ตอนที่ 6
ตอนที่ 6
“นังวินนี่ แกเป็นอะไร วิ่งกระหืดกระหอบยั้งกับหนีผีมางั้นแหละ” พัชรีทักด้วยเสียงติดตลก
“พี่เห็นยัยไอหรือเปล่า”
“ไม่เห็นนะ”
“แล้วยัยไอไปไหนแต่เช้า นี่ก็จะไปขึ้นเครื่องกลับแล้วด้วย”
“แกพูดเหมือนเมื่อคืนน้องไอไม่ได้นอนอยู่กับแก”
“เมื่อคืนฉันอยู่ในงานเลี้ยงยันเช้า ว่าแต่เมื่อคืน พี่กับยัยไอเดินกลับด้วยกันไม่ใช่เหรอ พี่เห็นยัยไอเดินเข้าบ้านพักหรือเปล่า”
“กลับด้วยกันจริง แต่พี่ลืมโทรศัพท์ที่ฝากกับคนในงานไว้ เลยต้องย้อนกลับไปเอา ส่วนน้องไอก็เดินกลับบ้านพักคนเดียว ว่าแต่น้องไอหายไปจริงๆ เหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน เจอแต่โทรศัพท์ตกอยู่ตรงทางเดิน”
“แล้วไปตกได้ไง” พัชรีเอ่ยถามด้วยความตกใจ
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“งั้นแกไปถามพนักงานดูสิ เผื่อมีคนเห็นน้องไอ” พัชรีแนะนำ
“ก่อนมาฉันก็ถามแล้ว แต่พนักงานบอกว่าไม่เห็น”
“หรือแฟนน้องไอมารับกลับไปแล้ว”
“ยัยไอมีแฟนที่ไหนกันล่ะ แต่ฉันไปตามหาให้ทั่วรีสอร์ตก่อนนะ”
“แล้วแกจะให้พี่ช่วยหรือเปล่า”
“ไม่ต้องหรอก” วนาวินตอบกลับจบแล้วก็รีบเดินไปหาพนักงานเพื่อขอให้ทางรีสอร์ตเปิดกล้องวงจรปิดให้ดู เผื่อจะได้เห็นว่าไอศิกาออกไปไหนแต่เช้า แต่ปรากฏว่ากล้องของรีสอร์ตไม่ได้เปิดใช้ เลยไม่ได้มีการบันทึกอะไรไว้ตั้งแต่เมื่อวานเย็น
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย จู่ๆกล้องก็ไม่เปิดใช้งานซะงั้น’
*************************
ช่วงสายของวัน…ที่กรุงเทพฯ
“กรี๊ด!!!”
หลังจากได้ดูภาพถ่ายจากผู้หวังดีส่งมาให้แล้วหลานสาวเจ้าของบ้านวงศ์ศุลีรักษ์ก็กรีดร้องจนทำเอาคนในบ้านตกอกตกใจ โดยเฉพาะผู้เป็นย่าที่กำลังนั่งสนทนาอยู่กับคนรู้จัก ที่ได้ย้ายออกไปจากหมู่บ้านมาหลายปี แต่เผอิญมาทำธุระแถวนี้จึงแวะเข้ามาเยี่ยม
“ดิฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” แขกของบ้านกล่าวขึ้น หลังสิ้นเสียงกรีดร้องของคนในบ้านได้ไม่กี่นาที
“ขอบใจนะที่แวะมาเยี่ยม”
“ค่ะ ดิฉันลานะคะ”
คุณย่าศิริภาพยักหน้าและยิ้มให้กับแขก แล้วเรียกหาคนในบ้าน
“แม่รุ่ง! แม่รุ่ง! มาพาแขกไปส่งที่รถแทนฉันที”
“เชิญค่ะ” ป้ารุ่ง แม่บ้านคนเก่งเข้ามาเชิญแขกของบ้านแล้วเดินนำพาแขกออกไปขึ้นรถ ส่วนทางคนเป็นเจ้าของบ้านก็เรียกหาสาวใช้ แล้วบอกให้พยุงขึ้นไปบนห้องพักของหลานสาวด้วยความเป็นห่วง ที่จู่ๆ ก็กรีดร้องซะลั่น
ก๊อกๆ
“หนูตี้ เปิดประตูให้ย่าที” คนเป็นย่าส่งเสียงบอก หลังเด็กรับใช้เคาะห้องเรียกอยู่สองสามครั้ง แต่หลานสาวยังไม่ยอมเปิดประตู
ก๊อกๆ
“คุณตี้ขา เปิดประตูให้คุณย่าด้วยค่ะ” สิ้นเสียงของสาวใช้ ประตูห้องพักก็เปิดออกกว้างและก็ทำให้ผู้เป็นย่าตกอกตกใจหนักกว่าเดิม เมื่อหลานสาวเดินร้องไห้ออกมา ก่อนที่คนเป็นย่าจะไล่ให้สาวใช้ลงไปข้างล่าง จากนั้นก็เรียกให้หลานสาวกลับเข้าไปในห้อง แล้วสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณย่า ฮือๆ คุณย่าช่วยตี้ด้วยค่ะ” อติญา วงศ์ศุลีรักษ์ หลานสาวคนโปรดของผู้เป็นย่าร่ำไห้ด้วยเสียงสะอึกสะอื้นน่าเวทนา
“บอกย่ามาลูก มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมหลานย่าถึงได้ร้องห่มร้องไห้มากขนาดนี้” คนเป็นย่าเพียรถามหาต้นเหตุ ด้านหลานสาวก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ปานใจจะขาด “นิ่งนะลูก แล้วบอกย่ามาว่าเกิดอะไร หรือใครทำให้หลานย่าเสียใจ”
“คุณศานต์ค่ะคุณย่า คุณศานต์นอกใจตี้ ฮึก…ฮือๆ”
“หลานว่าอะไรนะ!” คนเป็นย่าตกใจจนคิดว่าตัวเองต้องฟังผิดแน่ๆ
“คุณศานต์นอกใจตี้ค่ะคุณย่า เขาอุ้มผู้หญิงเข้าบ้านกลางดึก เขาไม่รักตี้แล้ว ฮือๆ”
“ถึงกับอุ้มเข้าบ้านกลางดึกเลยเหรอลูก”
“ค่ะคุณย่า” พูดจบอติญาก็ร้องไห้เสียงใจเมื่อคนที่กำลังจะหมั้นหมายแอบมีคนอื่น “คุณย่าขา ตี้จะทำยังไงดีคะ หรือคุณศานต์หมดรักตี้แล้ว ฮึก…ฮือๆ”
“แล้วหนูรู้ได้ยังไงว่าเขานอกใจ”
“คนมีคนหวังดีเขาโทรมาบอกตี้ค่ะคุณย่า” คนเป็นย่าฟังแล้วก็พูดปลอบหลานสาว “ย่าว่าหนูทำใจดีๆ ก่อนนะ บ้างทีคนหวังดีคนนั้น อาจจะหลอกหนูก็ได้”
“แต่เขาส่งรูปมาให้ตี้ดูด้วยนะคะ แล้วถึงจะเห็นแค่ข้างหลัง แต่ตี้ก็จำได้ว่าเป็นคุณศานต์ แล้วรถที่คุณศานต์อุ้มผู้หญิงคนนั้นออกมาก็เป็นรถของอรลดาวิลเลจด้วยนะคะคุณย่า”
