บท
ตั้งค่า

กินเด็ก1 (75%)

สาวน้อยมองการกระทำของสามีด้วยความตกตะลึง หัวตาร้อนผ่าว หน้าอกด้านซ้ายเหมือนถูกทิ่มแทงด้วยหอกแหลมๆ นับครั้งไม่ถ้วน ทว่ากลับไม่อาจละสายตาเจ้ากรรมจากภาพบาดใจนั้นได้

ระหว่างที่คนทั้งคู่กำลังแสดงฉากเลิฟซีน18 ให้เธอได้ชมจนปวดหนึบไปถึงกระดองใจ สมองน้อยๆ ก็ครุ่นคิดว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน ถึงกล้าดูดปากกับสามีเธออย่างเย้ยฟ้าท้าดินแบบนี้ แต่ตาเฒ่าก็ไวไฟเสียเหลือเกิน ฮึ่ย…คนแก่อะไรสำส่อนจนน่าหมั่นไส้

เอาไงดี…จะตีหัวสามีอาวุโส แล้วลากคอไปอีกห้อง ก่อนจะตะโกนใส่หน้าว่าถ้าอยากได้แบบที่แม่นั่นทำแล้วมาแต่งงานกับเด็กอย่างเธอทำไม หรือว่าจะตีหัวยัยผู้หญิงที่ฟัดกันนัวกับตาเฒ่า แล้วโยนหล่อนออกไปให้พ้นหูพ้นตาซะ แต่หูยยยย…มันก็แค่ความคิดชั่วร้ายที่แว่บขึ้นมาในหัวสมองเท่านั้นแหละ เอาจริงๆ เธอไม่กล้าหรอก โคตรหงอเลยล่ะ เพราะกลัวสามีว้ากใส่หน้า หรือถ้าโมโหจัดคนเถื่อนดิบไม่สนหัวใครอย่างเขาก็คงจะจับกระทำชำเรา เหมือนไอ้โรคจิตบ้ากามที่ถูกจองจำอยู่ในคุกมืดใต้ดินจนไม่เคยพานพบผู้หญิงมาเป็นชาติ

เอ๋…หรือว่าจะทำอย่างที่คิดดีนะ…

พลังอาฆาตแบบนางมารน้อยเริ่มผุดขึ้นมาอีกครา เมื่อเห็นว่าคนทั้งคู่ตั้งท่าจะถอดเสื้อผ้า แล้วทำเรื่องบัดสีต่อหน้าต่อตา เพราะถึงแม้สามีอาวุโสของเธอจะหล่อแบบแก่ๆ แถมยังเผด็จการและปากร้ายจนน่าหมั่นไส้ แต่เธอก็หึงอะนะ…แบบว่าหึงจนหูอื้อตาลายเชียวล่ะ

“อ๊ะ…วูล์ฟขา…” เสียงครางน่าสะอิดสะเอียนของแม่สาวหุ่นสะบึม ทำให้คนที่ร่ำๆ ว่าอยากจะกลายร่างเป็นนางมารตัวน้อยๆ หลุดออกจากภวังค์ได้อย่างชะงัด

มะลิร้อยเม้มปากจนเกือบเป็นเส้นตรง ละสายตาจากภาพบาดใจ ก่อนจะผุดลุกขึ้นด้วยท่าทางเสียศูนย์ แล้วก็ต้องเซถลาเกือบจะล้มหัวคะมำ ดีที่มือบางคว้าขอบโต๊ะวางโคมไฟไว้ได้เสียก่อน แต่นั่นก็ทำให้ข้าวของซึ่งวางอยู่ใกล้ๆ หล่นลงกระแทกพื้นพรมเสียงดังตุ้บ ส่งผลให้สองร่างที่กำลังนัวเนียกันอย่างถึงพริกถึงขิงได้สติ นางแบบสาวมองหน้ามะลิร้อยอย่างเยาะหยัน แต่อะไรก็ไม่สร้างความเจ็บปวดเท่าสายตาเย็นชาที่สามีกราดมองมา

“หมดหน้าที่ของผู้หญิงน่าเบื่ออย่างเธอแล้ว ออกไปให้พ้นหน้าฉัน!” มะลิร้อยน้ำตาคลอ เมื่อโดนสามีขับไล่อย่างไม่ไว้หน้า ก่อนจะวิ่งออกจากห้องนอนใหญ่ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวในหัวใจแสนสาหัส

เสียงครวญครางแห่งความสุขสม และเสียงหัวเตียงขยับโยกเข้ากระแทกผนังห้อง บ้างก็ลั่นเอี๊ยดอ๊าดดังระงมตลอดทั้งคืน ทำให้คนที่นอนอยู่ห้องข้างๆ ต้องคว้าหมอนมาปิดหู พยายามทำจิตใจให้ว่างเปล่า แต่กลับไม่อาจข่มตาหลับได้ลง สุดท้ายเธอก็ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นมา

