
บทย่อ
อ้อมแขนกระชับให้ไออุ่น “ไง ยังจะเลิกอีกไหม” พี่ริวถามเสียงดุ เหมือนรู้ทันในสิ่งที่ผมกลัว “ที่คำว่ารักนะพูดยากเย็นนะ แต่ทำไมคำว่าเลิกถึงพูดง่ายจัง ไม่รักพี่เลยหรือไง” พี่ริวพูดเสียงแผ่วใส่หูลูบหลังปลอบ เสียงหัวใจพี่ริวเต้นสม่ำเสมอ คงไม่ได้พูดด้วยอารมณ์ซินะ “ผมขอโทษ ผมแค่กลัวพี่ไม่รัก” นาโนพูดเสียงแผ่ว ใจเราตรงกันจริงๆ ต่างฝ่ายต่างกลัวอีกคนไม่รัก “ถ้าไม่รักมึง วันแรกมึงไม่ได้มาห้องนี้หรอก” ผมบอกความรู้สึกออกไป “กูอาจจะหลงรักเด็กผู้ชาย คนที่ร้องไห้ขี้มูกโป่งวิ่งหนีไปตั้งแต่วันแรกแล้วก็ได้” ประโยคที่สองที่ยอมบอกความในใจ “พี่รักผมตั้งแต่วันแรกเลยหรอ” ผมสวนคำถามกลับทันที “เออ!! รักใครก็ไม่รู้ที่เอาแต่หนีกู” พี่ริวตอบด้วยคำพูดและลมหายใจที่เข้ามาคลอเคลียข้างแก้มขาว เราหยอกล้อกันต่อสักพักจนนึกถึงไมโครขึ้นมา ปรี่หาโทรศัพท์พยายามกดเบอร์โทรแต่อีกฝ่ายปิดเครื่อง พี่ริวพูดให้ผมแยกแยะอย่าไปวุ่นวายกับความรักของคนอื่น “ฟังพี่นะ ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน และโชคชะตาดูอย่างเรื่องของเราซิ สุขบ้างทุกข์บ้างแต่เราก็รักกัน คู่ของไมโครกับกรก็เหมือนกัน ให้เวลาให้เป็นเรื่องของเค้าเถอะ เราอยู่ห่วงใยห่างๆ ก็พอนะ” ประโยคนี้ผมเรียนรู้ได้ เพราะมันมาจากความรักของตัวเองล้วนๆ ประสบการณ์ที่พี่ริวเคยทิ้งขว้างความรักของผู้หญิงคนหนึ่ง เพราะช่วงนั้นวัยนั้นยังไม่รู้จักความรักความรัก แต่วันนี้ผมโชคดีมากที่ได้อยู่ในช่วงที่พี่ริวรู้จักรักใครจริงๆ สักคนหนึ่ง ขอให้ความรักของเราคือความห่วงใยอยู่ดูแลกันไปทุกๆ วัน มันคือความสุขที่ผมสัมผัสได้จริง อย่าละเลยความรัก เพราะความรักดำเนินไปในทิศทางของมันทุกๆ วัน ถ้าวันไหนรักเดินไปผิดทางเราอาจกลับมาแก้ไขไม่ทันแล้ว ผมรู้แค่ต้องดูแลหันให้มีความสุขทุกๆ วัน ไม่อยากคาดหวังหรือกะเกณฑ์อะไรปล่อยให้ความรักของเราเป็นไปในทิศทางของมัน
INTRO
Nano's Part
1 ปีที่แล้ว
"11 โมงอย่าเลทนะนาโน ถ้ามาช้ามะเหมี่ยวกลับจริงๆ ด้วย" คำสั่งแกมบังคับที่หลอกหลอนผมตลอดคืน ทำเอานอนไม่หลับกระสับกระส่ายกลัวว่าจะไปสาย ผมต้องไม่พลาดนี่คือเดทแรกของผมกับสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนเชื่อเถอะ!! ทุกคนต้องอิจฉาผมเวลาที่เดินเคียงคู่ไปกับมะเหมี่ยวมือเราอาจจะเผลอโดนกันแบบไม่ตั้งใจ ผมอาจจะได้จูงมือเธอข้ามถนนตอนที่นั่งทานอาหารร้านที่เธอชอบ เธอคุยสนุกสนานน่ารักน่ามอง เสียงเล็กออดอ้อนจนผมอาจจะเผลอใจเต้นแรงไปกับเธอ ผมจะถือโอกาสนั่งแท็กซี่ไปส่งเธอที่บ้านแล้วเธอก็หอมแก้มผมเป็นการขอบคุณ
"ขอบคุณนะ นาโนเป็นสุภาพบุรุษมากๆ เราชอบเธอจัง"
กริ๊ง กริ๊งง...
