บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ชุดโบราณปริศนา

บทที่ 1

ชุดโบราณปริศนา

‘จิ๊! นางร้ายในนิยายใช้ชีวิตโง่จริงๆ ถ้าเป็นฉันจะนอนเป็นปลาเค็มอยู่บนกองเงินกองทอง ปล่อยพระเอกไปเถอะ คนเขาไม่รักก็ไม่ควรไปยื้อไว้ บุรุษในใต้หล้ามีมากมายเสียยิ่งกว่าฝูงลิงในป่า จะจมปลักไปทำไมกัน’

เหยาหนิงหลงส่ายหน้าน้อยๆ แม้เธอเองจะรักแฟนหนุ่มมากเพียงใด แต่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ซื่อสัตย์เธอก็ตัดขาดอย่างไร้เยื่อใย น้องสาวต่างมารดาอยากได้ก็เอาไปเถอะ ผู้ชายสวะใจโลเลแบบนั้นเธอไม่ต้องการ!

คิดพลางใช้นิ้วโป้งกรีดขอบหนังสือจนหน้ากระดาษขยับไหวเร็วๆ ก่อนที่หน้ากระดาษจะเปิดค้างหน้าที่มีบัตรเข้างานเสียบเอาไว้แทนที่คั่นหนังสือ

หญิงสาวหยิบบัตรออกมาแล้วยัดหนังสือนิยายกลับเข้าไปในกระเป๋า

“คุณผู้หญิงเป็นเพื่อนของคุณซูนี่เอง เชิญทางนี้ครับ คุณซูได้จัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้คุณผู้หญิงแล้ว”

พนักงานต้อนรับเมื่อเห็นชื่อ ‘เหยาหนิงหลง’ ในบัตรเข้างาน ก็จำได้ในทันทีว่านี่คือชื่อที่ ‘คุณซู’ ซึ่งเป็นลูกค้าระดับวีวีไอพีอีกทั้งยังเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญได้แจ้งเอาไว้ว่าหากเหยาหนิงหลงมาถึงแล้ว ให้พาไปยังห้องแต่งตัวทันทีเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้ากับตีมงานในวันนี้

เหยาหนิงหลงหันซ้ายแลขวาด้วยไม่เคยมาในสถานที่อโคจรเช่นนี้มาก่อน ผู้คนมากมายท่ามกลางแสงไฟสลัวรางวับแวม กลิ่นบุหรี่ กลิ่นสุรา และเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มปลุกหัวใจให้เต้นระรัวแรง

เกินครึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าจีนโบราณในยุคสมัยต่างๆ แม้แต่บริกรก็ยังใส่ชุดเสี่ยวเอ้อร์ ภายในโฮสคลับตกแต่งด้วยโคมแดงและผ้าแพรพลิ้วไหว บนเวทีมีโฮสหนุ่มกำลังร่ายรำกระบี่ด้วยอาภรณ์สีขาวบางจนเห็นมัดกล้ามหนันแน่นและลำเอ็นใหญ่ยาวที่นูนเด่นกระแทกสายตา เรียกเสียงกรี๊ดของเหล่าหญิงสาวกระเป๋าหนักไม่น้อย

เธอเบือนหน้าหนีเมื่อลำเอ็นของโฮสบนเวทีเกือบทำให้ตาของเธอบอด ทว่า...

“ว้าย!”

เหยาหนิงหลงถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นหญิงชายกอดจูบล้วงควักกันและกันอย่างไม่อายสายตา เธอก็ถึงกับหน้าแดงก่ำร้อนผ่าวดั่งมีไอร้อนพ่นออกจากหู

‘ใจกล้าเข้าไว้ เราเองก็ต้องทำเรื่องแบบนี้เหมือนกัน จะอายไปทำไม! หญิงชายมีความสัมพันธ์กันเป็นเรื่องธรรมชาติ เราต้องเลิกหัวโบราณได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเก็บพรหมจรรย์ไว้ให้ใคร ของของเรา...เราต้องใช้อย่าปล่อยให้หยากไย่ขึ้น!’

เหยาหนิงหลงปลุกปลอบตัวเองก่อนจะเหลือบมองชายหญิงอีกคู่หนึ่งที่กำลังแลบลิ้นเกี่ยวกระหวัดดูดดื่ม ในขณะที่ฝ่ายชายควักสองเต้าของผู้หญิงออกมาบี้ขยำอย่างเมามัน

‘นะ...หน้าร้อนไปหมดแล้ว’

แม้จะปลุกปลอบให้ใจกล้า แต่เธอก็ยังเขินอายจนหน้าแดงก่ำ ยกมือขึ้นโบกพัดราวกับร้อนทั้งที่ภายในโฮสคลับเย็นฉ่ำ เมื่อเห็นบริกรเดินผ่านมาเธอจึงรีบคว้าเครื่องดื่มในถาดมาดื่มแก้กระหาย

“ขะ...ขม!”