“โอ๊ย…ทำไมต้องเอาแต่คิดถึงภาพที่เขากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผู้หญิงคนนั้นด้วยนะ ฮึ่ย…ตาเฒ่า บ้าๆๆๆ คอยดูนะเค้าจะไม่ให้แตะต้องตัวเค้าอีกเลย”

มะลิร้อยเอ่ยคาดโทษสามีด้วยน้ำเสียงงอนๆ ก่อนจะนั่งน้ำตาซึมท่ามกลางความมืดมิดและอ้างว้างจับขั้วหัวใจ มองไปทางไหนก็ว่างเปล่า จนสาวน้อยต้องยกลำแขนเสลาขึ้นกอดตัวเองเอาไว้ ก่อนจะตัดสินใจลากผ้าห่มและหมอนไปนอนขดตัวที่โซฟาในห้องรับแขก เสียงหวานพึมพำหาบุพการีผู้ล่วงลับไปแล้วอย่างน่าเวทนา สุดท้ายก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น จนเมื่อเหนื่อยและเพลียจัดถึงได้ผล็อยหลับไปทั้งน้ำตา

คนที่เพิ่งได้นอนเมื่อตอนค่อนรุ่งรู้สึกตัวตื่นในตอนสายๆ ของวันใหม่ วาดมือสะเปะสะปะหาร่างแน่งน้อยที่ตนข่มใจไม่ให้ลักหลับ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องขโมยจูบ และกอดแนบอกตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา ครั้นพบแต่ความว่างเปล่าหัวคิ้วดกหนาทว่าได้รูปซึ่งพาดอยู่เหนือดวงตาสีน้ำเงินอมเทาก็ย่นเข้าหากัน ก่อนที่เจ้าของร่างทรงพลังจะผุดลุกขึ้น ก้าวลงจากเตียงนอนนุ่มในห้องรับแขกตรงไปยังห้องน้ำ จากนั้นก็วิ่งหน้าตั้งไปยังระเบียง แต่กลับไร้เงาของยัยตัวแสบ พ่อคนเอาแต่ใจเค้นเสียงห้าวกระด้างสบถลั่น เสยผมอย่างลวกๆ ก่อนจะเดินทำหน้าบึ้งออกมาด้านนอก

“ไอ้บิลลี่ ยัยเด็กนั่นไปไหน” ทันทีที่เจอคนสนิทวูล์ฟก็เค้นเสียงกระด้างเอ่ยถาม สภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง และใส่เสื้อยืดกับกางเกงนอนลายทาง บ่งบอกว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้อาบน้ำแปรงฟัน ทำให้เลขาหนุ่มมองเจ้านาย ซึ่งเคยเห็นแต่มาดเฉียบเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วจนชินตาอย่างอึ้งๆ ไปชั่วขณะ

“ฉันถามว่ายัยเด็กนั่นไปไหน!” คราวนี้อภิมหาเศรษฐีหนุ่มถึงกับกดเสียงต่ำซักไซ้

“เอ๋…เด็กนั่น…นายหมายถึงใครครับ”

“ก็เมียฉันยังไงล่ะ” เสียงแข็งๆ โพล่งขึ้นอย่างหมดสิ้นความอดทน วูล์ฟไม่สนว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไง เพราะตอนนี้เริ่มเป็นกังวลว่าแม่ตัวดีหายไปไหน เธอหนีเขาไปแล้วหรืออย่างไร

“นายยอมรับว่าคุณมะลิเป็นเมียแล้วเหรอครับ” คนสนิทสวนกลับหน้าตาย ทั้งที่ในใจอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะลั่น เพราะเขาไม่เคยเห็นเจ้านายดูร้อนรนเพราะผู้หญิงคนไหนมาก่อน…เป็นบุญตาชะมัด

“ไอ้บิลลี่! อย่ามาเล่นลิ้น!” วาจาที่หลุดออกมาจากปากอีกฝ่ายทำให้จอมโอหังเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง ก่อนจะตวาดลั่นกลบเกลื่อนความกระดากอาย แต่ยังไม่วายหน้าขึ้นสีระเรื่อชวนมอง จากนั้นก็เอ่ยคาดคั้นด้วยท่าทีกระวนกระวาย จนคนที่รู้ใจเจ้านายแทบซ่อนยิ้มไม่มิด

“บอกมาว่าเด็กนั่นไปไหน”

“นายหญิงกลับบ้านไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วครับ ผมห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง”

