บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

เธอเข้านอนตอนสี่ทุ่มและตื่นขึ้นมาในตอนรุ่งสางด้วยความตกใจเมื่อเห็นไตรทศนอนอยู่ข้าง ๆ พอเขารู้สึกตัวก็ดุเหมือนทุกอย่างเริ่มอลหม่าน เพราะเขาเองก็ตกใจที่จู่ ๆ มาล้มตัวนอนบนเตียงลูกสาวเจ้าของบ้าน

หทัยภัทรยังนึกเห็นภาพและได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอรีบเปิดประตูก็เห็นพ่อกับแม่และยังมีเพื่อนบ้านอีกคนยืนอยู่และทุกคนตกใจมาก แม่ของเธอโวยวายขึ้นว่า

“ว๊าย!...ตายแล้ว...เกิดอะไรขึ้น...ทำไมพ่อเลี้ยงเข้ามาอยู่ในห้องนี้ได้ล่ะ”

“แม่...พ่อ...ไม่มีอะไรเลยนะ พริ้มไม่ได้...”

“ไม่มีอะไรได้ยังไง พริ้ม...ทำไมพ่อเลี้ยงมานอนในห้องลูกล่ะ”

“ใจเย็นนะครับ...นี่ผมก็เพิ่งรู้สึกตัว ผมคงเข้าห้องผิด”

ไตรทศอธิบายแต่พ่อของหทัยภัทรหน้าเครียด

“พ่อเลี้ยงบอกว่าเข้าห้องผิดเหรอครับ...แล้วมาเข้าห้องลูกสาวผมแบบนี้เนี่ยเหรอ นี่มันเรื่องใหญ่แล้วนะครับไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย”

“ผมอธิบายได้นะครับลุงพะยอม ป้าเครือมาศ มันไม่ได้เป็นอย่างที่ลุงกับป้าเข้าใจ”

“แบบนี้ไม่ได้นะพ่อเลี้ยง” เครือมาศ มารดาของหทัยภัทรแย้งขึ้น “พ่อเลี้ยงเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกับพริ้มทั้งคืน นี่ถ้ารู้ไปถึงไหนฉันอายเขาไปถึงนั่น”

“แม่...พริ้มกับพ่อเลี้ยงแค่ตื่นขึ้นมา...แล้วก็...”

“แต่ก็อยู่ในห้องเดียวกันทั้งคืนอย่างนี้ แบบนี้มันผิดผีแล้วรู้ไหม”

เครือมาศหันมาทางลูกสาวและพูดเสียงเครือ ตอนนั้นเองไตรทศก็พูดขึ้น

“ผมขอรับประกันเลยนะครับว่ามันไม่ได้มีอะไร ผมยอมรับว่ากินเหล้าเมา แล้วก็...”

“พ่อเลี้ยงอยากจะพูดอะไรก็ได้ แต่คนที่เสียหายคือลูกสาวของฉัน ถ้าเป็นแบบนี้แล้วพ่อเลี้ยงต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นนะ”

“รับผิดชอบหรือครับ?”

“ใช่...พ่อเลี้ยงต้องรับพริ้ม ลูกสาวฉันเป็นเมียให้ถูกต้อง เพราะนี่น่ะแม่ยินดี เพื่อนบ้านของฉันเขาก็เป็นพยานอยู่ทั้งคนนะ”

ทั้งไตรทศและหทัยภัทรจ้องไปที่ป้ายินดี เพื่อนบ้านหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านหลังพยอมและเครือมาศเป็นตาเดียวกัน

“พ่อเลี้ยงครับ...พ่อเลี้ยงต้องรับพริ้มเป็นเมียนะครับ เพราะถ้าขืนเป็นแบบนี้แล้วผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน พ่อเลี้ยงเข้าไปอยู่กับลูกสาวผมในห้องเดียวกันทั้งคืน เอาเป็นว่าจัดเลี้ยงทำบุญเล็ก ๆ ขอแค่อย่าให้ชาวบ้านมาว่าลูกสาวผมเอาได้ก็แล้วกัน”

เสียงดังหนักแน่นของพยอม บิดาหทัยภัทรในวันนั้นนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่เธอเองก็ไม่คาดฝันว่ามันจะเกิดขึ้นเหมือนสายฟ้าแล่บ

ไตรทศไม่เถียงและโต้แย้ง เขาได้แต่เงียบเสมือนว่ายอมรับความผิดของตัวเองที่เผลอกระทำลงไปโดยไม่ตั้งใจ เธอเองก็รู้ดีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยในคืนวันนั้น

แค่พ่อเลี้ยงเมาแล้วเข้าไปนอนหลับในห้องของเธอ แต่ในเมื่อผู้ใหญ่ไม่ยอมทั้งที่เธอก็พยายามอธิบาย หทัยภัทรไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะเธอต้องเผชิญกับความเย็นชาของพ่อเลี้ยงหนุ่ม ตั้งแต่วันจัดพิธีแต่งงานเขาก็ไม่ยอมพูดอะไรกับเธอเลย

ค่ำลงหทัยภัทรก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองตามปกติ หลังเก็บจานชามในครัวของบ้านไม้สักทองหลังใหญ่แต่เงียบเหงาเพราะเหลือเพียงเธออยู่คนเดียว

หญิงสาวก็กลับเข้าไปในห้องนอนกับความรู้สึกอ้างว้าง ร่างแน่งน้อยพาตัวเองไปหยุดที่เตียงกว้างและยืนมองนิ่ง นึกถึงคืนที่ผ่านมา

ทั้งที่เป็นคืนแรกหลังพิธีแต่งงานของเธอและไตรทศผ่านพ้นไปโดยมีญาติผู้ใหญ่เพียงไม่กี่คนเข้ามาร่วมเป็นสักขีพยาน พ่อเลี้ยงไม่พูดกับเธอสักคำ

หนำซ้ำหทัยภัทรต้องคอยหลบสายตาคมคู่นั้นที่จ้องมองมาเหมือนเขาเองยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น แววตาของเขาแสดงออกชัดเจนถึงความผิดหวัง หลังทุกคนกลับไปจนหมดยังเหลือเพียงเธอกับเขา ไตรทศก็แสดงความชิงชังรังเกียจออกมาอย่างไม่ไว้หน้า

“อยากนอนบนที่นอนโรยกลีบกุหลาบนี่นักก็เชิญนอนไปคนเดียวเถอะ”

“แล้วพ่อเลี้ยงจะไปนอนที่ไหนคะ”

“ผมจะนอนบนพื้น”

“แต่อากาศกลางคืนหนาวมากนะคะ”

“หนาวแค่ไหนก็ยังดีกว่านอนอยู่ใกล้คนที่ผมไม่อยากอยู่ด้วย!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel