5
เจอคอปมองตามเรืองร่างบอบอบางที่เต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งที่น่าทะนุถนอม ด้วยหัวใจสั่นๆ กับทุกก้าวที่สาวเจ้าเดิน มันทำให้เขาอยากจะวิ่งเข้าไปอุ้มเธอ แล้วพาไปกระทำชำเราที่ไหนสักแห่งให้หนำใจ สาสมกับที่เธอทำให้เขาต้องนั่งเครื่องบินไปบินไปมาเหมือนคนบ้าอยู่แบบนี้ เพราะสามปีที่ผ่านมาเขาเอาแต่เฝ้ามองดูเธออยู่ห่างๆ ให้คนตามดูแลอยู่เงียบๆ จนกระทั่งเธอใกล้จะเรียนจบ เขาก็เริ่มอยู่ไม่สุข ไม่อยากทำตัวเหมือนออร์แลนโด้ที่พอเจอหน้าปุ๊บ!
ก็ลากไปทำเมีย มันดิบเถื่อนเกินไป มันต้องแบบแพททริกสันกับ พิมพลอยถึงจะโรแมนติกและประทับใจ ยกเว้นเรื่องที่โดนยิงจนเกือบจะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ซึ่ง! เขาจะไม่ขอเจอะเจอสถานการณ์นั้น
คนที่คิดเองเออเองโดยลืมไปว่าแพททริกสันกับพิมพลอยนั้น ต่างฝ่ายก็ต่างมีใจให้กัน แต่กับตนนั้น! สาวเจ้าแทบจะไม่ได้รับรู้หรือว่ารู้สึกใดๆ นอกเหนือไปจากฆาตกรโรคจิตที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังอยู่ในขณะนี้
สายสุณีรีบสะกิดเพื่อนสาว หลังเห็นลูกค้าหนุ่มหล่อเอาแต่มองตามราวกับว่าทั้งร้านมีแค่มารีอาอยู่คนเดียว
“รีอา! ฝรั่งคนนั้นต้องชอบแกแน่ๆ เลย”
“บ้า! อีตานั่นน่ากลัวจะตาย” มารีอาบอกพลางเบ้ปากใส่เพื่อนนิดๆ
“น่ากลัวบ้าบออะไรฮะแก หล่อจนเปล่งประกายลำแสงฆ่าผู้ชายในร้านตายไปหลายคนซะขนาดนั้น เป็นฉันจะรีบตะคลุบเลย” สายสุณียิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับความหล่อบาดตาบาดใจของหนุ่มลูกครึ่งที่พูดไทยได้ชัดถ้อยชัดคำ จนทำให้คนที่ไม่เก่งภาษาอย่างเธอสื่อสารได้อย่างไม่ต้องเขินอาย
“งั้นแกก็รีบไปตะคลุบซะสิ” มารีอาส่ายอย่างหน้าเพลียๆ กับท่าทีของเพื่อนสาว
“จ้า! ถ้าฉันปลีกตัวไปได้นะ แกแหกตาดูลูกค้าที่โซนฉันซะก่อน” สายสุณีบอกพลางยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นอย่างสุดเซ็ง เพราะคนหล่อบาดจิตไม่ยอมมานั่งตรงโซนที่เธอให้บริการ
มารีอาหัวเราะเบาๆ กับสีหน้าของเพื่อนสาว ก่อนจะตกใจกับเสียงกริ่งเตือนอาหารออกที่ดังขึ้นติดๆ กัน
ติ้งๆ ติ้งๆ
“เขาให้มาเสิร์ฟ ไม่ใช่มาหาผัว!” สาทรชะโงกหน้าออกมาจากบานประตูขนาด 30X30 ซม. ที่กั้นระหว่างภายในร้านอาหารกับในครัว ก่อนจะส่งเมนูที่เพิ่งจะทำเสร็จให้กับน้องสาวที่ชอบพูดจาราวกับสาวร่านสวาทก็ไม่ปาน
“โห...ปากแบบนี้ ไม่น่าเกิดมาเป็นพี่เป็นน้องกันเลย” สายสุณีถลึงตาใส่พี่ชายจอมปากเสีย
“น้องแรดๆ อย่างแก ฉันก็ไม่อยากนับญาติเหมือนกัน” สาทรตอบอย่างไม่สนใจ
“ฝากเอาไว้ก่อน! เดี๋ยวเลิกงานเมื่อไหร่จะเข้าไปกระทืบถึงในครัวเลยคอยดู” สายสุณีคาดโทษพี่ชายก่อนจะยกอาหารใส่ถาดไปเสิร์ฟ
“เออ! อยากตายก็เข้ามา” สาทรบอกตามหลังด้วยน้ำเสียงท้าทาย
สายสุณีที่เดินไปได้หลายก้าว หันกลับมาส่งสายตาพิฆาตรให้ ก่อนจะปรับสีหน้าแล้วฉีกยิ้มให้กับลูกค้าตามโต๊ะที่เดินผ่าน
“คิกๆๆ” มารีอาหัวเราะเบาๆ กับการสนทนาระหว่างพี่น้องที่ค่อนข้างจะฮาร์ทคอร์ไปสักนิด แต่มันคือเรื่องปกติที่เธอเจอมาตลอดหลายปี จึงไม่ได้ตกใจกับน้ำเสียงและคำพูดที่ทั้งสองสาดใส่กัน
“เอ่อ...น้องรีอาอย่าไปทำตามที่อีส้มมันพูดนะจ๊ะ” สาทรเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงพร้อมกับส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้สาวในฝัน
“ค่ะพี่ทร” มารีอายิ้มบางๆ ให้เชฟใหญ่ของร้านอย่างอายๆ