กล่าวจบบิลลี่ก็ก้มหน้าเตรียมรับคำด่าทอที่เจ้านายจะสาดใส่ในข้อหาที่เขาบังอาจไปเรียกมะลิร้อยว่า ‘นายหญิง’ แต่คำพูดที่หลุดออกมาจากปากอีกฝ่ายกลับทำให้เขาโคตรฉงน เพราะนอกจากวูล์ฟจะไม่แสดงท่าทีกราดเกรี้ยวแล้ว เขายังดูเป็นห่วงเป็นใยเมียเด็กอย่างออกนอกหน้า

“เเกซื้อเสื้อผ้ามาให้หรือไง เด็กบ้านั่นถึงได้มีปัญญากลับบ้านได้” อภิมหาเศรษฐีหนุ่มทำให้ลูกน้องประหลาดใจอีกครา เพราะรู้ดีว่าคนที่ทำให้ตนอยู่ไม่สุขไม่ได้เอากระเป๋าเสื้อผ้าและสมบัติอย่างอื่นติดมือมาด้วย

“เธอใส่ของนายไปครับ เเต่รองเท้าไม่มี”

“หมายความว่าไง” น้ำเสียงดุดันสวนกลับทันควัน

“เธอเดินเท้าเปล่าครับ ผมบอกว่าจะไปหาซื้อรองเท้ามาให้เธอก็ไม่ยอม”

“บัดซบ! เด็กนรก! เมียของวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน เดินเท้าเปล่า รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น” คนปากแข็งทำเป็นสบถด้วยท่าทางโมโห ทั้งที่นึกเป็นห่วงเมียเด็กจนแทบทนไม่ไหว

“เออ…แล้วแกได้เอาเงินให้ยัยนั่นเป็นค่ารถหรือเปล่า เมียฉันคงไม่บ้าเดินกลับบ้านเองหรอกนะ ระยะทางจากนี่ไปหาฟาร์มพอร์ตแมนไม่ใช่ใกล้ๆ ถ้าเด็กนั่นเดินไปก็บ้าแล้ว”

“เอาให้ครับ แต่เธอไม่รับ เพราะบอกว่าเดินไปไม่ไกลก็จะถึงบ้านของคนรู้จักที่เข้าไปรับผลผลิตจากฟาร์มมาขาย ซึ่งวันนี้เขาก็น่าจะเข้าไปในฟาร์ม และเธอจะขอติดรถไปด้วย”

บิลลี่เล่าไปตามความเป็นจริง ที่เขาเชื่อและยอมปล่อยเมียเจ้านายกลับบ้านไปง่ายๆ เพราะรู้ว่าฟาร์มพอร์ตแมนหันมาปลูกผักส่งตลาดในช่วงก่อนหน้านี้ และถ้าคาดการณ์ไม่ผิดก็น่าจะทำอย่างจริงจังยิ่งขึ้น หลังจากที่อิซาเบลล่าไม่ได้แต่งงานกับวูล์ฟดังที่ตั้งใจไว้ และการส่งมะลิร้อยมาเป็นเจ้าสาวแทนก็ไม่ได้อะไร อย่างมากก็ได้แค่ล้างหนี้ ฉะนั้นครอบครัวพอร์ตแมนจึงต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ทั้งที่ไม่ชอบความลำบากเลยสักนิด

“ยัยเด็กบ้าเอ๊ย! อย่าให้เจอนะ พ่อจะจับดูดปากให้บวมเจ่อเลย ฮึ่ม…” วาจาที่ถูกเค้นปนคำรามออกมาจากปากหยักทำให้บิลลี่อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่มีเมียเด็กชีวิตของเจ้านายเขาจะมีสีสันน่าดูชมเลยทีเดียว

“แล้วนั่นนายจะไปไหนครับ” เลขาร่างยักษ์ร้องถาม เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินลิ่วไปยังลิฟต์

“ก็ตามไปสั่งสอนคนที่กล้าทำลายชื่อเสียงของฉันยังไงล่ะ…ใส่เสื้อผ้าตัวโคร่ง แถมยังเดินเท้าเปล่าไปตามถนน ฮึ่ม! ช่างไม่ไว้หน้าผัวตัวเองบ้างเลย เธอน่ะมันร้ายหลบใน ดื้อด้านเหลือใจ เจอตัวเมื่อไหร่พ่อจะลงโทษเสียให้เข็ด!” ในตอนท้ายวูล์ฟคำรามกระหึ่มคาดโทษเมียเด็ก ขณะที่หัวใจกร้าวกระด้างร้อนรนเป็นไฟ

นรก! ยัยเด็กนั่นกำลังทำให้เขาเป็นบ้า…บ้าเพราะเป็นห่วงเธอ ทั้งที่ผู้หญิงต่ำต้อยอย่างเธอไม่คู่ควร ปัดโธ่โว้ย! ความรู้สึกบ้าๆ แบบนี้มันคืออะไรวะ

