บท
ตั้งค่า

2

“รัณรักหอมนะครับ” ดรัณยกมือของแฟนสาวขึ้นมาจุมพิตเบา ๆ อย่างแสนรัก นั่นทำให้ข้าวหอมเขินอายจนต้องเสมองไปทางอื่น

“แล้วหอมล่ะ รักรัณหรือเปล่า” ดรัณเอ่ยถาม นั่นยิ่งทำให้ข้าวหอมเขินอายยิ่งนัก

“ฮะแฮ่ม” เสียงกระแอมกระไอนั้นทำให้สองหนุ่มสาวต้องผละออกจากกัน

“ขอโทษด้วยนะที่มาขัดจังหวะ แต่พ่อกับแม่ของเธอเรียกน่ะข้าวหอม” พายัพพูดเสียงเรียบ ดวงตาคมกริบของเขาที่มองมาทำให้ข้าวหอมร้อนๆ หนาวๆ คล้ายเขากำลังตำหนิเธออยู่

“ค่ะ รัณไปด้วยกันนะ” ข้าวหอมหันไปบอกแฟนหนุ่ม งานวันเกิดของเธอกำลังจะเสร็จสิ้น เพราะเธอได้รับของขวัญจากเพื่อนๆ และแขกทุกคนแล้ว แถมยังเป่าเค้กอธิษฐานเรียบร้อยแล้วด้วย

“ไอ้รัณอยู่นี่เอง ฉันจะกลับแล้ว มีธุระต้องไปทำต่อ ไปเถอะว่ะเพื่อน” เอกพงศ์รีบเข้ามากอดคอเพื่อนเอาไว้ เพื่อชวนกลับบ้าน รถของดรัณเกิดยางรั่วกลางทาง เขาเลยให้เพื่อนมารับ จึงไม่ได้ขับรถมาเอง ถ้าเขาขับรถมาเอง จะกลับตอนไหนก็ย่อมได้ ดังนั้นเพื่อนจะกลับเขาก็ต้องกลับด้วย

“งั้นรัณกลับก่อนนะหอม” ดรัณเอ่ยบอกแฟนสาว พลางมองหน้าพายัพแล้วรู้สึกไม่ไว้วางใจนัก แต่เพราะเอกพงศ์เร่งให้ตามมาเร็ว ๆ เพราะมีเรื่องทะเลาะกับแฟนสาว ต้องตามไปง้อ เขาเลยจำต้องเดินจากมา คิดว่าอยู่ในบ้านคงไม่เป็นอะไรหรอกกระมัง

พายัพคงไม่กล้าลวนลามแฟนสาวของตนเพราะคงต้องเกรงใจบิดามารดาของข้าวหอมบ้าง

ย้อนไปก่อนหน้านั้น...

“ทำไมคุณพายัพเขามองหอมแบบนั้นล่ะ”

“มองยังไงเหรอ”

“ก็มองเหมือนจะกลืนกิน คุณพายัพชอบหอมเหรอ”

“บ้าเหรอรัณ ไม่ใช่เสียหน่อย”

“ผู้ชายด้วยกันดูออก คุณพายัพเขาชอบหอมแน่ ๆ”

“หอมไม่ชอบเขาหรอก เขาอายุจะสี่สิบแล้วนะ แถมยังชอบ” ข้าวหอมกัดปาก

“ชอบอะไร”

“ถึงเนื้อถึงตัวน่ะสิ ไม่ใช่กับหอมหรอกนะ กับผู้หญิงคนอื่น หอมเคยเห็น” จริงๆ เขาทำกับเธอ แต่เธอไม่อยากบอกแฟนหนุ่ม กลัวเขาจะไม่สบายใจเสียเปล่า ๆ

“อายุจะสี่สิบแล้วก็จริง แต่เขาดูดีมากนะ พ่อกับแม่ของรัณบอกว่าคุณพายัพนี่รวยมากเชียวล่ะ สาว ๆ ชอบเขากันทั้งนั้น”

