โกรธนิดเดียว
อ้อนรักไฟเสน่หา
ตอนที่ 6 - โกรธนิดเดียว
(สกี)
"ใช่สิ เพราะสกีคงจะมีคน อึก ฮึก คนที่พิเศษกว่าอันดา"
ผมนั่งมองเธอที่ตอนนี้ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็ก แต่ผมก็รู้ดีครับว่าเธอน้อยใจผม ผมยิ้มอ่อน ๆ เมื่อเห็นใบหน้าของอันดา คนที่มีศักดิ์เป็นอาของผม แต่ไม่เคยเรียกเธอว่าอาสักครั้ง เราจึงดูเหมือนเพื่อนกันมากกว่า แต่ว่าอันดาเธอดูน่าทะนุถอมเกินกว่าที่ผมจะปล่อยปะละเลยได้ อาจจะเพราะความผูกพันของเราที่คลุกคลีกันมาแต่เด็ก
"คิดไปถึงไหนกัน...หันหน้าสวย ๆ มาให้ดูหน่อยซิ"
ผมจับแขนเธอ พยายามบังคับให้เธอหันมามอง ก็ตอนนี้อันดาเล่นงอนผมแรงมาก แถมยังร้องไห้น้ำตาไหลอีก
"ไม่อยากหัน!" นั่น! มีกระแทกเสียงใส่ผมด้วยนะ
"โกรธขนาดนั้นเชียว?"
ผมถามคนงอนที่ตอนนี้นั่งมือกอดอก หันหน้าออกด้านข้าง มองออกไปนอกรถ
"เปล่า อันดาโกรธนิดเดียว"
เธอตอบ คำตอบที่เหมือนเด็กทำผมยิ้มและส่ายหัว ไม่ใช่ว่าเบื่อหรือรำคาญอะไรนะ แต่ผมมองว่ามันคือความน่ารักเดียงสาของเธอต่างหาก
"โกรธนิดเดียว ? ถ้าอย่างนั้นก็หันหน้ามาหาสกีหน่อยซิ หันมาแป๊บเดียวก็ได้อะ ถ้ายังโกรธอยู่ค่อยหันไปงอนหรือโกรธใหม่"
ผมเริ่มตะล่อมคนงอนอย่างหลอกล่อ ผมรู้ดีว่าเธอชอบให้ง้อแบบไหน
"ไม่!!" กระแทกเสียงเก่งจริง ๆ ลูกสาวตาไฟ
"จริงอะ?...ระวังเสียใจนะ สกีเตือนแล้วนะ"
"เชอะ!!"
"Lucus's papaw หว้าน่าสงสารจัง อุตส่าห์ซื้อมาเพื่อตามหาเจ้าของ แต่กลับไม่มีคนอยากได้ซะงั้น หมดกระเป๋านี้ก็หลายบาท สงสัยคงต้องทิ้งครีมที่ไม่มีคนอยากได้แล้วสิ "
มีนคือสิ่งที่เธออยากได้ แน่นอนว่าผู้หญิงอย่างอันดาที่ดูแลตัวเองดี เธอไม่มีวันยอมทิ้งของพวกนี้แน่นอน และมันก็เป็นไปตามที่ผมคิด เธอหันหน้ามามองที่มือของผมทันที
"ทำไมถึงทำตัวฟุ่มเฟือย...เอามานี่ค่ะ!"
อยากหัวเราะเด็กแสบ เธอหันหน้ามาเขม็งตาใส่ผม แล้วดึงกระเป๋าผ้าที่บรรจุครีมที่เธอบ่นอยากจะได้ เพราะเธอเคยบอกผมไว้ว่า ถ้าวันไหนผมกลับมาเมืองไทยซื้อมาเป็นของฝากให้เธอด้วย เพราะเธออยากได้มาก
คำพูดของเธอผมไม่เคยลืมครับ เพราะว่าเธอเป็นเหมือนเด็กน้อยที่ผมเอ็นดูมาแต่เด็ก ๆ เราเล่นด้วยกันจนอันดาแทบไม่มีเพื่อนวัยเด็กเลย เธอติดผมมาก จนตามติดแทบเป็นเงา ผมจะไปที่ไหน ที่ตรงนั้นก็ย่อมมีอันดาตัวป่วนเสมอ แต่ความป่วนของเธอ มันเรียกรอยยิ้มให้กับทุกคนได้ตลอดเวลา
"หายโกรธแล้วเหรอ?" ผมแกล้งถามครับ อยากจะรู้เด็กแสบจะตอบยังไง
"โกรธอะไรที่ไหน ไม่มี๊!!! อันดาไม่เคยโกรธสกีสักครั้ง" เธอนั่งกอดกระเป๋าครีม ซบหน้ากับกระเป๋า แล้วหันหน้ามามองผม ดวงตานี่ยังแดง ๆ อยู่เลย คำตอบก็เสียงสูงปรี๊ด ไม่ค่อยเนียนเลยอันดาเอ๊ย!
"แล้วใครนะ ที่บอกว่าโกรธนิดเดียว" ผมอมยิ้มแล้วย้อนถาม จ้องหน้าเธออย่างรอคำตอบ ดูซิจะตอบผมว่ายังไง
"แมวพูด"
"หรา!"
เป็นคำตอบที่น่ารักมาก นั่นแหละครับอันดา ลูกสาวของตาไฟ ที่ใคร ๆ ในบ้านก็หลงรักเธอ เพราะเธอน่ารักจริง ๆ เธอสดใสและไร้เดียงสา
"หิวข้าวจัง แต่ตังค์ไม่มี จะมีใครใจดีเลี้ยงข้าวไหมนะ?" เธอมองหน้าทำตาปริบ ๆ แล้วพูดขึ้นลอย ๆ แต่แท้จริงเธอแค่จะสื่อความหมายมาให้ผมเลี้ยงข้าว เธอมันแสบอันดา!
"ทำไงดีนะ เงินก็ไม่ค่อยมี คงกินได้แค่ก๋วยเตี๋ยวข้างทาง พี่จนอะน้องทนได้ไหมล่ะ?" ผมแกล้งตอบกลับ เธอหลับตาลงชั่วครู่ก่อนจะกลอกสายตา แล้วชักสีหน้าใส่ผมอย่างไม่คิดเชื่อ
"เบื่อสกี คนขี้งก!" เธอต่อว่าผมด้วยรอยยิ้มอ่อน
"ไป ๆ อยากกินอะไร?" ผมส่ายหัวกับคำพูดของเธอเลยครับ
"สกีเลี้ยงใช่ไหม?" เธอย้อนถามเมื่อผมเอ่ยปากชวน
"เปล่า จ่ายใครจ่ายมัน"
"ถ้างั้นก็กลับบ้าน!"
เมื่อคำตอบที่ผมบอกออกไป จากที่เธอยิ้มสดใส แปรเปลี่ยนเป็นหุบยิ้มทันทีครับ เเล้วรีบออกปากชวนกลับบ้านเร็วไว เด็กอะไรขี้งก
"ล้อเล่นครับผม...."
"ต่อไปไม่เล่นแบบนี้นะ อันดาจริงจัง ใครไม่มีตังค์อันดาจะไม่คบด้วย"
ผมเอื้อมมือไปยีหัวเธอเบา ๆ มันเขี้ยวครับ ที่จริงอยากจะหยิกแก้มเหมือนตอนเด็ก ๆ แต่ตอนนี้อันดาเป็นสาวแล้ว ต้องให้เกียรติน้อง เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี เพราะคนที่ไม่รู้จักเราจะมองแค่ฉาบฉวยแล้วตัดสินทันที
"แต่ต้องคบกับสกีเพราะสกีมีตังค์เยอะ"
"ดีมากจ้าพี่สกีคนหล่อ"
เธอยิ้มร่าและเอื้อมมือมาหยิบแก้มของผมสองข้าง แล้วส่ายไปมา ผมอุตส่าห์ไม่แตะตัวเธอมาก แต่เพราะคงเป็นความคุ้นชินละมั้ง เลยทำให้เธอพลั้งเผลอ ผมมองหน้าเธอเล็กน้อย แล้วจึงขับรถยนต์ออกมา มุ่งหน้าพาเธอไปหาของกินที่เธอต้องการ!!
