EP.3-1 งานหมั้น
ยิม
“ผมบอกแล้วว่าไม่” ผมยังยืนยันคำเดิมกับพ่อแม่ไป
“แกจะทำให้พ่อกับแม่เสียผู้ใหญ่นะตายิม นั่นเพื่อนสนิทพ่อกับแม่ แล้วพ่อกับแม่ก็คุยกับทางนั้นเรียบร้อยแล้ว” แม่พูด
“แล้วยังไง” พ่อแม่ไปพูด แต่ผมไม่ได้ไปพูดด้วย แล้วไม่เคยบอกว่าจะหมั้นกับใครก็ไม่รู้
“ตายิม ถ้าแค่นี้แกทำให้พ่อกับแม่ไม่ได้ พ่อกับแม่ก็ไม่กล้าหวังพึ่งพาอะไรแกแล้วแหละ” แม่พูดด้วยสีหน้าเศร้า แต่แล้วยังไง มันคนล่ะเรื่องกันไหม
“งั้นก็แล้วแต่พ่อกับแม่เถอะครับ” ก็นั่นแหละ สุดท้ายผมจะปฏิเสธอะไรได้ ถ้าไม่ทำก็เหมือนกับทำให้ท่านเสียหน้าเสียใจ อีกอย่างสำหรับผมต่อให้จะเป็นผู้หญิงคนนี้หรือผู้หญิงคนไหนก็เหมือนๆกัน
“ลูกรับปากพ่อกับแม่แล้วนะ ห้ามเปลี่ยนใจนะตายิม” แม่พูดด้วยรอยยิ้ม
“ผมเปลี่ยนได้หรอ” ก็ไม่ได้อยู่แล้ว
“แม่รักลูกที่สุดเลย”
“งั้นผมกลับนะ” ผมบอกก่อนจะไหว้พ่อกับแม่แล้วกลับไปที่คอนโด
วันก่อนที่ท่านนัดให้ไปกินข้าวแล้วไม่ไป แต่สุดท้ายวันนี้ก็โดนเรียกตัวให้กลับมาจนได้ แล้วสุดท้ายก็ไม่พ้นเรื่องที่ผมคิดจริงๆ อยากเห็นหน้ายัยผู้หญิงนั่นจริงๆยอมหมั้นกับคนอื่นโดยไม่รู้จักนี่ต้องเป็นแบบไหนกัน ถ้าไม่อยากได้ผัวจนตัวสั่น
มัตซี
“มึงอำพวกกูเล่นใช่ไหม” คำถามนี้ออกจากปากยัยเฟอทั้งวันตั้งแต่เช้า
“กูคงไม่หลงตัวเองหรืออยากได้พี่ยิมของพวกมึงหนักจนขนาดต้องมาอำเรื่องแบบนี้เล่นหรอกนะ” ฉันบอกพวกมันจนปากจะฉีกแล้ว แต่มันก็ยังไม่เชื่อฉันอีก
จะเรื่องอะไรล่ะ ก็เรื่องงานหมั้นของฉันกับไอ้พี่ยิมอะไรนั่นไง เมื่อวานคุณแม่บอกว่าได้ฤกษ์แล้ว โดยคุณแม่กับคุณป้าอยากได้แบบเร็วที่สุด เลยได้มาอาทิตย์ที่สองของเดือนหน้า ตอนนี้มันก็จะสิ้นเดือนแล้ว อีกไม่นานก็จะถึงงานแล้ว ฉันก็เลยเล่าให้ยัยสองตัวนี้ฟัง
“หึ๋ย แบบนี้มึงก็จะได้ครอบครองเจ้าพ่อน้ำแข็งที่ใครๆก็อยากได้อ่ะดิ” ยัยเฟอพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ก็แค่ผู้ชายที่หล่อมากคนหนึ่ง ไม่เห็นต้องตื่นเต้นขนาดนั้นเลย” ฉันพูดออกไป เพราะผู้ชายหล่อๆที่เข้ามาในชีวิตฉันก็เยอะแยะไป ถึงจะยังสู้พี่ยิมไม่ได้ก็เถอะ
“เดี๋ยวมึงจะรู้ว่าการเข้าใกล้พี่ยิมโดยที่เค้าไม่ได้เป็นคนเลือกอ่ะ มันยากแค่ไหน” ยัยน้ำรินพูดต่อ
“กูจะคอยดู ว่าความเย็นชาของหมอนั่นจะเอาชนะผู้หญิงสวยๆเอ็กส์ๆแบบกูได้หรือเปล่า” ฉันพูดด้วยความมั่นใจ อันนี้ฉันไม่ได้หลงตัวเองนะ ผู้ชายส่วนมากแค่ฉันเล่นหูเล่นตาใส่หน่อยก็เข้ามาหากันแล้ว หลายๆคนนี่ฉันอยู่เฉยๆก็เข้ามาหาเองเลย แล้วนี่หมั้นเสร็จก็ต้องอยู่ด้วยกันทุกวัน จะทนได้สักแค่ไหนกัน ยังไงพี่ยิมก็ผู้ชายไหมล่ะ
“เออกูจะรอดู ถ้ามึงทำให้พี่ยิมตบะแตกได้เมื่อไหร่นะ กูจะเลี้ยงเหล้ามึงหนึ่งอาทิตย์เต็มๆเลย” ยัยเฟอพูด
“เออ กูด้วย” ตามด้วยยัยน้ำริน
“จัดไปสิคะ” ฉันบอกออกไปด้วยรอยยิ้ม อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆจัง อยากรู้นักว่าจะยากแค่ไหน ถึงทำให้ยัยสองคนนี้ยอมทุ่มกันขนาดนี้
วันหมั้น...