“พ่อแม่ของรัณรู้จักเขาด้วยเหรอ”

“รู้จักสิ”

“แต่ผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่หอมแน่นอน หอมไม่ชอบคนแก่แล้วก็ชีกอแบบนั้นหรอก หอมเป็นลูกเขาได้เลยนะ”

“ก็ดีแล้วครับ รัณหวงไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นมองหอมแบบนี้ แล้วก็ไม่อยากให้หอมไปชอบผู้ชายคนอื่นด้วย”

“หอมไม่ชอบผู้ชายคนอื่นหรอกจ้ะ หอมรักรัณคนเดียว” เธอบอกเขาเสียงหวาน นั่นทำให้ดรัณต้องดึงเธอมากอด แต่เธอก็ขืนตัวเอาไว้ เพราะรักนวลสงวนตัว ไม่อยากให้เขาล่วงเกินจนเสียหาย

“แค่กอดเอง”

“กอดก็ไม่ได้จ้ะ คุณแม่สอนให้รักนวลสงวนตัว”

“งั้นจับมือได้ไหม”

“จับได้จ้ะ” ข้าวหอมยอมใจอ่อนให้เขาจับมือ ดรัณจับมือของเธอ แล้วยกขึ้นมาจุมพิต ทำให้ข้าวหอมเขินอายเป็นอันมาก

“ขอโทษด้วยนะที่มาขัดจังหวะตอนเธอพลอดรักอยู่กับแฟนของเธอ” ประโยคของพายัพทำให้ข้าวหอมที่เร่งเดินตามเขามาชนเข้ากับร่างของเขาที่หยุดเดินอย่างกระทันหัน

“อุ๊ย!”

พายัพประคองร่างน้อยเอาไว้ ก่อนจะกดเธอไปกับผนังบ้านทางด้านหลัง

“นี่ปล่อยนะคะ” เธอดิ้น เขาก็ยิ่งกดมือบางไปกับผนังบ้านแรงขึ้น

“เจ็บนะคะ”

“เป็นสาวเป็นนางให้ผู้ชายจูบมือแบบนั้น ไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วล่ะ”

“มันเรื่องของหนู”

“ไหนแม่ของเธอบอกว่าเธอเป็นเด็กดี รักนวลสงวนตัว กับฉันทำเป็นหวงเนื้อหวงตัว”

“คุณไม่ได้เป็นแฟนหนู ทำไมหนูจะต้องให้จับมือด้วย” เธอปากดีกับเขา แต่ปากคอสั่นไปหมด ไม่รู้ทำไมเธอถึงกลัวเขาแบบนี้

“ต่อไปฉันอาจจะเป็นยิ่งกว่าแฟนของเธอก็ได้”

“จะไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน อย่าคิดนะว่าหนูไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับหนู แต่มันจะไม่มีวันเป็นแบบนั้นแน่นอน หนูไม่ชอบคนแก่ แล้วก็เลิกมองหนูด้วยสายตาชีกอแบบนั้นได้แล้ว” ประโยคของเด็กสาวทำให้พายัพยกยิ้มมุมปาก เธอเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ของเขานัก มันทั้งเจ้าเล่ห์และเป็นต่อในทุกๆ เรื่อง

“เธอเห็นด้วยเหรอ ว่าฉันมองเธอแบบไหน”

“จะเห็นหรือไม่เห็น ก็อย่ามายุ่งกับหนูอีก” เธอกัดแขนของเขาเต็มแรง

“โอ๊ย!” พายัพร้องด้วยความเจ็บ เขาดึงแขนหนี ทำให้ข้าวหอมรีบผลักร่างของเขาจนกระเด็นและหนีไปได้สำเร็จ

“แสบนักนะ” เขาสะบัดแขนไปมาด้วยความเจ็บ คาดโทษเธอเอาไว้ในใจ ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก พยศแบบนี้ค่อยสนุกหน่อย ไม่ใช่ยอมอ้าแขนอ้าขาให้เขาง่ายๆ เหมือนผู้หญิงคนอื่น