เหยาหนิงหลงแทบสำลักเพราะไม่เคยดื่มสุรามาก่อน แต่เมื่อเห็นสายตาของผู้คนบริเวณนั้นที่มองมายังเธอราวกับมองตัวประหลาด ด้วยการแต่งกายที่ทั้งเฉิ่มเชยและมิดชิดอย่างกับแม่ชี อีกทั้งยังบ่นว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีรสขมและทำท่าคล้ายจะบ้วนทิ้ง

“ขะ...ขมอะไรกัน หวาน หอม อร่อยมาก”

เหยาหนิงหลงหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะยกเครื่องดื่มสีอำพันกระดกจนหมดแก้ว เท่านั้นไม่พอยังคว้าอีกแก้วมาดื่มอย่างหน้าตาเฉย บริกรที่กำลังนำเหล้าไปให้ลูกค้าถึงกับงุนงง แต่พนักงานต้อนรับที่มากับผู้หญิงคนนี้กลับส่ายหน้าน้อยๆ

“นี่เพื่อนของคุณซู”

เพียงได้ยินว่าเป็นเพื่อนของคุณซูบริกรก็ถึงกับยิ้มกว้างทันที

‘แค่สองแก้ว ทะ...ทำไมถึงรู้สึกเวียนหัวขนาดนี้นะ’

เหยาหนิงหลงส่ายหน้าแรงๆ รู้สึกถึงลมหายใจของตนเองที่เริ่มร้อนผ่าว

เพียงครู่เดียวเจ้าหน้าที่ก็พาเธอมายังห้องแต่งตัว ภายในห้องมีเสื้อผ้าชุดจีนโบราณกว่าหลายสิบชุดแขวนอยู่บนราวเหล็กสีขาว โดยมีช่างแต่งหน้าทำผมมืออาชีพยืนรออยู่ก่อนแล้ว

“เชิญคุณผู้หญิงทางนี้ค่ะ พวกเราจะช่วยเนรมิตให้คุณผู้หญิงกลายเป็นคุณหนูสูงศักดิ์ในยุคจีนโบราณ รับรองว่า พวกเราจะไม่ทำให้คุณผู้หญิงผิดหวังแน่นอน”

เหยาหนิงหลงยังไม่ทันได้เอื้อนเอ่ยคำใดก็ถูกจับมานั่งหน้าโต๊ะกระจกที่มีเครื่องสำอางวางเต็มโต๊ะ ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมรุมล้อมอย่างรวดเร็ว

“ชุดที่คุณซูเตรียมไว้อยู่ไหน”

เมื่อบรรจงแต้มสีสันบนใบหน้าแขกคนสำคัญเสร็จแล้ว ช่างแต่งหน้าสาวใหญ่จึงหันไปถามผู้ช่วยที่กำลังยืนงงว่าเหตุใดจึงมีกล่องเสื้อผ้าวางข้างกันสองกล่อง จำได้ว่าคุณซูให้คนนำกล่องเสื้อผ้ามาส่ง เป็นกล่องไหนกันแน่...

คิดพลางเปิดกล่องดู พบว่าภายในกล่องล้วนเป็นชุดจีนโบราณสีแดงทั้งคู่

“เร็วเข้าสิ! รีบนำชุดมาให้คุณผู้หญิงสวมได้แล้ว อย่ามัวชักช้า!”

เมื่อช่างแต่งหน้าเร่งเร้า ผู้ช่วยสาวจึงเลือกหยิบมาหนึ่งกล่องอย่างเสียไม่ได้

“มาแล้วๆ”

เพียงไม่กี่อึดใจเหยาหนิงหลงก็หยุดยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ จ้องมองตนเองด้วยความงุนงงอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

สตรีที่มักรวบผมทุกเส้นม้วนมวยไว้ด้านหลัง สวมแว่นหนาเตอะ ใบหน้าไร้การแต่งแต้ม เสื้อผ้าส่วนใหญ่คุมโทนสีขาว ดำ น้ำเงินและน้ำตาลเพื่อความสุภาพ บัดนี้กลับอยู่ในชุดจีนโบราณสีแดงทองเปิดไหล่แสนเย้ายวน

ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางจนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ริมฝีปากอวบอิ่มทาทับด้วยลิปสติกสีแดงไวน์ แว่นหนาเตอะถูกแทนที่ด้วยคอนแทคเลนส์สีน้ำตาลอ่อน ผมที่มักม้วนมวยถูกปล่อยสยายดัดให้เป็นลอนใหญ่ รวบเกล้าผมครึ่งศีรษะเอาไว้แล้วปักปิ่นทองห้อยระย้า บริเวณด้านหน้าปักปิ่นสองขารูปดอกไม้งดงามช่วยทำให้ดูเป็นคุณหนูสูงศักดิ์เยาว์วัยที่เพิ่งพ้นวัยปักปิ่นยังมิได้ออกเรือน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel