EP.3-2 งานหมั้น
เหอะ ไม่ต้องช่วยฉันลากก็ได้ไหม แค่ยกลงจากรถให้ฉันก็ยังดี แต่ไม่เป็นไร ฉันเกิดเป็นหญิงต้องรู้จักบริหารเสน่ห์
ฉันลงจากรถมา และก็เห็นผู้ชายเดินออกจากคอนโดมาที่รถถัดจากรถฉันตอนนี้แค่สองคันพอดี
“เอ่อ ขอโทษนะคะ” ฉันใช้เสียงสองทันที และตั้งแต่คำแรกผู้ชายคนนั้นก็หันมาอย่างเร็วก่อนจะเดินตรงมาที่ฉัน
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” แหม๋ ไม่ต้องทำเสียงหล่อขนาดนี้ก็ได้ไหมคะ
“พอจะช่วยยกกระเป๋าลงจากท้ายรถให้หน่อยได้ไหมคะ พอดีมันหนัก ยกไม่ไหวค่ะ” ฉันยังคงใช้เสียงสองพร้อมกับท่าทางบอบบางพองามออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือ
“ได้สิครับ” ว่าจบผู้ชายคนนั้นก็เดินไปที่ท้ายรถก่อนจะเปิดมันออกพร้อมกับยกกระเป๋าลงมาวางให้ที่พื้น
“ขอบคุณมากนะคะ” ฉันบอกออกไปด้วยสีหน้าขอบคุณจริงๆ
“ให้ผมไปส่งที่หน้าห้องไหม” เร็วไปจ้ะ แค่ยกกระเป๋าแค่นี้ก็จะได้รู้ห้องแล้วหรอ
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจแล้ว ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” ฉันบอกเพื่อตัดบทการสนทนา แต่เหมือนว่าสุดหล่อเค้ายังไม่อยากให้การสนทนาจบ
“ว่าแต่มาอยู่ใหม่หรอครับ”
“ค่ะพึ่งย้ายเข้ามา” ฉันตอบด้วยรอยยิ้มใสซื่อไป
“ผมแทนครับ”
“มัตซีค่ะ งั้นขอตัวนะคะ”
“ครับ” ฉันเดินลากกระเป๋าเข้าคอนโดทันที จริงๆมันก็ไม่ได้หนักอะไรถึงกับยกไม่ไหวหรอก แต่เป็นผู้หญิงไม่ควรยกของหนักมาก มันไม่ดี
ว่าแต่มันชั้นไหนห้องไหนเนี่ย ให้ตายสิ นอกจากจะไม่รอแล้วยังไม่คิดจะบอกกันอีกว่าตัวเองอยู่ชั้นไหน ให้มันได้แบบนี้สิ
สุดท้ายฉันก็ต้องโทรไปถามคุณป้าจนได้ จะถามเคาร์เตอร์ก็ไม่ได้ต้องให้เจ้าของห้องลงมารับหรือให้เจ้าของห้องแจ้งลงมาก่อน ซึ่งแน่นอนว่าตาพี่ยิมบ้านั่นมันไม่สนใจฉันหรอก
เมื่อได้ชั้นได้ห้องเรียบร้อยฉันก็ขึ้นลิฟท์มาจนถึงชั้นเป้าหมายแล้วหยุดอยู่หน้าห้องเพื่อกดออด เพราะตอนนี้คุณเจ้าของห้องเค้ายังไม่ได้ให้คีย์การ์ดฉันค่ะ ว่าแต่พี่ยิมเค้ากำลังเดินทางลงมาจากดาวอังคารหรือไง ฉันกดตั้งนานแล้วนะเนี่ย ยังไม่เปิดให้อีก
แกรก โอ้พ่อคุณ กว่าจะหาทางออกมาเปิดประตูให้ฉันได้นี่เล่นเขาวงกตหรือยังไงกัน ฉันมองจิกพี่ยิมไปทีหนึ่งแต่เค้าไม่ได้สนใจมองฉันหรอก เปิดประตูเสร็จเค้าก็เดินเข้าห้องทันที ฉันก็ลากกระเป๋าเดินตามเค้าเข้ามาและตรงไปห้องนอนที่พี่ยิมเข้าไปเมื่อกี้
“พี่ยิมเก็บของจะไปไหนคะ” พอเข้ามาฉันก็เห็นกระเป๋าพร้อมเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้พับวางอยู่ปลายเตียงฉันเลยถามออกไป
“ฉันจะไปอยู่ข้างนอก” พี่ยิมตอบกลับมา ลืมไปเลยว่าวันนี้ทั้งวันพึ่งได้ยินเสียงพี่ยิม แต่เดี๋ยวนะ...
“ไปอยู่ข้างนอก? ทำไมคะ” นั่นสิทำไมเค้าต้องไปอยู่ข้างนอกในเมื่อที่นี่เป็นคอนโดที่เค้าอยู่ประจำ
“ฉันไม่อยากอยู่กับเธอ” ค่ะ สั้นๆได้ใจความจริงๆ แต่ขืนปล่อยให้ไปนอนที่อื่นก็ไม่ได้ทำภารกิจสำคัญสิคะ คุณคู่หมั้น
“ซีคงให้พี่ยิมไปไม่ได้หรอกค่ะ” ฉันบอกพร้อมกับเดินไปแย่งกระเป๋าของพี่ยิมออกจากมือเค้า ทำให้เค้าหันมามองหน้าฉันนิ่ง คิดว่ากลัวหรอคะ ตอบเลยว่ากลัวแต่ไม่แคร์ เพราะไอ้หน้านิ่งๆสายตาเรียบๆนั่นก็เห็นมาตลอดอยู่แล้วค่ะไม่ทำให้หวั่นใจได้หรอก นี่มัตซีนะคะ
“เอามา” พี่ยิมสั่งเสียงเรียบ
“ไม่ค่ะ ถ้าอยากไปก็โทรไปบอกคุณป้าก่อนสิคะ ถ้าคุณป้าอนุญาตซีก็ไม่มีปัญหา” ฉันตอบเสร็จก็ลากกระเป๋าตัวเองพร้อมของพี่ยิมไปจัดเข้าตู้
“อย่ามาลองดี” ฉันหันไปมองพี่ยิมทันที ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆพี่ยิมทีล่ะก้าว ทีล่ะก้าวจนหยุดอยู่ตรงหน้าเค้าแค่ก้าวเดียว
“ทำไมคะ อยู่ห้องเดียวกันกลัวอดใจไม่ไหวหรอ พี่ยิมกลัวซีหรอคะ” ฉันถามออกไปเสียงนิ่งเรียบ พร้อมกับสายตาที่เหนือกว่า
“ไม่จำเป็นต้องกลัว”
“หรอคะ แต่ที่ซีเห็นเหมือนพี่ยิมกลัว เลยเลือกที่จะหนีมากกว่า” ฉันพูดออกไปอย่างท้าทาย เพราะผู้ชายแบบเค้าไม่ชอบให้ใครมาท้าทายหรือหยามตัวเองอยู่แล้ว
พี่ยิมมองหน้าฉันนิ่งๆสักพักก็หันตัวเดินออกจากห้อง ไม่กลัวแล้วเดินหนีทำไมคะที่รัก หึ ฉันเดินกลับมาจัดเสื้อผ้าของใช้เข้าที่ต่อจนเสร็จก่อนจะอาบน้ำล้างตัว แต่พอออกมานอกห้องนอนกลับไม่เห็นพี่ยิม
“ไปไหนอีกนะ” ฉันบ่นออกไปอย่างหงุดหงิด พึ่งหมั้นกันแท้ๆ จะอยู่ให้เห็นหน้าเห็นตากันสักวันก็ไม่ได้หรือไง แล้วไอ้ที่ฉันท้าไปเมื่อเย็นนี่คือเค้าไม่สนใจหรือยังไงกันถึงได้หายไปแบบนี้