คนที่ฉลาดไปเสียทุกเรื่องแต่กลับมาจนแต้มให้หัวใจตัวเองสบถลั่นในอก

คำตอบที่หลุดออกมาจากปากโอหังทำให้คนฟังอ้าปากค้าง ก่อนจะได้สติ แล้วรีบเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงภาพลักษณ์ของนักธุรกิจชื่อก้องโลก

“เอ่อ…แล้วไม่อาบน้ำแต่งตัวก่อนเหรอครับ”

“ไม่อาบ จะไปให้เมียอาบให้” คราวนี้บิลลี่ถึงกับฉีกยิ้มกว้างด้วยความชอบใจ สมองเริ่มฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้จึงรีบเอ่ยออกมา เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะโดยสารลิฟต์ลงไปยังชั้นล่างเสียก่อน

“เอ่อ…นายอย่ารุนแรงกับเธอนะครับ” คำพูดของลูกน้องทำให้ขาแกร่งก้าวไม่ออกเอาเสียดื้อๆ เจ้าของร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างหมุนกายกลับมาหาคู่สนทนา แล้วเอ่ยถามอย่างใคร่รู้

“ทำไมวะ”

“เมื่อคืนผมได้ยินเสียงเหมือนนายหญิงร้องไห้ครับ”

“ร้องไห้…” เขาทวนคำพร้อมทำหน้ายุ่ง อีกทั้งรู้สึกเป็นกังวลระคนไม่สบายใจ

“ใช่ครับ เธอคงจะเข้าใจผิดคิดว่านายนอนกับคุณมาการิต้าน่ะครับ แหม…ใครจะเชื่อล่ะครับว่านายจะเรียกให้บอดี้การ์ดไปนอนกับหล่อนแทน ขนาดผมเองยังไม่เชื่อเลยครับ ถ้าไม่เห็นกับตาว่านายกลับจากไปดื่มมาเมื่อตอนเกือบจะตีหนึ่ง” บิลลี่เอ่ยอย่างยิ้มๆ

“ฉันก็อยากนอนกับมาการิต้าเหมือนกันแหละ แต่บัดซบเถอะว่ะ! มันไม่มีอารมณ์” วูล์ฟสวนกลับเสียงกระด้าง เพราะบิลลี่เป็นญาติห่างๆ และทำงานด้วยกันมานาน เขาจึงกล้าที่จะพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทุกเรื่อง

“งั้นก็รีบไปหาคนที่ทำให้นายมีอารมณ์เถอะครับ ก่อนจะคลั่งไปมากกว่านี้” บิลลี่เอ่ยกลั้วขำ แววตาเต็มไปด้วยการล้อเลียน จนวูล์ฟนึกอยากจะเตะให้ซักป้าบ

“สู่รู้!”

“หรือมันไม่จริงล่ะครับ”

“ฝากไว้ก่อนเถอะ” วูล์ฟชี้หน้าอีกฝ่าย และทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะก้าวเข้าไปภายในลิฟต์ แล้วกระแทกปลายนิ้วกดปุ่มลงไปยังชั้นล่างอย่างใจร้อนเป็นไฟ

“ฮึ่ม! มะลิร้อย…เด็กบ้า เธอมันยัยตัวร้าย เจอตัวเมื่อไหร่พ่อจะฟัดไม่เลี้ยง ถ้าคลานลงจากเตียงไหวก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่า…วูล์ฟ แอนเดอร์ตัน!” จอมเย่อหยิ่งคำรามลั่น จากนั้นก็เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันคาดโทษเมียเด็กด้วยสีหน้าถมึงทึง เพราะนึกเดือดดาลที่ตัวเองไม่มีอารมณ์กับผู้หญิงหน้าไหนทั้งสิ้น…ยกเว้นเธอ

ขนาดเมื่อคืนนี้เขาลงไปกินเหล้าระบายความอยากในผับ พร้อมทั้งโทรไปเรียกแก๊งเพื่อนซี้มาสังสรรค์ทั้งที่เลื่อนนัดเป็นวันพรุ่งนี้แล้วแท้ๆ แต่การได้ดื่มกับเพื่อนกลับไม่ทำให้เขาสลัดมะลิร้อยออกไปจากห้วงคำนึงได้เลย ถึงแม้ว่าในระหว่างนั้นจะมีสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจเดินมาทอดสะพานให้ไม่ขาด เขายังไม่อาจชายตาแล เพราะมองไปทางไหนก็เห็นแต่หน้าของมะลิร้อย ฉิบหาย! ยัยเด็กนั่นกำลังเข้ามามีอิทธิพลกับเขาอย่างน่าพิลึก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel