2.ผู้แข็งแกร่ง
“ทะ..ท่านจาเรดครับ ในยามนี้สถานการณ์กองทัพของเราดูเหมือนว่าจะเสียเปรียบกองทัพของทางท่านเดม่อนมากเลยนะครับ เมื่อไหร่ท่านหญิงจูเน่จะมาช่วยพวกเราล่ะครับ”
ทหารต่างหมดสิ้นกำลังใจเมื่อกองทัพของท่านเดม่อนดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขา ในยามนี้เหล่าทหารต่างเฝ้าภาวนาว่าเมื่อไหร่วีรสตรีหญิงแห่งยุคจะปรากฏตัว
“ข้าไปเร่งนางแล้ว อีกไม่นานท่านหญิงน่าจะลงมา”
จาเรดเองก็มองเห็นถึงความแปลกประหลาดของจูเน่ แววตาของสตรีผู้นั้นมันแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่มีแววตาเกรี้ยวกราดเช่นเดิม แต่มันกลับเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา จริงอยู่ที่เมื่อวานจูเน่นางประสบอุบัติเหตุตกม้า แต่ทว่าท่านหมอก็บอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แล้วทำไมวันนี้นางถึงตื่นขึ้นมาเป็นคนละคนเลย ขอให้ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาต้องปวดหัวไปมากกว่านี้เลย
จาเรดคือเด็กกำพร้าที่บิดาของจูเน่เก็บมาเลี้ยง หน้าที่ของเขาคือการดูแลจูเน่ให้ดี นั่นคือคำกล่าวฝากฝังของพ่อบุญธรรมและมันคือหน้าที่ที่เขาแบกเอาไว้บนบ่าด้วย
“นั่น..ท่านหญิงจูเน่มาแล้วครับ!!”
เสียงโห่ร้องดีใจดังขึ้นมาเมื่อพวกทหารได้ยินเสียงประกาศว่าวีรสตรีหญิงของพวกเขาปรากฏตัว แต่ทว่าเสียงโห่ร้องนั้นก็เงียบไปในทันทีเมื่อพวกเขามองเห็นสตรีชุดสีงาช้างเดินเข้ามาในสนามรบ
“นั่นคืออะไรกันครับท่านจาเรค”
ถึงแม้ว่าพวกทหารจะยอมรับถึงความงดงามของท่านหญิงจูเน่ว่าในช่วงเวลาที่ท่านสวมชุดเดรสเช่นนั้นมันงดงามจนยากจะละสายตาจริงๆ แต่ทว่านี่พวกเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาคอขาดบาดตายอยู่นะ..
จาเรดยกมือขึ้นมานวดหว่างคิ้วเบาๆ ดูเหมือนว่าอุบัติเหตุการณ์ตกม้าเมื่อวานของจูเน่ จะทำให้นางเสียสติไปแล้วจริงๆ
“จูเน่นั่นเจ้าสวมชุดอะไรมา”
ฉันยิ้ม และแน่นอนว่านี่คือรอยยิ้มที่งดงามจนผู้คนที่พบเห็นต้องเหลียวหลัง
“หยุดรบกันเถอะค่ะ หากว่าอีกฝ่ายต้องการดาบมากขนาดนั้น เช่นนั้นก็ให้เขามาเอากับข้าได้เลย!”
มาเอา..ที่แปลว่ามาเอาจริงๆ
“พูดจาไร้สาระอะไรของเจ้า หน้าที่ของเราทุกคนคือปกป้องเจ้า และหน้าที่ของเจ้าคือการปกป้องดาบศักดิ์สิทธิ์นะ”
ตามคำกล่าวที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณได้กล่าวเอาไว้ว่า ผู้ใดที่ได้ถือครองดาบศักดิ์สิทธิ์จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
และจะได้ใช้อำนาจจากดาบเล่มนั้นด้วย..นั่นทำให้ผู้คนมากมายต่อสู้แย่งชิงดาบเล่มนั้นกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังที่ไม่มีใครคาดคิด
“มันไม่คุ้มค่าหรอกค่ะ ที่เราจะเสียกำลังพลเพื่อต้านทานกองทัพของอีกฝ่าย..”
ถึงอย่างไรเราก็จะต้องพบเจอกันในสักวัน เพราะว่านี่คือเกมจีบหนุ่มยังไงล่ะ จะยื้อเวลาไปทำไมกัน สู้ไปพบเจอกันซะก็สิ้นเรื่อง ในเมื่อไม่ว่าอย่างไรฉันก็จะต้องพิชิตใจพ่อหนุ่มนักรบอีกฝั่งให้ได้อยู่แล้ว
“เสียสติไปแล้วจริงๆ สินะ..”
เมื่อกล่าวจบจาเรดก็เดินเข้าไปหาจูเน่ เขาอุ้มเธอขึ้นมาก่อนจะแบกเธอขึ้นหลังเพื่อพาเธอเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์
“ปล่อยนะคะ ข้าไม่ได้เสียสติสักหน่อย!”
“หากเจ้าไม่เสียสติ เจ้าไม่มีทางทำอะไรโง่ๆ เช่นนี้ออกมาหรอกให้ตายสิ หากช่วยสู้ไม่ได้ เช่นนั้นก็อยู่ที่นี่ ข้าจะไปสู้เอง”
อะไรของอีตาคนนี้กันนะ จะมาห้ามเพื่อไม่ให้เธอไปเจอคนหล่อได้ไงก่อน จริงอยู่ที่เขาเองก็หน้าตาตรงสเปค แต่เธอไม่ชอบพวกพูดไม่รู้เรี่องหรอกนะ
“ข้าจะไปค่ะ!!”