“คุณพ่อกับคุณแม่เรียกหนูมีอะไรเหรอคะ”

“เปล่านี่จ๊ะ” ได้ยินประโยคคำตอบของมารดา ก็ทำให้ข้าวหอมรู้ว่าพายัพโกหก แต่เธอก็ไม่อยากพูดถึงเขาให้บิดามารดาฟัง จึงเงียบเสีย

คืนนั้นข้าวหอมนอนไม่หลับเอาเสียเลย เธอรู้สึกหงุดหงิดและคิดถึงพายัพ

จริงๆ เธอต้องคิดถึงดรัณสิ ทำไมต้องไปคิดถึงตาแก่โรคจิตอย่างพายัพด้วยนะ แต่ใบหน้ากวนอารมณ์ของเขาก็ตามหลอกหลอนเธอเหลือเกินว่าจะยามหลับหรือยามตื่น

ข้าวหอมใช้ชีวิตตามปกติของเธอ เธอเรียนอยู่เทอมสุดท้ายของมัธยมศึกษาปีที่หก ของโรงเรียนชื่อดังประจำจังหวัดภูเก็ต และกำลังจะจบการศึกษาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ชีวิตของเธอสุขสบายเพราะที่บ้านมีเงิน เธอคิดว่าตัวเองโชคดีกว่าเพื่อนวัยเดียวกันหลายคน บิดามารดามีลูกคนเดียว และรักเธอมาก พวกท่านมีบ้านหลังใหญ่ มีคนขับรถส่วนตัวให้เธอ มีธุรกิจของตัวเองไม่ต้องไปเป็นลูกจ้างคนอื่น ทำงานงกๆ เหนื่อยสายตัวแทบขาด

เด็กสาวลงจากรถยนต์ก็เดินเข้าบ้านด้วยรอยยิ้ม แต่เสียงร้องไห้สะอื้นของมารดาทำให้เธอชะงัก ข้าวหอมหลบไปอีกมุมหนึ่งเมื่อเห็นภาพที่บิดากำลังถือปืนอยู่ในมือ แล้วมารดากำลังห้ามปราม

“พี่กรอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ เราขอผัดผ่อนหนี้สินคุณพายัพไปก่อนก็ได้นี่คะ พี่กรยิงตัวตายแล้วนงกับลูกจะอยู่กับใครล่ะคะ” นงครามร้องไห้สะอึกสะอื้นปริ่มใจจะขาด

“เราผัดผ่อนมาหลายครั้งแล้ว คุณพายัพก็ไม่ว่าอะไร พี่เองก็สัญญาว่าจะเอาเงินต้นไปคืนเขา แต่ธุรกิจก็มามีปัญหาอีก จนพี่ละอายใจ”

“คุณพายัพก็ไม่เคยเร่งรัดหนี้สินของเราเลยนะคะ”

“แต่มันหลายครั้งแล้ว บ้านหลังนี้คงจะถูกยึด ไหนทรัพย์สินส่วนอื่นอีกคงไม่เหลือ พี่มันไม่เอาไหน บริหารงานจนผิดพลาด เป็นหนี้เป็นสินแบบนี้” ประโยคของบิดาทำให้ข้าวหอมตัวชา เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าครอบครัวมีปัญหาหนี้สินขนาดนี้

ข้าวหอมรู้สึกผิดที่ตัวเองลอยตัวอยู่เหนือปัญหา มีชีวิตที่สุขสบาย แต่บิดามารดากลับทุกข์หนัก เด็กสาวแอบย่องเข้าไปในห้องของบิดาหลังจากมารดากล่อมบิดาให้เลิกฆ่าตัวตายได้แล้ว เธอค้นหาเอกสารสัญญาเงินกู้ และพบว่าบิดาได้กู้เงินจากพายัพมาจริงๆ และเป็นจำนวนเงินที่มากมายแบบที่เธอเองก็ยังตกใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel