11.ด้วยความยินดี
“เป็นอย่างไรบ้างสำหรับการทำความรู้จักกันวันแรก..ทางเดม่อนทำอะไรให้เจ้าอึดอัดใจรึเปล่า”
เมื่อเธอเดินเข้ามาในคฤหาสน์ก็พบเจอกับท่านพี่จาเรดที่กำลังยืนรออยู่ จูเน่ส่งยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่หวานล้ำราวกับน้ำผึ้ง
“ดูเหมือนว่าเดม่อนจะเป็นคนดีมากกว่าที่คิดเอาไว้ ไม่มีเรื่องอันใดให้ท่านพี่ต้องเป็นห่วงหรอกนะคะ แล้วก็ครั้งหน้าท่านพี่ไม่ต้องมายืนรอข้าเช่นนี้แล้วก็ได้ ข้าเกรงใจ”
คำปฏิเสธที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มแสนหวานของเธอนั้นมันช่าง..เจ็บปวดรวดร้าวไปจนถึงกระดูก
จูเน่คนเก่ามักจะมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แน่นอนว่ารอยยิ้มเช่นนี้ไม่ต้องไปคิดหรือว่าคาดหวังเลยเพราะว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน
เธอน่ะไม่เคยมองเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งอยู่แล้ว กำแพงที่กั้นเราสองคนเอาไว้มันไม่มีวันพังทลายลงมาหรอก และเขาเองก็ควรจะหยุดเพ้อฝันสักที
“มีอีกเรื่องที่พี่จะต้องเตือนเจ้าเอาไว้หน่อย ในวันพรุ่งนี้ข่าวของเจ้าและเดม่อนคงจะขึ้นในทุกหน้าของหนังสือพิมพ์ และข่าวนั้นคงไปถึงองค์จักรพรรดิในไม่ช้า หากพระองค์ทรงเห็นข่าวนั้น พระองค์คงจะเรียกเจ้าไปเข้าเฝ้าอย่างแน่นอน พี่ให้คำแนะนำอะไรมากไม่ได้เพราะว่าพี่เองก็ไม่เคยพบเจอหรือว่าพูดคุยกับพระองค์ ในทุกครั้งที่เจ้าเดินทางไปที่พระราชวัง เจ้าก็มักจะเดินทางไปตามลำพังเท่านั้น.."
นั่นคือเรื่องจริงที่ว่า จูเน่และองค์จักรพรรดินั้นมีความสนิทสนมกันอย่างลึกซึ้งเพียงแต่เขาไม่แน่ใจว่าความสนิทสนมนั้นมันเป็นการสนิทที่เป็นขุนนางกับองค์จักรพรรดิ หรือว่าเป็นการสนิทในแบบอื่นกันแน่
“....ค่ะ ข้าจะระวังตัวเอาไว้”
เมื่อเธอได้ฟังคำกล่าวของพี่ชาย จูเน่ก็คิดว่าเรื่องนี้มันแปลกตั้งแต่เริ่มมาแล้ว มีอย่างที่ไหนองค์จักรพรรดิทรงพระราชทานตำแหน่งซอร์ทมาสเตอร์ให้แก่สตรีผู้หนึ่ง แทนที่จะเป็นบุรุษ หรือว่าความสามารถของจูเน่มันน่าทึ่งมากขนาดนั้นกันนะ
เรื่องนี้เธอเองก็เดาไม่ออกเหมือนกัน
“ข้าเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้ให้แล้วค่ะท่านหญิง..”
สาวใช้ที่ยืนอยู่หน้าห้องกล่าวออกมาพร้อมกับก้มหน้าลง..จริงสิ จูเน่ยังมียศท่านหญิงที่ถูกพระราชทานมาจากองค์จักรพรรดิอีกด้วย ไหนจะเงินทองมหาศาลที่จูเน่ถือครองเอาไว้อีก นี่ไม่ว่าจะมองทางไหนก็ดูแปลกประหลาดจริงๆ นั่นแหละ
ระหว่างจูเน่กับองค์จักรพรรดิมันยังไงกันแน่นะ..
ในช่วงเวลาที่เธอกำลังจมอยู่ในความคิดสาวใช้ก็เดินเข้ามาเพื่อถอดชุดและเครื่องประดับออกจากร่างกายของเธอ ในค่ำคืนที่อากาศเริ่มจะเหน็บหนาวการแช่น้ำอุ่นก็นับได้ว่ามันคือการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง
“ออกไปเถิด..เรื่องหลังจากนี้ข้าจะจัดการเอง”
บางทีสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดคือช่วงเวลาที่ได้อยู่เงียบๆ และจมลงกับความคิดของตัวเอง เธอต้องยอมรับเลยว่าเธอไม่ใช่คนที่ฉลาดเท่าไหร่นัก ด้วยเหตุนั้นเองเธอยิ่งต้องใช้ความคิดให้มากกว่าที่เคยใช้
จูเน่เอนศีรษะพิงกับอ่างทองเหลืองขนาดใหญ่ คฤหาสน์เวลล์นั้นหรูหราในแบบที่น่าเหลือเชื่อไม่น้อยเลย แถมยังมีทหารภายใต้การปกครองอีกมากมายเลยด้วย
การเป็นคนที่เคยแข็งแกร่งที่สุดมันก็..รับมือไม่ง่ายเลยเหมือนกันแฮะ
“.....”