จาเรดมองหน้าของจูเน่อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพ่นลมหายใจยาวออกมาทางปลายจมูก
“เดม่อนคือขุนพลที่เทพเจ้ามังกรเลือกเขาเป็นผู้รับใช้ เจ้าในยามปกติยังแทบเอาชนะหมอนั่นได้ยากเลย แล้วเจ้าที่..เสียสติเช่นนี้จะเอาชนะหมอนั่นได้อย่างไรกัน ไปหาเขามีแต่เจ้าจะตายเท่านั้นเอง จะเอาชีวิตไปทิ้งงั้นเหรอ!!”
“.....”
จริงจัง..ชะมัดเลยแฮะ สงครามพวกนี้ก็คงจะมีแค่ต้นเรื่องเท่านั้นนั่นแหละ เพื่อให้ฉากเปิดตัวอลังการงานสร้างก็เท่านั้น หลังจากนั้นก็จะต้องเป็นฉากที่แสนสวยงามของฉันกับตัวละครชายใช่ไหมนะ เช่นนั้นฉันจะยอมรออยู่ที่นี่ตามที่เขาร้องขอก็แล้วกัน
“ก็ได้ค่ะ ข้าจะรออยู่ที่นี่”
จาเรดมองหน้าของจูเน่อีกครั้งก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากคฤหาสน์เพื่อช่วยทหารต้านทานกองทัพมังกรของเดม่อน
.
.
“ท่านเดม่อนครับ สายของเรารายงานมาว่าท่านหญิงยังไม่ออกมาจากคฤหาสน์เลยครับ หรือว่านางจะหนีไป”
เดม่อนยกมือขึ้นมาเสยเส้นผมสีแดงของตัวเองขึ้นไปที่ด้านบน ก่อนที่เขาจะแสยะยิ้มออกมา
“ไม่หรอก จูเน่มิใช่สตรีขี้ขลาดเช่นนั้น นางเย่อหยิ่งและทะนงตนเป็นที่สุด การที่นางไม่ออกมารบนั่นคงหมายความว่าทหารของเรามันอ่อนหัดมากเกินกว่าที่นางจะแสดงฝีมือนะสิ”
เขาไม่พอใจ เดม่อนไม่พอใจเป็นที่สุดที่เขาถูกดูถูกเช่นนี้ เขาหยิบดาบขึ้นมาแล้ว กระโดดขึ้นหลังม้า
“ในเมื่อนางไม่ออกมาเช่นนั้นข้าจะไปหานางเอง นำกำลังส่วนหนึ่งตามข้ามา เราจะบุกเข้าไปที่ด้านหลังของคฤหาสน์ ไม่ว่าอย่างไรในวันนี้ดาบศักดิ์สิทธิ์จะต้องเป็นของพวกเราทุกคนให้ได้!”
เพื่อให้กองทัพของเขาแข็งแกร่งที่สุด การฆ่าสตรีผู้นั้นแล้วแย่งชิงดาบมา นั่นคือหนทางที่ดีที่สุด!
เดม่อนเข้าไปทางด้านหลังของคฤหาสน์ และก็เป็นอย่างที่คิดที่ด้านหลังของคฤหาสน์มีเวรยามน้อยมากทีเดียว ทำให้เขาสามารถบุกเข้าไปได้ง่ายๆ เขายกมือขึ้นมาเพื่อกล่าวห้ามทหารที่ตามติดมาด้วย
“ข้าจะขึ้นไปเพียงผู้เดียวเท่านั้น พวกเจ้ารออยู่ตรงนี้เพื่อกันไม่ให้มีใครขึ้นไปก็พอ”
จะแข็งแกร่งมากแค่ไหนแต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงเป็นสตรี การต่อสู้ตัวต่อตัวกับเขานั่นก็ถือว่าเขาให้เกียรตินางอย่างสูงสุดแล้ว
วันนี้คือวันตายของเจ้าแล้วจูเน่ ตำแหน่งซอร์ทมาสเตอร์ที่เจ้าถือครองอยู่ เห็นทีว่าจะต้องส่งต่อให้ข้าแล้วล่ะนะ
เดม่อนเปิดประตูห้องนอนที่ใหญ่ที่สุดเข้าไปอย่างช้าๆ เขาระแวดระวังทุกฝีก้าวเพื่อรอคอยตอบรับการตอบโต้ของอีกฝ่าย แต่ทว่านี่มันช่างเงียบสงบดีเหลือเกิน เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องนอนของจูเน่ เดม่อนก็พบว่าซอร์ทมาสเตอร์ที่ทุกคนหวาดกลัว กำลังนั่งทานอาหารอยู่อย่างเอร็ดอร่อย นางมิได้สวมชุดนักรบอย่างที่ควรจะเป็นแต่กลับสวมชุดเดรสสีงาช้าง แถมยังแต่งหน้าทำผมอย่างงดงามมากทีเดียว หรือว่านี่คือแผนการรบแบบใหม่ ที่จะทำให้ผู้พบเห็นตกตะลึงกับความงดงามนั้น
แต่บอกได้เลยว่าแผนการเช่นนี้ของนางมันใช้ไม่ได้ผลกับเขาหรอกนะ สวยมากแค่ไหนสุดท้ายก็เป็นได้แค่หุ่นทดลองฟันดาบของเขาอยู่ดีนั่นแหละ
“จูเน่..หยิบดาบขึ้นมาแล้วมาสู้กับข้าให้สมเกียรติซะ!!”
