บท
ตั้งค่า

4

“เสียงดังทำไม” คำถามเสียงแน่นหนักดังสวนทางประตูห้องที่ถูกเปิด

“ขวัญ...เอ่อ ฝันร้ายนะคะ” ดีแลนหลี่ตาสำรวจขวัญในทันที

“แล้วนอนคนเดียวได้มั้ย” !!! ขวัญเบิกตากว้างอ้าปากค้าง “ถ้าไม่ได้ก็ไปเรียกป้าภามานอนเป็นเพื่อน” ขวัญกระพริบตาถี่เร็วทันที เมื่อกี้เธอคิดอะไรอยู่

“อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ มันก็แค่ความฝัน ใช่ๆๆๆมันเป็นได้แค่ฝันเท่านั้น” ดีแลนจดจ้องมองอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดแปลกๆของเธอ เขาโน้มตัวลงมาใกล้มากขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวเขาเรียกสติของขวัญที่แตกกระเจิงที่พึ่งจะกลับมารวมกันแตกกระเจิงอีกครั้ง “ขวัญร้องดังทะลุกำแพงไปรบกวนคุณฟงเลยเหรอคะ!!” กลิ่นน้ำหอมแบรนด์ Bvlgari Extreme Pour Homme ทำให้หัวใจดวงเล็กๆสั่นแปลกๆ ยามกลางวันก็ได้กลิ่นจนคุ้นแต่ยามกลางคืนปกติเธอกับเขาไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่ และยิ่งเธอพึ่งผ่านการฝันลามกมาหมาดๆ ใจมันก็เลยเต้นแปลกๆ

“เปล่า ฉันเดินอยู่พอดี”

“อ่อ...ค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะ” ต้องรีบแยกย้าย

“ฉันยังไม่นอน ส่วนขวัญก็ไปนอนต่อเถอะ” พูดจบเขาก็เดินจากไป คุณฟงนอนไม่เป็นเวลา สาเหตุก็มาจากงานที่เขาทำ เขาเป็นนักออกแบบอัญมณีเครื่องประดับ เท่าที่พอรู้มาคือเขาออกแบบให้กับธุรกิจของครอบครัวเขาเอง เธอเคยเห็นเป็นภาพสเก็ต ของจริงนะเหรอแน่นอนว่าไม่เคยเห็น อย่างดีก็เคยเห็นเป็นรูปแบบโมเดลในคอมพิวเตอร์ สวยจนยากที่จะละสายตาเลยละแต่ละชิ้นที่ออกมา

พึ่บ! และจู่ๆมือเล็กก็คว้าจับแหวนที่ห้อยเป็นจี้อยู่ที่คอ ในความคิดเธอตอนนี้ทำไมเธอถึงอยากให้แหวนวงนี้คือผลงานของเขาเสียให้ได้นะ แต่จะเป็นไปได้อย่างไรไงการแต่งงานระหว่างเธอกับเขาก็แค่ให้เขาได้อยู่เมืองไทยได้อย่างสงบสุข เหตุผลเพียงเท่านี้เท่านั้น

ในเช้าวันรุ่งขึ้น ที่โต๊ะอาหารสองคนนั่งกินมื้อเช้าอย่างเงียบๆ เหมือนกับทุกวันแม้วันนี้จะเป็นวันหยุดของขวัญ เธอมีสอบอีกครั้งอาทิตย์หน้า ถ้าเป็นเด็กคนอื่นๆก็คงตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ แต่สำหรับเธอวันนี้เธอจะตั้งหน้าตั้งตาจัดห้องสมุดของคุณฟงให้เสร็จไม่เกินเที่ยงคืนวันนี้ให้จงได้ สถิติใหม่เลย

“ขวัญอิ่มแล้วขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” พูดจบไม่รอคำอนุญาต ขวัญรีบลุกและวิ่งไปยังห้องสมุด ดีแลนได้แต่มองตามแผ่นหลังและยิ้มน้อยๆ โดยไม่มีใครได้เห็นรอยยิ้มของเขา

ขวัญกวาดตามองหนังสือในห้องขนาดสิบสองคูณสิบสอง ห้องนี้เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของบ้านเพราะมันรวมห้องทำงานของคุณฟงไว้ในนี้ด้วย