เสียงหน้าต่างถูกเปิดออกอย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินตรงเข้ามาในห้องอาบน้ำอย่างไม่คิดลังเล เธอปรือตาขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อมองหน้าของบุรุษผู้เดินเข้ามาใหม่
“ท่านทำตัวราวกับลูกแมวตัวน้อยที่ชอบเล่นซุกซนอย่างเช่นการปีนเข้ามาในหน้าต่าง..”
อีวานหัวเราะก่อนที่เขาจะนั่งลงข้างๆ อ่างอาบน้ำ สิ่งแรกที่เขากระทำคือการถอดผ้าปิดหน้าออก
“ข้าคิดว่าท่านหญิงน่าจะชอบมองหน้าของข้ามากกว่านะครับ..”
จูเน่ยกยิ้ม
“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ข้าชื่นชอบใบหน้านี้มากทีเดียว”
เธอยกมือขึ้นมาก่อนจะใช้ปลายนิ้วไล้ลงไปบนกรอบหน้าที่แสนทรงเสน่ห์ของเขา หากนักฆ่าจะหล่อขนาดนี้..เธอก็ยินยอมให้เขาฟาดฟันคมมีดลงมาบนร่างกาย แล้วยอมรับความตายให้เขาจงใจมอบให้อย่างไม่มีขัดขืนเลยล่ะ
“ข้าจำได้ว่าครั้งที่แล้ว ท่านกล่าวว่าครั้งหน้าจะแนะนำตัวให้ข้าได้รู้จัก”
อีวานจับมือของจูเน่เอาไว้ เขาพรมจูบลงไปบนมือนั้นด้วยความรู้สึกมากมายที่เอ่อล้นออกมา
“อีวานครับ..”
“อา..ชื่ออีวานสินะคะ เช่นนั้นในวันนี้ที่ท่านเข้ามาในห้องข้าแทนที่จะเป็นห้องนอน ของเดม่อน..นั่นหมายความว่ามีคนว่าจ้างท่านให้มาสังหารข้าอย่างนั้นหรือ?”
อีวานแสยะยิ้ม
“ไม่ใช่ท่านหรอกครับ”
หากไม่ใช่เธอเช่นนั้นก็คงจะเป็นจาเรด อย่างนั้นสินะ...
“ค่าจ้างของเจ้าเท่าไหร่อย่างนั้นหรือ?”
สายตาที่เธอมองมาที่เขานั้นมันเต็มไปด้วยความเย้ายวนในแบบที่เขารับมือกับมันไม่ได้เลย จึงต้องแสร้งทำเป็นหลับตาหนีสายตานั้นเป็นระยะๆ
“เรื่องนั้น..ไม่ได้อยู่ที่ข้าแต่อยู่ที่ว่าลูกค้าจะจ้างข้าไปสังหารใครต่างหาก ค่าหัวของแต่ละคนก็แตกต่างกันไปตามความยากง่าย..”
จูเน่ยกแขนขึ้นมาก่อนที่เธอจะถอดกำไลที่ทำจากทองคำในข้อมือแล้วยื่นให้เขา
“หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะว่าจ้างเจ้าเอง..ด้วยเงินในจำนวนที่เจ้าต้องการ อีวาน..เจ้าสนใจจะมาเป็นคนของข้ารึเปล่าล่ะ”
ต้านทานเอาไว้ไม่อยู่เลย สายตาที่เย้ายวนและเสียงกระซิบที่สั่นเครือนั้นทำให้เขาอยากจะหมอบกราบแทบเท้าของเธอเลยด้วยซ้ำ
เขายื่นมือไปรับกำไลทองนั้นมาถือเอาไว้ ก่อนจะใส่กลับไปที่ข้อมือของเธออีกครั้ง
“ข้ายินยอมเป็นคนของท่านหญิงครับ เรื่องเงินนั้นเอาไว้ให้ข้าตกลงกับพ่อบ้านก็ได้ แต่ทว่ามีบางอย่างที่ข้าอยากจะได้นอกเหนือจากเงินทอง..ข้าไม่มั่นใจว่าท่านจะมอบให้ข้าได้รึเปล่า..”
เขาเอ่ยถามด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง และนั่นคือคำถามที่เธอกำลังอยากได้ยินอยู่พอดีเลย
“พอดีเลย เพราะข้าเองก็กำลังจะบอกกับเจ้าว่า การเป็นคนของข้านั้นมันมีอะไรให้เข้าทำมากกว่าที่สืบค้นข้อมูลและการฆ่าคน..ยังมีการทำให้ข้าพึงพอใจเพิ่มเข้าไปอีกด้วย..ไม่ทราบว่าเจ้ายินดีที่จะกระทำการอันทำให้ข้าพึงพอใจหรือไม่”
อีวานจุมพิตลงไปบนหลังฝ่ามือของจูเน่ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธออย่างไม่ละสายตา
“ด้วยความยินดีครับ..แค่ได้รับใช้ท่านนั่นคือโอกาสที่ข้าไม่มีวันเอื้อมถึงอยู่แล้ว”
หากจะกล่าวว่าเธอหลงใหลในความหล่อเหลาของนักฆ่าเช่นนั้นก็คงไม่ผิดหรอก เพราะจูเน่ชื่นชอบอีวานจากใจจริงๆ
“เช่นนั้นลองแสดงให้ข้าเห็นหน่อยจะได้รึเปล่า”
อีวานไม่ตอบคำถาม เขายืนขึ้นแล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินลงไปในอ่างทองเหลืองนั้นกับเธอ
“ด้วยความยินดีอีกเช่นกันครับ”
