Kyle & Queen - 11 ถ้าเป็นห่วงมากก็ขึ้นมาส่งซะสิ
“พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม”
ฉันถามเขาด้วยความเป็นห่วง พี่ไคล์หัวเราะในลำคอเบา ๆ ท่าทางของเขาเหมือนคนอกหักอย่างเห็นได้ชัด พี่ไคล์ไม่ตอบคำถามฉันแต่จ้องมองไปทางด้านหน้าแทน ฉันจึงมองตามเขาไปก่อนจะเห็นพี่มีนากับแฟนของเธอกำลังทักทายเพื่อนคนอื่น ๆ ด้วยรอยยิ้มหวาน ฉันหันกลับมามองพี่ไคล์ตาของเขาคลอไปด้วยน้ำตาฉันก็รู้สึกเจ็บใจแทน
ทำไมพี่มีนาถึงมาเล่นกับความรู้สึกของพี่ไคล์ได้ขนาดนี้กันทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็ยังมาใกล้ชิดมาให้ความหวังพี่ไคล์แบบนี้
“จะไปไหนคะ” ฉันเอ่ยถามร่างสูง เมื่อจู่ ๆ เจ้าตัวก็ลุกขึ้นทั้งยังเซไปเซมาจนฉันต้องเข้าไปประคองด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าพี่เขาจะเซลงบ่อน้ำพุ
“อย่ามายุ่ง!”
พี่ไคล์พูดเสียงห้วนก่อนจะผลักฉันให้ออกห่างฉันเซจนเกือบจะเป็นคนที่ลงไปในบ่อน้ำพุเสียเองแต่โชคดีที่ยังทรงตัวไว้ได้ สายตาของพี่ไคล์วูบไหวเล็กน้อยตอนที่มองฉันคล้ายว่าเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะผลักฉันแรงขนาดนั้น เจ้าตัวยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติก่อนจะเดินหนีฉันไป
ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งก็เห็นพี่ไคล์นั่งอยู่กับพวกเพื่อน ๆ ของเขาฉันจึงเดินไปนั่งข้างพี่คิงส์เงียบ ๆ
“หายไปไหนมา”พี่คิงส์เอ่ยถามฉัน
“ไปห้องน้ำน่ะ”ฉันบอกปัด ๆ ไปก่อนจะเห็นว่าพี่มีนาและแฟนหนุ่มของเธอกำลังเดินมาที่โต๊ะ
“ไฮทุกคนงานเป็นไงบ้าง อาหารอร่อยไหม?” พี่มีนาทักทายทุกคนอย่างอารมณ์ดี ส่วนฉันได้แต่มองพี่ไคล์ที่ยังคงนั่งนิ่งเงียบ
“ดีเลย” เป็นพี่คิงส์ที่ตอบออกไป ถ้าปกติก็คงจะเป็นพี่ไคล์ละมั้งเป็นคนแรกที่จะตอบคำถามของพี่มีนา
“เก็บเงียบเลยนะไม่เห็นรู้เลยว่ามีแฟนแล้ว” พี่เฉินเอ่ยแซ่วแต่ฉันคิดว่าพี่เขาคงแซวตามมารยาทเท่านั้น
“ฮ่า ๆ ก็นะ มีนาอยากให้ชัวร์ ๆ ก่อนค่อยเปิดตัว โจเชฟนี่เพื่อน ๆ ของมีนาเอง”
บทสนทนายาวไปเรื่อย ๆ สายตาของฉันจับจ้องแต่พี่ไคล์ที่กระดกทั้งไวน์และเหล้าเข้าปากไม่พักจนกระทั่ง
ตึก!
เสียงวางแก้วดังลั่นโต๊ะเป็นพี่ไคล์ที่ทำมันเอง ภายในโต๊ะเงียบสนิทก่อนที่ร่างสูงจะลุกขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าพี่มีนาด้วยสายตาเศร้า
“สุขสันต์วันเกิดนะมีนา..ไคล์ขอตัวกลับก่อน” พี่ไคล์พูดด้วยเสียงสั่นเครือก่อนจะเดินออกจากโต๊ะไป ทุกคนมองกันอย่างเลิกลั่กกับสิ่งที่เกิดขึ้น พี่มีนาชะงักไปเล็กน้อยแล้วรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติพูดคุยกับเพื่อนต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันจึงใช้โอกาสนั้นเดินตามพี่ไคล์ออกไป
“หยุดนะพี่ไคล์พี่เมาอยู่นะจะขับรถได้ยังไง!”ฉันปรี่เข้าไปห้ามเมื่อเห็นว่าพี่ไคล์กำลังจะเข้าไปในรถ
“แล้วจะมายุ่งอะไรด้วยวะแม่ง!!” พี่ไคล์หันกลับมาตะคอกใส่ฉันใบหน้าหล่อแสดงถึงความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
“พี่อยากตายหรือไง เมาขนาดนี้จะขับรถได้ยังไงกัน” ฉันตะคอกสวนกลับ ฉันรู้ว่าตอนนี้พี่ไคล์รู้สึกแย่แค่ไหนแต่การเอาชีวิตมาเสี่ยงแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องเลยสักนิด พี่ไคล์มองหน้าฉันอย่างโกรธเคือง เจ้าตัวปิดประตูรถเสียงดังก่อนจะเดินเซ ๆไปยังถนนใหญ่
“พี่จะไปไหน” ฉันถามเขาพร้อมกับเดินเข้าไปประคองร่างสูงอีกครั้ง ฉันรู้ว่าตัวเองจุ้นจ้านแต่ฉันเป็นห่วงพี่เขามากจริง ๆ พี่ไคล์ทำท่าหงุดหงิดแต่ก็ยอมให้ฉันประคองเขาอย่างง่ายดาย ไม่ใช่ว่าจะเดินไปให้รถชนหรอกใช่ไหมเนี่ย
ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดเพราะพี่ไคล์แค่เดินออกมาเรียกแท็กซี่เท่านั้น ฉันค่อย ๆ ประคองเขาให้เข้ารถไปอย่างปลอดภัย พี่ไคล์บอกสถานที่คนขับเรียบร้อยแล้วเจ้าตัวก็หันมาจ้องหน้าฉัน
“กลับบ้านดี ๆ นะคะ” ฉันโบกมือลาเขาด้วยรอยยิ้ม พี่ไคล์มองฉันเขม็ง ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อจู่ ๆ พี่ไคล์ก็ดึงแขนฉันอย่างแรง
“ถ้าเป็นห่วงมากก็ขึ้นมาส่งซะสิ” คำพูดห้วน ๆ ของพี่ไคล์ทำฉันชะงักไปเล็กน้อยหมายความว่ายังไงคือจะให้ฉันไปด้วยงั้นเหรอแต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไรพี่ไคล์ก็น็อกคาเบาะไปแล้ว