“เดี๋ยวเลิกงานพี่ไปส่งกลับห้องนะ” สาทรพยายามจะสานสัมพันธ์ให้พัฒนาไปไกลกว่าพี่ชายของเพื่อน
“เลิกงานแล้วรีอาว่าจะไปหาอะไรกินกับส้มน่ะค่ะ” มารีอารีบบอก เพราะตั้งใจว่าจะไปสังสรรค์เบาๆ กับเพื่อนสาว หลังจากที่นัดกันมาแล้วหลายวัน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที
“พี่ไปด้วยคนสิ!” สาทรยิ้มกว้างขึ้นมาทันใด เมื่อมองเห็นโอกาสงามๆ ‘หึ! อย่างแรกเราต้องมอมเหล้าอีส้มก่อน จากนั้นค่อยจีบน้องรีอา’
“ได้ค่ะ รีอาขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” มารีอาส่งยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินไปยกเบียร์สดที่บาร์เทรนเดอร์ส่งให้ นำไปเสิร์ฟลูกค้า
เจคอปหน้าตึงขึ้นมานิดๆ เมื่อเห็นเชฟหนุ่มคุยกับสาวที่ตนหมายตา
“รีอา! ผมขอ Stella เพิ่มแก้วหนึ่งครับ” คนที่เริ่มตาขวางแต่กลับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ทั้งที่ภายในใจนั้นรุ่มร้อนจนอยากจะลุกไปเตะเชฟของร้านให้รู้แล้วรู้รอด
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” มารีอาพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเดินกลับไปที่บาร์เครื่องดื่ม แล้วบอกบาร์เทรนเดอร์ให้กดเบียร์สดให้
ติ๊ดๆ
เจคอปที่กำลังมองตามบั้นท้ายงอนงาม กลอกตาอย่างเซ็งๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าของมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น พอก้มลงมองที่หน้าจอก็เห็นว่าเป็นสายของคนสนิทจึงรีบกดรับ [ว่าไง?]
[บอสครับ! คุณอลันเหวี่ยงใหญ่เลยครับ] คนที่เพิ่งจะประชุมเสร็จ ก็รีบเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวแล้วต่อสายหาผู้เป็นนายอย่างร้อนใจ
[แกยังไม่ชินอีกเหรอ?] เจคอปถามราวกับเป็นเรื่องปกติ
[แหม...ผมอยากให้บอสมาอยู่ด้วยจัง จะได้รู้ว่าวันนี้คุณอลันน่ากลัวขนาดไหน] คนที่ต้องรับหน้าแทนครั้งแล้วครั้งเล่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ
[เอาน่าๆ เดี๋ยวสิ้นปีฉันจะเพิ่มโบนัสให้พิเศษ] เจคอปรีบบอก
[แหมะ! ผมกลัวจะโดนคุณอลันฆ่าตายก่อนจะได้ใช้เงินโบนัสของบอสครับ] มาร์คเอ่ยประชดอย่างอดไม่ได้
[ฮ่าๆๆ พี่ฉันก็ขึงขังไปงั้นแหละ เห็นโหดๆ แบบนั้นนะ จริงๆ แล้วกลัวเมียจะตาย กลับบ้านไปนี่เสียงอ่อนเสียงหวานเลย] คนที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแสร้งเบี่ยงประเด็น เพราะกลัวว่าคนสนิทจะเกิดป๊อดขึ้นมา
[ก็นั่นมันเมียนี่ครับ] มาร์คกลอกตาอย่างเพลียๆ กับคำปลอบของ ผู้เป็นนาย ที่ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะทำหลายๆ อย่างให้ยุ่งยากมากความไปทำไม กับอีแค่ชอบสาวคนหนึ่ง ทำไมไม่จัดการลากเข้าห้องทำเมียซะให้เสร็จๆ ไป เพราะตลอดสามปีที่ผ่านมา ก็แอบบินหนีงานไปไทยไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ทิ้งให้ตนต้องคอยรับหน้าแทน เดี๋ยวเข้าประชุมกับออร์แลนโด้ เดี๋ยวเข้าประชุมกับแพททริกสัน แถมวันดีคืนดีนายใหญ่อย่างเลโอนาด์ทก็มาเยี่ยมเยือนบริษัทโดยไม่บอกไม่กล่าว ทำให้เขาที่ต้องมานั่งคอยตอบคำถามต่างๆ แทน จนแทบอยากจะกลั้นใจตาย
[เออๆ แค่นี้ก่อนนะ] เจคอปตัดสายคนสนิททิ้งอย่างไม่ไยดี เมื่อเห็นสาวเจ้าเดินมาที่โต๊ะ
“เบียร์ค่ะ” มารีอาวางแก้วเบียร์ที่โต๊ะให้อีกฝ่าย แล้วถอยออกไปยืนอยู่ข้างๆ
“ขอบคุณครับ” เจคอปคลี่ยิ้มก่อนจะชวนคุย “เรียนใกล้จบหรือยังครับ”
