บทที่ 3 ถอนพิษกำหนัดให้คุณโฮสสุดหล่อ
บทที่ 3
ถอนพิษกำหนัดให้คุณโฮสสุดหล่อ
เหยาหนิงหลงยืนชื่นชมความหล่อเหลาของโฮสหนุ่มด้วยหัวใจที่เต้นระรัวแรง ตั้งแต่เกิดมาดูเหมือนว่าครั้งนี้หัวใจของเธอจะเต้นแรงที่สุดในชีวิตแล้วก็เป็นได้
ตึก! ตึก! ตึก!
“ฉันตัดสินใจแล้วพรหมจรรย์ที่รักษามาถึงยี่สิบห้าปี ฉันจะมอบให้คุณ!”
จังหวะนั้นเองโฮสหนุ่มรูปงามก็ลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาดุกร้าวน่ากลัวแตกต่างจากใบหน้าหล่อเหลาลิบลับ เขาขบกัดสันกรามจนปูดโปนก่อนจะเค้นเสียงลอดไรฟันออกไป
“มาแล้วหรือ!”
น้ำเสียงทุ้มติดจะแหบพร่า เหยาหนิงหลงสังเกตว่าโฮสหนุ่มผู้นี้มีจังหวะการหายใจหอบถี่ หากมองดีๆ บนใบหน้ามีหยดเหงื่อเกาะพราวมากมาย แม้ชายหนุ่มจะพยายามเก็บอาการแต่ก็เห็นชัดว่ากำลังพยายามกดข่มความทรมานที่พลุ่งพล่านอยู่ภายใน
“ถะ...ถ้าคุณไม่สบายก็ไม่เป็นไร ปะ...ไปเรียกโฮสคนอื่นมาบริการฉันก็ได้นะคะ”
เหยาหนิงหลงเอื้อมมือหมายจะไปแตะไหล่โฮสหนุ่ม หากดูท่าไม่ดีเธอตั้งใจจะไปเรียกพนักงานให้มาดูอาการป่วยของโฮสหนุ่มคนนี้
ทว่า...
มือเล็กกลับถูกมือหนาคว้าหมับ แล้วโดยที่หญิงสาวยังไม่ทันตั้งตัวนางก็ถูกเขากระชากแรงจนร่างเล็กลอยหวือไปนั่งบนตักเขา
“อ๊ะ!”
หญิงสาวอุทานได้เพียงเท่านั้นโฮสหนุ่มก็วางปลายคางลงมาที่ไหล่ของเธอราวกับสิ้นไร้เรี่ยวแรง รับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนที่เป่ารดต้นคอของเธอจนขนอ่อนบริเวณนั้นถึงกับลุกชันด้วยความซ่านสะท้าน
“ข้าสั่งให้เจ้าแก้พิษให้ข้า เดี๋ยวนี้!”
ชายหนุ่มเค้นเสียงลอดไรฟัน ดวงตาเริ่มแดงก่ำ ลมหายใจหอบกระชั้นมากขึ้น
“อะ...เอ่อ ระ...หรือว่าคุณไม่ได้ป่วย แต่กำลัง...กะ...กำลังโรลเพลย์อยู่งะ...งั้นเหรอ”
เหยาหนิงหลงเข้าใจว่าโฮสหนุ่มคงกำลังแสดงบทบาทสมมุติอยู่ เวลานี้เขาแต่งกายด้วยชุดจีนโบราณ พูดจาดั่งคนโบราณ ดังนั้นคงกำลังแสดงบทบาทสมมุติเป็นตัวละครสักตัวในการ์ตูนกำลังภายใน แล้วท่าทางการแสดงแบบนี้เขาคงกำลังแสดงบทบาทว่าตนกำลังถูก ‘พิษกำหนัด’ อะไรแบบนั้นอยู่แน่ๆ
‘กรี๊ด! บ้าจริง! รู้สึกตื่นเต้นเฉยเลย แต่งคอสเพลย์ชุดจีนโบราณแถมยังเล่นโรลเพลย์ก็น่าสนุกดีเหมือนกันนะ บางทีการทำแบบนี้อาจทำให้เราไม่เกร็งที่จะหลับนอนกับคนแปลกหน้า โฮสของที่นี่ช่างเอาใจใส่ลูกค้า สมแล้วที่เหยาเหยาชมนักหนา!’
“พูดจาไม่รู้เรื่อง รักษาข้าเร็วเข้า! ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้า!”
น้ำเสียงห้วนจากโฮสหนุ่มรูปงามทำให้เหยาหนิงหลงถึงกับสะดุ้งจนตัวโยน แต่แล้วก็ฉีกยิ้มกว้างออกมาด้วยนึกทึ่งที่โฮสคนนี้แสดงได้เหมือนจริง ไม่หลุดคาแร็คเตอร์เลยแม้แต่นิดเดียว
“ได้สิ ข้าจะรักษาเจ้าเอง”
หญิงสาวพูดจาแบบคนโบราณบ้างอย่างนึกสนุก แม้ปกติจะเป็นคนขี้อาย แต่ยามเมื่อเลือดในร่างกายหมุนเวียนไปด้วยแอลกอฮอล์ดีกรีแรง เหยาหนิงหลงจึงใจกล้ามากกว่าทุกครั้ง
เธอหมุนกายแล้วใช้สองมือคล้องแขนชายหนุ่มเอาไว้ ตั้งใจยั่วด้วยการบดสะโพกลงบนหน้าตักของเขา ได้ผลหญิงสาวรับรู้ได้ถึงเจ้าเอ็นอุ่นใหญ่ยาวที่แข็งขึงอยู่ใต้สะโพก
ตึก! ตึก! ตึก!
‘อะ...ไอ้นั่นของผู้ชาย กรี๊ด! ฉันกำลังนั่งทับไอ้นั่นอยู่’
เหยาหนิงหลงหวีดร้องในใจ หัวใจเต้นแรงจนแทบกระโจนออกจากอกข้างซ้าย ทว่าใบหน้ากลับนิ่งเฉยแสร้งทำดั่งเป็นหญิงสาวเจนจัด
“ข้าเหยาหนิงหลงบุตรสาวกั๋วกงผู้สูงศักดิ์จะถอนพิษให้เจ้าเอง ดังนั้นเจ้าจงสำนึกบุญคุณและเป็นทาสรักของข้านับจากนี้ตลอดไป!”
หญิงสาวเลือกจะแสดงบทบาทสมมุติเป็นนางร้าย ‘เหยาหนิงหลง’ บุตรีเพียงคนเดียวแห่งจวนกั๋วกง เพราะนอกจากจะมีชื่อแซ่เหมือนกันแล้ว นางร้ายเหยาหนิงหลงในนิยายยังชอบใส่อาภรณ์สีแดง เปิดเปลือยร่างกายยั่วยวนดั่งหญิงแพศยา ดังนั้นตัวละครนี้จึงเหมาะแก่การแสดงบทบาทสมมุติกับคุณโฮสสุดหล่อที่สุด
คิดพลางโน้มใบหน้าลงไปใกล้ๆ ก่อนจะฝังจมูกลงไปบนแก้มของโฮสที่กำลังทุรนทุรายด้วยพิษกำหนัด
‘กรี๊ด! แก้มผู้ชายหอมมาก ชาตินี้ได้หอมแก้มหนุ่มหล่อระดับชาติขนาดนี้ แม้ตายก็ตายตาหลับแล้ว’
คิดพลางไซ้จมูกเล็กเชิดรั้นไปตามแก้มและสันกรามของโฮสหนุ่ม ก่อนจะกลั้นใจทำสิ่งที่น่าอายด้วยการประกบปากจูบผู้ชาย
‘จูบแล้ว! นี่จูบแรกของฉันเชียวนะ!’
ปากประกบปากก่อนที่เธอจะบี้ไปมา การกระทำที่แสนเงอะงะทำให้เส้นความอดทนของชายหนุ่มขาดผึ่ง เขารวบร่างบางให้นอนลงไปกับตั่งตัวยาว
“ว้าย!”
เหยาหนิงหลงร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ ร่างบางก็ถูกรวบให้นอนลง
‘ระ...ร้อนแรง ดะ...ดิบเถื่อน กรี๊ด! โฮสงานดีจริงๆ รู้สึกตื่นเต้นจนใจสั่นไปหมดแล้ว’
ชายหนุ่มทิ้งกายลงทาบทับร่างบอบบางด้วยเรือนกายหนาหนักเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างผู้ฝึกวรยุทธ์เอาไว้ แล้วโดยที่หญิงสาวยังไม่ทันตั้งตัวเขาก็บดจูบรุกเร้าดั่งหิวกระหาย
“อื้อ!”
เหยาหนิงหลงครางในลำคอด้วยความตกใจ สองมือผลักไสอกแกร่ง แต่เพราะเธออ้าปากประท้วงเขาจึงได้ตวัดลิ้นเข้ามาในโพรงปากเกี่ยวกระหวัดลิ้นร้อนของเธอเอาไว้
ตึก! ตึก! ตึก!
หัวใจเจ้ากรรมเต้นระรัวแรง หัวสมองขาวโพลน ท้องน้อยหวิวโหวงดั่งมีผีเสื้อขยับปีกโบยบินนับพันหมื่น เรือนกายชาวาบ ยิ่งน้ำหนักของเรือนกายแข็งแกร่งเบียดทับลงมามากเท่าไหร่ร่างกายก็ยิ่งสั่นระริกหวามไหวไม่อาจควบคุม
“อืม...”
‘จะต่อต้านไปทำไมในเมื่อฉันตั้งใจที่จะทำลายความบริสุทธิ์ของตนเองทิ้ง’
คิดพลางยกสองมือขึ้นโอบรัดรอบลำคอแข็งแกร่ง เบียดกายเข้าหาเขา แอ่นทรวงอกนุ่มนิ่มเข้าหาแผงอกแข็งแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างตั้งใจ
จากนั้นลิ้นเล็กจึงค่อยๆ กระหวัดเร้าลิ้นหนาอย่างไม่ประสา เธอจูบตอบเขาอย่างเงอะเงิ่นทว่าเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
และนั่น...
ทำให้พิษกำหนัดในกายของชายหนุ่มยิ่งลุกโชน ราวกับสัญชาตญาณดิบในร่างกายได้ถูกปลุกขึ้น
