ใช้เวลา
ตอนที่ 3
ใช้เวลา
ปรมะต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯกะทันหันเนื่องจากมีงานด่วนที่บริษัท ในฐานะผู้บริหาร เขาจึงจำเป็นต้องไป อิษยาเข้าใจดีและไม่เคยรั้งชายหนุ่ม หากเป็นเรื่องงานเธอพร้อมที่จะสนับสนุน แม้ว่าการอยู่ห่างคนรักจะทำให้เธอรู้สึกทรมานใจมากแค่ไหนก็ตาม แต่ด้วยภาระหน้าที่ของเขา เธอจึงไม่เคยเผยความในใจให้ชายหนุ่มรู้
ความจริงปรมะขอเธอแต่งงานหลายครั้ง เพราะเขาอยากให้อิษยาไปอยู่กรุงเทพฯด้วยกัน แต่ว่าหญิงสาวยังไม่พร้อม เธออยากจะมีทรัพย์สินเป็นของตัวเองก่อน พอหลังแต่งงานก็ไม่แน่ใจว่าจะทำงานได้เหมือนเดิมหรือไม่ หากเธอมีลูกก็ต้องเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน นั่นเท่ากับว่าเธอต้องพึ่งพาชายหนุ่ม
อิษยาไม่ชอบขอความช่วยเหลือใคร เธออยากยืนได้ด้วยขาของตัวเอง จึงทำงานเก็บเงิน หาลู่ทางอื่นๆให้ตัวเองมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ปรมะเมื่อรู้ว่าคนรักต้องทำงานหนัก เขาก็ไม่สบายใจพยายามเกลี้ยกล่อมเธอ แต่หญิงสาวก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเธอจะหาเงินก้อนของตัวเองให้ได้ก่อนถึงจะยอมแต่งงานกับ เพื่อในอนาคตเธอจะได้ไม่ต้องพึ่งพาเขา
ปรมะกลับไปเคลียร์งานนานหลายวัน แต่ระหว่างนี้เขาก็ยังโทรติดต่อกับคนรักตลอด ยิ่งช่วงไหนว่างๆทั้งสองก็คุยโทรศัพท์กันทั้งวัน
อิษยาทำงานอยู่ในแผนกฝ่ายบุคคลของบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงราย เธอไม่จำเป็นต้องพูดคุยกับลูกค้า อยู่แต่ในออฟฟิศ ดูแลเรื่องเอกสารและคัดกรองผู้มาสมัครงานเท่านั้น
ด้วยความที่เป็นบริษัทเล็กๆ งานของเธอจึงไม่ได้ล้นมือมากเท่าปรมะ
ด้วยพลังแห่งความรัก ทำให้ปรมะสามารถจัดการปัญหาต่างๆที่รุมเร้าภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน เพราะต้องการที่จะเดินทางไปหาคนรักที่เชียงราย และผลลัพธ์จากการที่เขาจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว จึงได้รับคำชื่นชมจากหุ้นส่วน รวมทั้งผู้บริหารคนอื่นๆ
ชายหนุ่มลางานสามวัน เพราะต้องการใช้เวลากับคนรักอย่างเต็มที่ โดยปกติแล้วหากช่วงไหนที่ ปรมะลางานยาวๆ หญิงสาวก็จะลางานด้วยเช่นกัน
ชายหนุ่มเดินทางมาถึงเชียงรายช่วงดึก โดยที่เขาไม่ได้บอกให้หญิงสาวรู้ อิษยากำลังนอนหลับสบาย แต่จู่ๆก็รู้สึกว่าเตียงอ่อนยวบ เมื่อหันกลับไปมองก็พบว่าชายหนุ่มนอนอยู่ข้างๆ หญิงสาวตกใจ ใน ความมืดเธอเห็นใบหน้าปรมะชัดเจน
“อย่าเสียงดัง แม่คุณหลับแล้ว”
ปรมะมีกุญแจสำรอง ซึ่งอิษยาเป็นคนให้เอาไว้ แต่เขาไม่เคยได้ใช้มัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแอบเข้ามาในบ้านหญิงสาวโดยที่ไม่ได้บอกใคร
“คุณมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกอิมก่อนล่ะคะ”
“ผมอยากเซอร์ไพรส์คุณไง”
ชายหนุ่มกระซิบ คลอเคลียใกล้ๆใบหน้า หญิงสาว ขบเม้มผิวขาวเนียน ฝากร่องรอยรักบนลำคอระหง
“คุณปอนด์”
อิษยาไม่สามารถต้านทานความต้องการของชายหนุ่มได้ ภาษากายของคนรักบ่งบอกว่าเขาคิดถึงเธอมากแค่ไหน พายุรักกินเวลานานหลายชั่วโมง ทั้งๆที่ขับรถมาไกลด้วยระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร แต่ชายหนุ่มก็ยังมีแรงเหลือเฟือที่จะรังแกคนรัก