วันนี้เป็นวันที่งานหมั้นถูกจัดขึ้นที่บ้านของฉัน โดยงานก็ไม่ได้จัดใหญ่โตอะไร เชิญแขกแค่ที่สนิทกันเท่านั้น คุณแม่บอกว่าไว้งานแต่งค่อยจัดเต็ม ซึ่งฉันก็ไม่ได้มีปัญหาอยู่แล้ว คนยิ่งเยอะก็ยิ่งเหนื่อย
พิธีการต่างๆถูกดำเนินไปเป็นขั้นตอนตามประเพณีของไทยเราจนเสร็จสิ้นไปด้วยดี โดยที่ทั้งงานคู่หมั้นของฉันทำอยู่หน้าเดียว นั่นคือหน้านิ่งๆ แต่ก็เรื่องของเค้าสิ ถ่ายรูปไปฉันออกมาสวยก็พอแล้ว
“น้าฝากดูแลน้องด้วยนะลูก” แม่ของฉันบอกกับพี่ยิมหลังจากเสร็จงาน ซึ่งพวกฉันต้องไปอยู่ด้วยกันที่คอนโดพี่ยิมนั่นเอง
“ครับ” พี่ยิมตอบสั้นๆตามแบบของเค้า
“ถ้าพี่เค้าดูแลหนูไม่ดี บอกป้านะลูก เดี๋ยวป้าจัดการให้” คุณป้ามณีรัตน์บอกฉัน ซึ่งไม่ต้องถึงมือคุณป้าหรอกค่ะ แค่นี้มัตซีเอาอยู่
“ได้ค่ะคุณป้า” ฉันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“งั้นพากันไปพักเถอะลูก ขับรถดีๆล่ะ” คุณพ่อของฉันพูด ฉันกับพี่ยิมเลยลาพวกผู้ใหญ่ก่อนจะพากันขึ้นรถตรงไปที่คอนโดของพี่ยิมทันที
โดยระหว่างทาง บรรยากาศบนรถนี่ฉันคิดว่าป่าช้า เค้าไม่แม้แต่จะพูดหรือมองฉันเลยแม้แต่น้อย พูดง่ายๆ เหมือนกับว่าเค้าขับรถอยู่คนเดียวแบบนั้นแหละ แต่วันนี้ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันจะให้เวลาเค้าได้เตรียมตัวเตรียมใจก่อนสักพักก็แล้วกัน เพราะถ้าถึงเวลาที่ฉันจะเริ่มรุกเมื่อไหร่ล่ะก็ ฉันจะเอาให้เค้าตั้งตัวไม่ติดกันเลย
ไม่นานเราก็ขับรถมาถึงคอนโด และพอถึงปุ๊บสุภาพบุรุษอย่างพี่ยิมก็ลงจากรถเดินนำฉันขึ้นไปเลยจ้า
เหอะ ไม่ต้องช่วยฉันลากก็ได้ไหม แค่ยกลงจากรถให้ฉันก็ยังดี แต่ไม่เป็นไร ฉันเกิดเป็นหญิงต้องรู้จักบริหารเสน่ห์