เสียงไอโฟนคู่ใจปลุกผมจากภวังค์ทันทีเวลาตอนนี้เพิ่งจะแปดโมงผมยิ้มกับฝันดีที่ปลุกความเป็นชายจนผงาดงำน่าเกรงขาม ไม่ใช่ย่อยนะเราเนี่ยดูดีเลยทีเดียวผิวทุกส่วนในร่างผมขาวละเอียดเนียนนุ่มน่าสัมผัส แม้แต่ส่วนที่ใครๆ ก็ดูแลยากเพราะมันทั้งอับทั้งชื้นของผมยังใสกิ๊กประหนึ่งผิวเด็กแรกเกิดก็ไม่ปาน
"นาโนตื่นแล้วก็มาห้องพี่หน่อย มารีวิวครีมให้ทีดิ" ได้ยินไม่ผิดครับเห็นหน้าแหยๆ ไม่สู้คนแบบนี้ผมรับจ้างพี่สาวรีวิวครีม งานง่ายเงินดีขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมากนอนนิ่งๆ อย่างเดียวเดี๋ยวพี่ไมโครก็จะเอาแผ่นขาวๆ มามาร์กหน้าให้ คุยโม้อวดสรรพคุณไปเรื่อยถูๆ ล้างๆ เช็ดๆ แล้วก็ซูมกล้องมาใกล้ๆ แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับคลิปหนึ่งผมได้ค่าเหนื่อยตั้งหลายร้อยแล้วคิดดูว่าทำทุกวันผมจะมีเงินเก็บขนาดไหน
พี่ไมโคร : "แกผิวดีเพราะครีมพี่เลยนะเนี่ย รู้ตัวหรือเปล่า"
นาโน : "ไม่จริงอะพี่ ผมว่าผมก็หล่ออยู่แล้วนะ"
พี่ไมโคร : "ใส่แว่นหนาเตอะ แต่งตัวถูกระเบียบเป๊ะ หัวเกรียนขนาดเนี่ย"
พี่ไมโคร : "หน้าดี มันก็ยังไม่พอปะ"
นาโน : "พอไม่พอไม่รู้อะ อย่างน้อยวันนี้ผมก็ได้เดทกับดาวที่โรงเรียน"
พี่ไมโคร : "เดทกับสาวหรอ"
นาโน : "ดาว ก็ต้องผู้หญิงดิพี่"
พี่ไมโคร : "อ้าว!! พี่ก็นึกว่าแกชอบเดือน"
นาโน : "เฮ้ย!! พูดอะไรน่าเกลียด"
พี่ไมโคร : "น่าเกลียดตรงไหน ผู้ชาย-ผู้ชายคบกันดูดีจะตายไป"
นาโน : "พอๆ อย่าเอาความวายในตัวพี่ มายัดเยียดให้ผม"
ผมรีบลุกหนีทันทีเพราะพี่ไมโครสาววายตัวแม่เลยแก๊งนางแต่ละคนเฉิดฉายสไตล์เน็ตไอดอลไร้แฟนกันทั้งนั้น เพราะมั่วแต่ลุ้นให้ผู้ชายได้กันเองจนไม่มีเวลาหาไง ผมไม่อยากคุยเดี๋ยวยาวเอาเวลาไปแต่งหล่อไปหาสาวดีกว่า
จ้องตัวเองในกระจกเช็คเสื้อผ้าหน้าผม ไม่ลืมส่องไรฟันเช็ดซากวัชพืชสูดลมหายในเข้าออกเช็คกลิ่นหอมสดชื่นเสื้อยืดมีแบรนด์ตัวเดียวในตู้ถูกสวมอย่างบรรจงรีดจนเรียบกริบกับกางเกงยีนส์ตัวเก่ง รองเท้าผ้าคู่ประจำมองตัวเองตอนนี้มั่นใจสุดๆ
กว่าจะฝ่าจราจรจากชานเมืองมาสยามได้ก็เกือบสายแล้วครับขนาดผมเผื่อเวลาแล้วนะยังจวนเจียนเลย เหลืออีกแค่สิบนาทีผมวิ่งสุดตัวเพื่อเดทแรก สาวคนแรก หอมแก้มแรก อาจจะจูบแรกของผม ปัง!!...#ชนจังๆ กับอกใครบางคน
"ขอโทษครับ" เงยหน้าขอโทษอย่างรีบร้อนจะได้จบๆ ไปแต่จังหวะนั้นอีกคนดันก้มลงมา ในขณะที่ผมกำลังจะขอโทษอีกคนกำลังจะด่าปากเราสัมผัสเปิดสองกลีบเข้าหากันพอดีผมอึ้งเหมือนเวลาหยุดหมุนตาจ้องคนตรงหน้าค้างเหมือนคนกำลังฝัน เผลอเม้มปากเขินอายอย่างไม่รู้ตัวเดี๋ยว!! นี่ผมกำลังอายและเม้มปากอีกคนอยู่หรอ
แรงดีดที่หน้าผากเจ็บจนกะโหลกจะร้าว คนอะไรมือหนักชะมัด "มึงจะจูบกูอีกนานไหม" คำถามแรกทำเอาผมตัวชาวาบอึกอักราวกับพูดภาษาไทยไม่ได้ไปชั่วขณะตอนนี้ร่างตอบสนองเป็นภาษากายทั้งสั่นประหม่าส่ายหน้าค้าน "ไม่ใช่จูบเค้าเรียกว่าปากแตะกันตั้งหาก" พูดจบผมก็เดินหนีทันที
ไลน์!! ไลน์!!
มะเหมี่ยว : "บอกแล้วไงว่าห้ามสาย เราไม่ชอบคนไม่ตรงเวลา"
มะเหมี่ยว : "นายก็เที่ยวคนเดียวแล้วกัน"
มะเหมี่ยว : "บาย"
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผมซวยสองครั้งซ้อนในวันเดียวเดทแรกพังตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม ทุกอย่างที่คิดไว้หายไปทันทีแถมจูบแรกของผมยังเสียให้กับใครก็ไม่รู้...ที่เป็นผู้ชายอีกด้วย เวรกรรม!!