เช้าวันต่อมา อิษยาขับรถไปส่งแม่ที่โรงเรียน แวะตลาดเช้าซื้อกับข้าวกลับมาด้วย เมื่อกลับมาถึง ปรมะก็ตื่นแล้ว เขาสวมเสื้อยืดและกางเกงกีฬา ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน หญิงสาวเห็นอย่างนั้นก็อดยิ้มไม่ได้ บอกใครใครจะเชื่อ ว่าคนรักของเธอเป็นถึงประธานบริษัท
“บอกแล้วไงคะว่าไม่ต้องช่วยทำงานบ้าน เดี๋ยวอิมทำเอง”
ชายหนุ่มปิดน้ำเดินเข้ามากอดคนตัวเล็กโดยไม่สนสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหน้าบ้าน
“ก็ผมรักคุณไม่อยากให้คุณเหนื่อย”
“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ บ้านหลังเล็กนิดเดียว ไม่ได้มีอะไรให้ทำเยอะ”
“ก็นั่นแหละ ผมไม่อยากให้คุณทำอะไรเลย ไม่อยากให้คุณเหนื่อยแม้แต่นิดเดียว”
“คนเราจะให้นั่งเฉยๆได้ยังไงคะ ลุกขึ้นมาขยับแขนขยับขาทำนู่นทำนี่ร่างกายก็แข็งแรง หรือคุณอยากเห็นอิมป่วยคะ”หญิงสาวเอ่ยถามเงยหน้ามองเขา
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ผมแค่อยากดูแลคุณให้สุขสบาย”
“ทุกวันนี้อิมก็สุขสบายดีนะคะ มีงานทำมีเงินเดือน อิมบอกแล้วไงคะว่าอิมไม่อยากรบกวนคุณ ต่อให้คุณร่ำรวยมากแค่ไหน แต่อิมก็อยากใช้เงินตัวเองอยู่ดี”
หญิงสาวยอมรับว่าเธอเป็นคนคิดมาก บางครั้งเธอก็มักจะได้ยินคำพูดที่ทำให้ตัวเองรู้สึกไม่สบายใจ ที่ทำงานไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นมิตรกับเธอ พอคนกลุ่มนั้นรู้ว่าเธอมีแฟนเป็นถึงประธานบริษัทและเป็นทายาทเศรษฐีที่เชียงใหม่ ก็มักจะเหน็บแนมอยู่เสมอ บางครั้งก็พูดจาดูถูกทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับปรมะเอาเสียเลย
“คุณมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”
“มีสิคะ ใครๆก็บอกว่าฉันไม่คู่ควรกับคุณ ฉันพยายามไม่สนใจแล้วแต่มันก็อดคิดไม่ได้”
บางครั้งสิ่งที่อยู่ในใจ เธอก็ไม่ได้อยากจะปิดบัง อยากจะระบายให้คนรักฟัง เพราะทุกครั้งที่เขารู้ว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจก็จะคอยปลอบโยนเสมอ
“คุณไม่ต้องไปฟังเสียงนกเสียงกา ใครจะพูดอะไรก็ช่างเขา รู้ไว้แค่ว่าผมรักคุณก็พอ และครอบครัวผมก็จะรักคุณเหมือนที่ผมรัก”
ชายหนุ่มให้ความมั่นใจกับหญิงสาว เขาจะไม่ทำให้เธอต้องรู้สึกด้อยค่าตัวเอง ถึงแม้ว่าฐานะจะแตกต่างกันแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรค ในเมื่อเขารักเธอ เขาไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง
“ช่างเถอะค่ะ ความจริงอิมก็ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น วันนี้อิมว่าจะพาคุณไปเที่ยว”
“จะพาผมไปไหนครับ”
ระหว่างที่พูดคุยกันชายหนุ่มก็ยังคงโอบกอดหญิงสาวไม่ห่าง
“คุณอยากไปที่ไหนคะ เดี๋ยวอิมจะขับรถพาคุณไปเอง”
“ผมยังไม่รู้เลยว่าที่เชียงรายมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง เอาเป็นว่าตามใจคุณก็แล้วกัน คุณไปไหนผมก็ไปด้วย ที่ไหนมีคุณก็น่าไปทั้งนั้น”
ถึงจะคบกันมาหลายปีแต่ชายหนุ่มก็ขยันเติมความหวาน เขามักจะพูดจาหยอกเย้าทำให้หญิงสาวเขินอายอยู่เสมอ
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราไปวัดร่องขุ่นกันก่อนดีไหมคะ ไปช่วงเช้าๆแดดจะได้ไม่ร้อนมาก แล้วหลังจากนั้นฉันว่าจะชวนคุณไปน้ำตก เพราะช่วงสายจนถึงเที่ยงอากาศจะร้อน เราไปนั่งหย่อนขาแช่น้ำเล่นดีไหมคะ”
“ตามนั้นเลยครับ”
ชายหนุ่มตามใจหญิงสาวเสมอ เขาไม่เคยขัดใจอิษยาเลยสักครั้ง ไม่ว่าเธออยากทำอะไรอยากไปไหนเขาก็ไปได้เสมอ ไม่เคยอิดออด