ควับ! ขวัญหยิบหนังสือกองสูงบนโต๊ะทำงานตัวยาว “โห๋!!! มาใหม่เยอะเลย” ขวัญเดินเลี้ยวเข้าไปนั่งเก้าอี้ตัวสูงหลังโต๊ะที่มีอยู่ตัวเดียวตรงนั้น เป็นเก้าอี้ที่นั่งสบายมากและทนทานมาก เธอเห็นมันครั้งแรกเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้มันก็ยังอยู่ ยามเธอนั่งไม่ต่างกับว่าเธอถูกห่อหุ้มไว้เพราะเก้าอี้ตัวใหญ่มากแต่ยามที่คุณฟงนั่งมองแล้วช่างลงตัวและสง่างามมาก

ขวัญเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์และเลื่อนหาไฟล์ของตัวเองเมื่อนานมาแล้วและมันก็ยังอยู่จริงๆ เธอเริ่มทำงานทันทีจากหนังสือที่มาใหม่ ไม่อยากจะบอกว่าความจริงแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นตื่นตระหนกตกใจเรื่องทำป้ายหนังสือของคุณฟงไปอย่างงั้นเอง คุณฟงไม่ใช่คนหยาบโลนตรงกันข้ามเขาเป็นคนพิถีพิถันมากเกินไปด้วยซ้ำ เข้าของของเขาจึงอยู่ในสภาพดีคงทนยาวนาน เธอก็แค่ทำป้ายเพิ่มสำหรับหนังสือใหม่ และเดี๋ยวก็เดินไปตรวจเช็คหนังสือที่ชั้นหนังสือว่ามีเล่มไหนบ้างที่ป้ายหลุดหรือชำรุด

ผลั๊วะ! ขวัญที่ไม่รู้ตัวเลยว่านั่งทำป้ายหนังสือมาใหม่นานเกือบสี่สิบนาที ดีแลนผลักประตูเข้ามาเห็นว่าเธอยังมุ่นอยู่กับการติดป้ายหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาจึงเดินไปหยิบหนังสือเล่มหนาปกแข็งสีน้ำตาลที่อ่านค้างไว้ ที่มุมโต๊ะและเดินไปนั่งที่เก้าอี้ริมหน้าต่าง ซึ่งด้านนอกจะมองเห็นสวน เป็นฆ่าเวลารอโต๊ะสำหรับทำงานจะว่างสำหรับเขา

ผลั๊วะ! สิบห้านาทีต่อมาในห้องสมุดที่เงียบงันประตูก็ถูกผลักเข้ามาอีกครั้ง !!! อีวานจะเรียกว่าตกใจหรือแปลกใจดีที่เห็นขวัญนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของน้องชาย และยังใช้คอมพิวเตอร์ของน้องชายด้วย เหลือเชื่อ! ยิ่งหนักเข้าไปอีกที่เห็นเจ้าน้องชายนั่งอ่านหนังสืออยู่อีกมุมของห้องอย่างไม่ทุกข์ร้อน

คนในครอบครัวไม่มีใครกล้ายุ่งวุ่นวายกับเข้าของของเจ้าน้องชายที่หยิ่งยโสคนนี้เลย อย่างตัวเขาเองยังจำได้ว่าสมัยเรียนตอนเด็กๆ ตอนที่เขาไปใช้คอมพิวเตอร์ของเจ้าน้องชายตอนนั้นเขาต้องแบกรับภาระคอมพิวเตอร์ใหม่ถึงสองเครื่อง เพราะดีแลนยืนยันว่าจะไม่ใช้เครื่องนี้อีกแล้วเพราะอะไรคงจะเดากันออก นี่ยังน้อยนะ! เพราะถ้าแค่นั้นจะเอามาตัดสินน้องชายเลยก็ดูจะไม่ยุติธรรม เขากับดีแลนเติบโตเคียงข้างกันมาโดยตลอดประสบการณ์การเรียนรู้นิสัยถือองค์ของเจ้าน้องชายค่อยๆซึมซับเขาทีละน้อย จนเขาแปลกใจกับภาพที่เห็นอยู่ตอนนี้

“ขวัญไม่ได้ใส่ถุงมือนะ” ดีแลนเหลือบตาหันมามองพี่ชายฝาแฝดอย่างไม่สบอารมณ์

“สามีกับภรรยาถือว่าเป็นคนคนเดียวกัน”

“เหรอ....” อีวานมองน้องชายอย่างหมั่นไส้ แต่เมื่อหันไปมองสาวน้อยก็อดยิ้มไม่ได้ ขวัญก้มหน้าก้มตาพิมพ์อะไรอยู่นั่นเขาก็ไม่รู้ แต่ที่เขารู้ตอนนี้คือ เขาได้เห็นหญิงสาวที่สามารถทำลายกำแพงในตัวน้องชายเขาได้แล้ว

“มองน้องสะใภ้นานแบบนั้น รู้สึกมีกำลังใจไปต่อสู้กับคุณย่าแทนน้องชายแล้วใช่มั้ย”

“เคยได้ยินมาเหมือนกันนะคำที่ว่าพี่น้องฝาแฝดคนที่เกิดก่อนนั้นแท้จริงแล้วคือน้อง เพราะคนเป็นพี่เสียสละให้น้องได้ออกมาก่อน...ฉันชักจะเชื่อแล้วเพราะฉันที่เป็นพี่ตามเวลาทางการแพทย์ต้องฟังคำสั่งแกที่แท้จริงแล้วเป็นพี่ตัวจริงตามเวลาของพระเจ้า” ดีแลนยิ้มและยักคิ้วให้พี่ชายหนึ่งที

“แต่ซูซี่โตขึ้นมาสวยมากๆเลยนะโว้ย ไม่ลองเจอกับหล่อนหน่อยเหรอ”

“เปลี่ยนเรื่องพูดเถอะ”

“เออ...นี่ถ้าไม่ใช่เพื่อมาร์คแล้วนะ ฉันไม่มีทางยอมให้แกแน่ๆ ทำไมนะพระเจ้าไม่ให้แกเป็นไบเซ็กชวลด้วยนะ”

“ถ้าพี่กบฎผมรู้แน่ๆ”

“เออ ไม่ต้องขู่ ยังไงฉันก็ประเภทเลือดข้นกว่าน้ำ” ดีแลนยิ้มแต่อีวานไม่ยิ้มด้วย เพราะตอนนี้เขาก็ไม่ต่างทำตัวเป็นนกสองหัว แต่จริงๆแล้วเขาเลือกเข้าข้างน้องชายของเขาอยู่แล้ว

ตอนที่คุณย่ารู้ว่าเขาเป็นไบเซ็กชวล ตอนนั้นไม่ต้องบรรยายเลยว่าคุณย่าจะรู้สึกอย่างไร แต่เนื่องจากยังมีดีแลนอีกคนเขาจึงถูกบังคับกึ่งต่อรองว่าเขาจะมีมาร์คต่อไปได้ก็ต่อเมื่อดีแลนแต่งงานมีลูกกับซูซี่ อย่างหลังเขารู้ว่ายากเพราะไม่มีใครหรอกนะที่จะบังคับดีแลนได้ เพราะฉะนั้นเขาจึงลุ้นอย่างแรกคือต้องมีลูกให้ได้ เมื่อคิดมาถึงตอนนี้สายตาก็พลันหันไปมองหญิงสาวที่ถูกเลือกไว้แล้วอีกครั้ง

“แล้วเรื่องที่คุยกันเมื่อคืน แกคิดยังไง จะจัดการเมื่อไหร่”

“ผมก็บอกไปแล้วว่ายังโตไม่เต็มที่ ไม่ใช่ตอนนี้ และจะไม่คุยเรื่องนี้กันอีก...ตามนั้น”

“แล้วถ้าซูซี่มาละ”

“อยากมาก็มา ไม่เกี่ยวกับผม”

“เบื่อว๊ะ เชิญแกทำตัวเป็นปลากัดไปแล้วกัน หวังว่าคงจะสำเร็จนะ ฉันไปเที่ยวดีกว่า...เออ อย่าลืมส่งแบบด้วยนะ ทางโน้นเร่งมาแล้ว เย็นเจอกัน” ดีแลนพยักหน้า

