรับใช้..ฮูหยินเจ้าคะ"นางพูดพร้อมกับมีเลือดออกมาปากและจมูกก่อนที่นางจะสิ้นใจอยู่หน้าหลุมศพ นางเห็นสิ่งที่สาวใช้คนสนิทถือไว้ในมือคือจี้หยกของนางและหีบสมบัติที่นางเตรียมไว้ให้สาวใช้คนสนิท
เยียหลินพยายามจับจี้หยกไว้แต่กลับไม่สามารถจับได้ 'ท่านยาย..ช่วยหลานด้วย'นางพยายามจนท้อแต่อยู่ๆวิญญาณก็เหมือนถูกดูดไปที่ใดที่หนึ่งแล้วทุกอย่างก็มืดมิด
"พี่ใหญ่..เป็นไงบ้าง?"เยียหลินได้ยินเสียงคนเรียกอยู่ข้างๆ แต่ทำไมมาเรียกใกล้นาง ทำไมไม่ไปเรียกกันไกลๆ
"พี่ใหญ่..."แล้วเสียงก็เงียบไป
เยียหลินนอนอีกครู่ใหญ่จนรู้สึกแปลกเลยลองลืมตา 'ที่นี้ที่ไหน' พอลองหันดูรอบๆก็รู้สึกไม่คุ้น แล้วหญิงสาวก็ลุกขึ้นนั้ง แต่กลับรู้สึกปวดหัว ลองแตะที่หน้าผากก็รู้สึกมีผ้าพันไว้เอาไว้
เกิดอะไรขึ้น ในขนาดที่เยียหลินกำลังสับสนก็ได้ยินเสียงเปิดประตู
"พี่ใหญ่ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ"ดรุณีน้อยเดินเข้ามาพร้อมถ้วยข้าว
"เจ้าเป็นใคร?"นางไม่คุ้นกับเด็กสาวผู้นี้ แต่ว่านางตายไปแล้วไม่ใช้หรือ แล้วอยู่ๆมานอนที่นี้ได้เช่นไรกัน
"พี่ใหญ่..อย่าทำข้าตกใจสิเจ้าคะ "ไป๋เฟิ่งรีบนั้งลงแล้วมองพี่สาวด้วยความตกใจ
"ข้ามาอยู่ที่นี้ได้เช่นไร?"
"นี้บ้านเราเจ้าคะ พี่ใหญ่เป็นพี่สาวคนโตของข้า ท่านจำได้มั้ยเจ้าคะ?"เยียหลินสายศรีษะ แล้วก้มลงมองตัวเอง นางทำไมถึงตัวผอมเช่นนี้แถมแขนขายังเล็กเหมือนสาววัยยังไม่ปักปิ่น
"ตอนนี้ปีอะไรแล้วที่นี้คือที่ไหน?"นางรีบหันไปถามสาวน้อยข้างกาย
"ที่นี้เมืองเจอเจี๋ยรัชศกถังฮั่นปีที่13เจ้าคะ "
"แล้ววันนี้วันเดือนอะไร?
"วันที่8เดือน6เจ้าคะ"นางยังอยู่ที่เจอเจี๋ย หลังเหตุการณ์นางเสียชีวิตไปแค่2เดือน ว่าแต่นางมาอยู่ร่างนี้ได้ยังไง
"แล้วข้าชื่ออะไรหรือ?"ไป๋เฟิ่งมองพี่สาวด้วยสายตาที่เป็นห่วง นี้พี่สาวนางจำอะไรไม่ได้เลยหรือ
"พี่ใหญ่ชื่อถังไป๋เสวียน อายุ17หนาวเจ้าค่ะ ส่วนข้าถังไป๋เฟิ่งอายุ15หนาวเป็นน้องสาวท่าน แล้วยังมีถังไป๋หยางอายุ5เดือนน้องสาวคนเล็กเจ้าค่ะ เรามีกัน3พี่น้อง ส่วนบิดามารดาพวกท่านจากเราไปเมื่อ5วันที่แล้วด้วยสาเหตุดินถล่มบนเขาแต่พี่ใหญ่รอดแต่ก็บาดเจ็บที่ศรีษะ ตอนนี้เราเลยเหลือกันแค่3พี่น้องเจ้าค่ะ"ไป๋เฟิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
เยียหลินฟังแล้วก็คิดตาม 'หรือว่าวิญญาณนางโดนดูดเข้ามาในร่างนี้กัน แต่มันจะเป็นไปไงยังไง
"แง๊งงงงง"เสียงเด็กร้องจากอีกฟากของห้อง
"หย่างเอ๋อไม่ร้องนะเด็กดี ตื่นแล้วมานอนเล่นกับพี่ใหญ่ตรงนี้ดีมั้ย"
หนูน้อยพนักหน้าก่อนที่ไป๋เฟิ่งจะอุ้มมานอนข้างๆพี่สาวคนโตแล้วจับแขนพี่สาวเอามาเข้าปาก
เยียหลินที่ฝังใจเรื่องแท้งบุตรก็รู้สึกผูกพันกับเด็กน้อยตรงหน้า นางเอื่อมมือกอดเด็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว
"เราอยู่ส่วนไหนของเจอเจี๋ยหรือ?"
"เราอยู่หมู่บ้านซานหยา อยู่ห่างจากเจอเจี๋ยประมาณ20ลี้เจ้าคะ"
หมายความว่านางอยู่ไม่ไกลจากหลุมฝังศพตนเอง พอนึงถึงหลุมฝังศพนางก็นึกถึงจี้หยกของท่านยาย ป่านนี้จะมีใครเจอหรือไม่ แต่ตอนนี้สิ่งสำคัญคือร่างกายนี้บาดเจ็บต้องรักษาให้ร่างนี้หายเสียก่อน
"อ่ะ..อ่ะ"ไป๋หย่างเรียกพี่ใหญ่ แต่ด้วยนางเพิ่งจะ5เดือนจึงทำได้แต่ส่งเสียงเรียกเท่านั้น
"พี่ใหญ่หิวมั้ยเจ้าคะ ข้าต้มโจ๊กธัญพืชมาให้ ตอนนี้บ้านเราเหลือเสบียงไม่ถึงกับมากส่วนตำลึกก็หมดไปกับการจัดงานศพให้ท่านพ่อท่านแม่และรักษาท่าน เลยมีแค่โจ๊กธัญพืชเท่านั้น"ไป๋เฟิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
"ไม่ต้องคิดมาก เรื่องปากท้องไว้ข้าจะช่วยเจ้าเอง"ถ้านางได้จี้หยกกลับมาสินเดิมที่นางเก็บไว้ในจี้หยกก็จะสามารถช่วยเหลือครอบครัวนี้ได้มาก แต่ก่อนอื่นต้องให้ร่างนี้แข็กแรงสะก่อน ได้สามารถเดินทางไปหาจี้หยก
"ข้าอยากพักผ่อนนะ รู้สึกปวดหัวมาก "พอผู้เป็นน้องสาวได้ยินว่าพี่สาวปวดศรีษะก็รีบประคองให้นางนอนลงแล้้วห่มผ้าให้โดยมีน้องสาวคนเล็กนอนเล่นอยู่เป็นเพื่อนไม่ยอมห่างไปไหน
เยียหลินนอนนึกหาสาเหตุที่ตนเองเข้ามาอยู่ในร่างดรุณีน้อยที่ชื่อไป๋เสวียนผู้นี้ จะว่าเป็นญาติกันก็ไม่ได้ใช้แซ่เดียวกันหรือมีความเกี่ยวข้อง แล้วนางเข้ามาอยู่ในร่างนี้ได้เช่นไรเยียหลินนอนคิดจนหลับไป
ผ่านไป3วันอาการของไป๋เสวียนก็ดีขึ้น หญิงสาวเริ่มชินกับร่างใหม่นี้ นางเดินดูรอบๆบ้านก็เห็นว่ามีรถม้าที่มีม้า1ตัวเพื่อเอาไว้ใช้นั้งเข้าเมืองเพราะครอบครัวนี้มีอาชีพเป็นพรานป่าคอยล่าสัตว์และหาของป่าไปขายในเมืองเจอเจี๋ย และเมื่อหลายเดือนก่อนพ่อถังได้เจอโสมต้นขนาดเล็กจึงทำให้ฐานะครอบครัวดีขึ้น
ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงใช้ชีวิตหาของป่าจนเมื่อ10ก่อนขนาด3พ่อแม่ลูกขึ้นเขาไปช่วยกันขนฟืนลงจากเขาก็เกิดดินไหลลงจากเขา พ่อถังและแม่ถังรีบผลักบุตรสาวให้ห่างตัวเพื่อกันนางให้ปลอดภัยโดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง แต่ขนาดนั้นไป๋เสวียนก็ยังโดนก้อนดินกระแทกใส่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และด้วยสาเหตุนี้ไป๋เสวียนคนเก่าถึงได้จากไป แต่นางก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองถึงเข้ามาอยู่ในร่างนี้ได้
"อ๊ะ.."ไป๋หย่างที่อยู่ในอ้อมแขนพี่สาวคนโตก็ชี้ไปที่เจ้าม้าสาวตัวเดียวของครอบครัว หนูน้อยชอบให้พี่สาวพามาเล่นกับมัน เจ้าม้าสาวตัวนี้บิดาซื้อมันมาเพราะเห็นมันตัวเล็กกว่าตัวอื่นราคาจึึงไม่แพง ไป๋เสวียนมองเจ้าม้าก็คิดว่าอาจจะขี่เจ้านี้ไปที่หลุมศพตนเอง แต่จะบอกกับไป๋เฟิ่งยังไงดี ไป๋หย่างต้องกินน้ำข้าวทุกวันเพราะไม่มีนมให้นางกิน เพราะตำลึงที่มีอยู่ในครอบครัวก็เอาไปจัดงานศพให้บิดามารดาหมดจนนี้เหลือไม่มาก
"เฟิ่งเอ๋อ..พี่จะไปธุระที่ในเมือง ขากลับพี่จะซื้อแม่แพะมาให้หยางหย่างด้วย"
"พี่ใหญ่หายดีแล้วหรือเจ้าค่ะ?ยังไงก็พักอีกหลายวันจะดีกว่านะเจ้าค่ะ แต่เรื่องแพะ เรามีตำลึงเหลือไม่มากนะเจ้าค่ะ"
"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะมีตำลึงไม่ให้ลำบากแนนอน เดี๋ยวพี่จะไปคืนนี้เลย"
"ทำไมต้องไปกลางคืนด้วยเจ้าค่ะ? อันตราย ยังไงก็ไปกลางวันดีกว่าเจ้าค่ะ"
"พี่ไปกลางคืนดีกว่าปลอดภัยไม่มีคนเห็น "
ไป๋เฟิ่งจนใจจะห้ามเลยต้องปล่อยให้พี่สาวไป นางรู้สึกพี่สาวตนเองตั้งแต่ตื่นมาก็เหมือนคนละคน อาจเพราะโดนหินก้อนใหญ่กระแทกก็ได้ ดีแค่ไหนแล้วที่นางไม่เป็นอะไรมากไม่เช่นนั้นนางก็ทำใจไม่ได้ที่ต้องเสียคนในครอบครัวไปพร้อมกันถึง3คน แค่บิดามารดานางก็ยากจะทำใจแล้วไหนจะพี่ใหญ่ที่บาดเจ็บสาหัสอีก ดีว่าตอนนี้นางหายแล้ว ถึงจะจำอะไรไม่ได้ก็ไม่เป็นไรขอแค่ให้นางยังอยู่ด้วยกันก็พอแล้ว
ไป๋เสวียนที่ตอนนี้บังคับรถม้าสาวก็มาถึงหลุมฝังศพของตนเอง นางเห็นร่างของชิงฉีที่ยังอยู่ที่เดิม ไม่มีใครมาจัดการ ก็ให้นึกอนาถใจ นั้นหมายความว่าตลอด2เดือนที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาเยี่ยมหลุมศพนางเลย หญิงสาวถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความปวดใจ ไป๋เสวียนเดินเข้าไปใกล้ศพของชิงฉีหยิบจี้หยกและหีบสมบัติขึ้นมาเก็บไว้ก่อนจะอุ้มร่างที่เหลือแต่โครงกระดูกไปวางข้างหลุมศพแล้วหาไม้แถวนั้นลงมือขุดหลุมฝังร่างสาวใช้ผู้ภักดี
"ชิงฉี ไปสู่สุคตินะ ขอบใจเจ้ามากที่อยู่และภักดีกับข้ามาตลอด"นางพูดทั้งน้ำตา ก่อนจะหยิบจี้หยกออกมามองด้วยสายตาแน่วแน ในเมื่อครอบครัวคิดที่จะทิ้งนาง เช่นนั้นนางจะถือว่าตนเองไม่ใช้คนในตระกูลซื่ออีกต่อไป ต่อไปนี้นางจะแซ่ถัง เป็นถังไป๋เสวียนเต็มตัว นางถูทำความสะอาดจี้เพื่อจะได้แขวนคอ แต่มือดันพลาดไปโดนมุมของจี้ที่เป็นมุมแหลม
"โอ้ย..บ้าจริง"แต่พอเลือดหยดใส่หยกก็ถูกดูดหายเข้าไป แล้วอยู่ๆหยกก็เปล่งแสงออกมาก่อนที่มันจะหายเข้าไปในฝ่ามือทิ้งไว้เพียงลอยปานแดง
"อ้าว...ทำไมเป็นเช่นนั้นละ "นางถึงกับงงและเอานิ้วถูที่ลอดปายเผื่อหยกจะลอยออกมาเหมือนเดิม แต่แทนที่หยกจะออกมาแต่นางกลับเห็นห้องที่เก็บสินเดิมตนเองและสมบัติของท่านยาย พอเห็นดังนั้นนางเลยคิดว่าหยกอาจแปลสภาพหลังจากดื่มเลือดเจ้าของก็เป็นได้ คิดได้ดั่งนั้นนางจึงรีบขับรถม้าออกจากหลุมศพ เพราะนี้ก็ใกล้สว่างแล้ว นางจะรีบเข้าเมืองไปซื้อของให้น้องๆ โดยที่ไม่รู้ว่าทั้ง2ตระกูลกำลังหากุญแจคลังสมบัติของฮูหยินผู้เฒ่าซื่อที่มีทั้งอาวุธและสมบัติอยู่ในนั้น
ไป๋เฟิ่งอุ้มน้องสาวออกมายืนรอพี่สาวคนโตตั้งแต่เช้าด้วยความเป็นห่วง พี่ใหญ่ของนางไปตั้งแต่เมื่อคืนจนตอนนี้ใกล้ยามอู่(11:00-12:59น)แล้วก็ยังไม่เห็นพี่สาวของนางเลย
แต่แล้วนางก็เห็นรถม้ามาแต่ไกล พอแนชัดแล้วว่าเป็นพี่สาวของตนเองจึงยิ้มออกมา
"พวกเจ้าออกมาทำไม เข้าไปในบ้าน เดี๋ยวหย่างเอ๋อจะไม่สบายเอา"
พอขับรถม้าไปจอดที่หน้าคอกสัตว์ก็ลงจากรถม้าแล้วอุ้มแม่แพะกับลูกแพะลงมาจากรถม้าเอาไปไว้ในคอกใกล้ๆกับม้า
"พี่ใหญ่ซื้ออะไรมาเยอะแยะเจ้าค่ะ เหรียญเรามีพอหรือ?"
"ไม่ต้องห่วง ต่อไปนี้เราจะไม่ลำบากแล้ว พี่ไปเจอของวิเศษเข้า ข้างในมีสมบัติเยอะแยะเลย เราอยู่อย่างไม่ลำบากแล้ว"
"เจ้าของวิเศษนี้ใช้มั้ยที่พี่ใหญ่ไปหาเมื่อคืน"
"ใช้แล้ว..แต่เราจะบอกใครในเรื่องนี้ไม่ได้นะ ดั่งสุภาษิตที่ว่าคนเราวาดมังกรหรือเสือก็ยากที่จะวาดให้เห็นกระดูกได้ฉันใด การรู้จักคนก็ยากที่จะเข้าใจความรู้สึกหรือจิตใจที่แท้จริงของเขาได้ฉัันนั้น เข้าใจมั้ย"
"เข้าใจเจ้าค่ะ"
"ดี..เช่นนั้นเราเอาของเข้าไปเก็บในห้องเสบียงก่อน..เดี๋ยวค่อยมานั้งกินกัน พี่ซื้อของกินมาหลายอย่างเลย"
"เจ้าค่ะ"
"อ้ะ"ไป๋หย่างที่ผูกอยู่หลังของพี่สาวคนรองก็รับคำตามพี่สาว
"รู้เรื่องกะเขาด้วยหรือไงนะเจ้าก้อนแป้งน้อยของพี่"ไป๋เสวียนอดที่จะหมั่นเคี่ยวน้องสาวคนเล็กไม่ได้
