1
พิมพ์บงกชกะพริบตาถี่ๆ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นด้วยอาการมึนงง ใบหน้าของเธอรู้สึกแสบร้อนไปหมด คงเพราะแสงแดดที่แผดเผาสาดส่องลงมาบนใบหน้า เสียงคลื่นกระทบฝั่ง รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองแช่อยู่ในน้ำครึ่งหนึ่ง
“พิมพ์โอเคไหม”
เสียงที่เอ่ยถามแหบห้าวและดูอ่อนแรงไม่ต่างกัน เธอเหลือบสายตาไปมองคู่หมั้นหนุ่มที่นั่งยองๆ อยู่ไม่ห่าง
เขายื่นมือมาประคองร่างของเธอขึ้น พิมพ์บงกชร้องเพราะอาการปวดเมื่อยที่เกาะกินไปทั้งร่าง
“โอ๊ย!”
“ไหวไหม”
“พิมพ์โอเคค่ะ”
เธอกัดฟันพูด นึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เธอจำได้ว่าอลันพาเธอขับเรือหนีคนที่ตามฆ่าแต่ฝนตกหนักแล้วเกิดอุบัติเหตุเรือไปชนเข้ากับโขดหิน โชคดีนักที่เธอและเขารอดชีวิตมาได้
“เราคงต้องสำรวจเกาะกันก่อน”
สีหน้าของเขาอิดโรยไม่ต่างจากเธอ หญิงสาวรู้สึกได้ถึงลำคอที่แห้งผาก
“เดินไหวไหม”
อลันเอ่ยถามหญิงสาวที่เดินอยู่ด้านหลัง เธอพยักหน้าแต่ก้าวขาไม่ออก
“ขี่หลังพี่แล้วกัน”
พิมพ์บงกชไม่คาดคิดว่าเขาจะให้ขี่หลัง ปกติอลันเป็นคนเย็นชาไม่ใคร่จะสุงสิงกับเธอนัก แต่ในสภาวะเช่นนี้เขาดูมีน้ำใจอยู่มาก
“พี่อลันจะหนักนะคะ”
เธอบอกอย่างเกรงใจ เขาเองก็มีสภาพอิดโรยไม่ต่างจากเธอ
“พี่ไหว ปีนขึ้นมาเถอะ”
เขาเร่ง เธอจึงรีบทำตามอย่างไม่อิดออด กอดคอหนาของเขาเอาไว้ปีนขึ้นไปขี่หลังเขาในทันที
“ตรงนั้นมีถ้ำ เราน่าจะมีที่พัก”
เขาพาเธอไปนั่งพักตรงถ้ำ เดินสำรวจไปมาก่อนจะพยักหน้าพึงพอใจ
“พี่อลันจะไปไหนคะ”
เธอรีบคว้ามือเขาเอาไว้เมื่อเขาทำท่าจะหมุนกายเดินกลับไปยังทางเก่า
“จะไปสำรวจดูว่ามีอะไรจะช่วยเราได้บ้าง”
เขาพูดแค่นั้นก่อนจะเดินจ้ำอ้าวจากไป เพียงไม่นานเขาก็แบกเป้ใบใหญ่และข้าวของหลายอย่างตอนที่เรือแตกกลับมา
“มันลอยมาติดอยู่ตรงชายหาด น่าจะพอช่วยเราได้”
อลันรื้อข้าวของในเป้ออกมา เธอมองอย่างดีใจที่ของในนั้นมันมีประโยชน์หลายอย่างที่จะช่วยเหลือชีวิตเขากับเธอ
“พี่อลันคะ”
“ครับ”
“พวกไหนคะที่ตามฆ่าพิมพ์”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พ่อของพิมพ์ศัตรูเยอะนี่นา”
“ใช่ค่ะ”
เธอตอบแล้วกัดปากตัวเอง แบบนี้นี่ไงเธอถึงไม่อยากแต่งงานกับอลัน
ผู้ทรงอิทธิพลน่ะดีอยู่นะ มีอำนาจมีบารมีและเงินทอง แต่เธอชอบชีวิตสุขสงบมากกว่า เธอเลยไม่อยากแต่งงานกับอลันตามคำขอของบิดา และบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ในขณะที่ท่านบอกว่าเธอต้องมีคนคุ้มครองไปตลอดชีวิตและอลันเหมาะสมที่สุด อีกทั้งธุรกิจของบิดาก็มากมาย เธอเป็นลูกสาวคนเดียวต้องสืบทอด แต่จะสืบทอดได้นั้นต้องแต่งงานกับคนที่มีอำนาจบารมีเหมือนท่าน
เธอว่าอลันก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก แต่เธอก็ยังชอบชีวิตสุขสงบของตัวเองมากกว่า เธอไม่กล้าปฏิเสธบิดาตรงๆ แต่รู้อยู่เต็มอกว่าท่านรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
อลันเป็นชายหนุ่มลูกครึ่งที่มีใบหน้าคมสันหล่อเหลา ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันเขาก็ให้เกียรติเธอมาตลอด เป็นเธอเองนี่แหละที่พยายามหลีกเลี่ยงเขา
“เราคงต้องพักกันในถ้ำนี้ก่อน อีกไม่นานคงมืด แล้วค่อยคิดว่าจะทำยังไงกันต่อดี”
“ค่ะ”
เพราะไม่รู้จะต้องทำยังไง ตอนนี้มีอลันเท่านั้นที่เธอจะพึ่งพิงได้ สิ่งที่เธอจะทำได้ก็แค่ตอบรับว่า “ค่ะ” แล้วก็นั่งมองเขารื้อข้าวของตาปริบๆ
อลันชวนเธอออกมาขับเรือเล่น แต่จู่ๆ ก็มีคนร้ายที่ไหนก็ไม่รู้ตามมาทำร้าย เขาขับเรือหนีจนเกิดอุบัติเหตุ ลอยมาติดเกาะแห่งนี้นี่แหละ
เธอมองไฟแช็ก มีด และเสื้อผ้าในเป้อย่างดีใจ แต่ก็แปลกใจที่ในเป้มีของพวกนี้ด้วย
“พี่ว่าจะไปท่องเที่ยวสักพักในเรือส่วนตัวเลยมีของพวกนี้ ไม่คิดว่าจะมาติดเกาะ ดีนะที่เอาของใส่เรือเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเราสองคนคงแย่”
เธอพยักหน้ารับรู้ จำได้ว่าอลันเป็นคนชอบท่องเที่ยว เขามักแบกเป้และเดินทางไปทั่วทุกมุมโลก ค่อนข้างเป็นผู้ชายที่ลุยๆ แต่อีกในบุคลิกหนึ่งเขาคือนักธุรกิจมาดเนี๊ยบที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าอิจฉา
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบความเพียบพร้อมของเขา แต่เธออยากมีชีวิตสุขสงบมากกว่า
“เราต้องหาแหล่งน้ำ”
อลันเอ่ยบอกหญิงสาว มองเธอนิ่งอย่างใช้ความคิด
“รออยู่นี่ไหม”
“ขอพิมพ์ไปด้วยได้ไหมคะ พิมพ์ไม่อยากอยู่คนเดียว”
เธอกลัวว่าคนร้ายจะตามมาอีก