ผลั๊วะ เสียงประตูเปิดปิดลงอีกครั้งและห้องก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง “ขวัญ ไปเอาน้ำเข้ามาให้หน่อย” ขวัญที่ลุกจากเก้าอี้พอดีพยักหน้าและเดินออกจากห้องไป ดีแลนเดินไปนั่งแทนที่ทันที เขามองรายการหนังสือที่ขวัญพิมพ์ไว้ในระบบและยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะย่อหน้าจอไว้และเปิดงานของตัวเองขึ้นมา

“หนังสือบนโต๊ะนี้ขวัญเอาไปเรียงจัดเข้าหมวดหมู่ได้เลยมั้ยคะ” แก้วน้ำถูกวางไว้ในตำแหน่งของมันบนโต๊ะ

ดีแลนเลือกหยิบหนังสือออกมาสองสามเล่มและก้มหน้าทำงานต่อโดยไม่ได้พูดอะไร ขวัญก็รู้และเข้าใจเธอเริ่มคว้าหยิบหนังสือที่ไม่ได้ถูกเลือกเอาออกจากโต๊ะไปอย่างรู้งาน

ขวัญและเขาก็เป็นแบบนี้เสมอไม่ค่อยมีคำพูดอะไรมากมายนัก ที่เป็นแบบนี้เพราะเขามากกว่า คุณฟงไม่ใช่คนช่างพูด แตกต่างกับเธอที่ปกติจะเป็นคนช่างพูดแต่กับเขาเธอกลับพูดน้อยมาก

อึ้บ! อึ้บ! ขวัญชนกที่ไม่ประมาณตัวเองพยายามจะเก็บหนังสือตามหมวดที่อยู่สูงเกินมือเอื้อมสำหรับเธอโดยที่เธอเกิดขี้เกียจเดินไปหยิบบันไดเล็กมา หมับ! มือที่ใหญ่กว่าพร้อมไออุ่นของคนจากด้านหลัง

“ขอบคุณค่ะ” เอ่ยโดยที่ไม่กล้าหันกลับไปมองแม้เขาจะสูงกว่ามาก แต่เธอก็เคยดูซีรี่ห์นะ หันปุ๊บจุ๊บปั๊บ ว่าแต่ทำไมคุณฟงยังไม่ไปอีกละ เอาไงดีละคราวนี้ ขวัญลังเลใจเต้นแรงมากขึ้น ในห้องที่เงียบและมีเพียงแสงสลัวกับเสียงลมหายใจของเขาและเธอ

“คืนนี้ขวัญต้องออกงาน”

ควับ! “งาน?” ร่างกายตอบรับหันกลับมาดวงตาเบิกกว้างเมื่อต้องเจอกับใบหน้าคมสันที่โน้มลงมารออย่างรู้อนาคต....

ลมหายใจหอมอ่อนๆของคุณฟงเป่ารดที่ใบหน้าขาวที่ตื่นนิดๆ ดวงตากลมยังคงเบิกกว้างจับจ้องมองทุกอย่างบนใบหน้าของคนที่สูงกว่าที่โน้มลงมาใกล้มาก ความใกล้ชิดที่มากกว่าครั้งไหนๆตั้งแต่ที่อยู่ด้วยกันมา

และภาพจากความฝันที่ยังตกค้างอยู่ในความทรงจำของหญิงสาวก็ปรากฎขึ้น ใบหน้าเห่อร้อนจนแดงจัด

ยามที่เธอกำลังควบกลืนกินร่างใหญ่อยู่ด้านบนขยับโยกไปมาซ้ายขวาบนลงล่างสลับไปมาอย่างเมามันส์ ซึ่งขวัญไม่รู้เลยว่าไปเอาบทรักท่าแบบนี้มากจากไหน ยิ่งยามที่แท่งเนื้อขนาดใหญ่ที่ผลุบๆโผล่ๆเป็นจังหวะตามแรงโยกแรงขยับของสะโพกของเธอแล้ว แค่คิดต่อร่างกายเธอก็แปลกๆ และภาพแก่นเนื้อขนาดใหญ่สะท้อนก็ยิ่งแจ่มชัดมากคิดจนเธอหายใจไม่สะดวกเมื่อเข้าของภาพมโนอยู่ใกล้แบบนี้

“ขวัญ!” และทุกอย่างก็มืดลงอย่างเฉียบพลัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel