2 - หมอต่อ
หมอหนุ่มนั่งหน้าตึงอยู่ในห้องทำงานชั้นบนสุดของโรงพยาบาล จะหนึ่งอาทิตย์แล้วก็ยังไม่มีคนที่มีคุณสมบัติตามที่เขาต้องการมาสมัครสักคน จนเขาเริ่มเหนื่อยและไม่อยากใช้วิธีนี้แล้ว แต่แล้วก็มีเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น เขาจึงอนุญาต แล้วประตูห้องก็เปิดกว้างออก
ทันทีที่ประตูเปิดออกและหญิงสาวร่างเล็กเพรียวระหงปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าทำให้คนที่นั่งเอนหลังอยู่ถึงกับนั่งตัวตรง เขามองหญิงสาวที่เดินเข้ามาหา ในมือถือซองเอกสาร สะพายกระเป๋าใบเล็กน่ารัก เธอมาในชุดกางเกงยีนส์ขาเดฟรัดรูป เสื้อยืดเอวลอยเล็กที่อวดทรวดทรงองเอวให้เห็นชัดตาจนหมอหนุ่มต้องกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ
อืม!
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาสมัครอุ้มบุญ” ทันทีที่เดินมาถึงหน้าโต๊ะทำงาน เธอก็เอ่ยสวัสดีคนตรงหน้าทันที แม้จะรู้สึกประหม่าอายสายตาที่จ้องมอง แต่มานิดาก็ต้องทำใจดีสู้
น้ำเสียงที่เอ่ยลอดจากริมฝีปากอวบอิ่มชมพูระเรื่อทำให้ภพธรเคลิบเคลิ้มราวกับต้องมนตร์สะกดก็มิปาน
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาสมัครอุ้มบุญ” เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเอาแต่จ้องมองตัวเองไม่ยอมพูดอะไรสักที เธอจึงเอ่ยทักทายอีกฝ่ายอีกครั้ง
“ครับ เชิญนั่งครับ ว่าแต่ตรวจร่างกายมารึยังครับ และแนะนำตัว อายุ ได้เลยครับ”
มานิดาเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของชายหนุ่มที่ทำให้เธอใจสั่นเต้นแรงตั้งแต่แรกที่ได้สบตาตอนเดินเข้ามา เมื่อนั่งลงแล้วก็ยื่นซองเอกสารผลตรวจร่างกาย ผลตรวจเลือดตัวเองให้ชายหนุ่มดู
“ดิฉันชื่อมานิดา กิ่งหยก อายุยี่สิบสองปีค่ะ”
ภพธรฟังหญิงสาวเอ่ยแนะนำตัวเพลินและดูผลตรวจร่างกายที่หญิงสาวส่งมาให้ ทุกอย่างดีหมด หน้าตาก็สวย หุ่นก็ดี อกอวบอูมน่าจะคัพดี แม้จะมองด้วยสายตา แต่เขามั่นใจว่ามันคัพดี
“คุณยังไม่เคยแต่งงานและมีลูก ผมต้องการคนที่มีประสบการณ์” เขาบอกเธอเมื่อดูผลตรวจร่างกาย ผลตรวจเลือดของหญิงสาวและประวัติครอบครัวที่เธอแนบมาด้วย เมื่ออ่านจบก็วางลง
“ค่ะ ดิฉันยังไม่เคยมีลูก ดิฉันยังไม่แต่งงาน”
“แล้วทำไมถึงอยากอุ้มบุญล่ะ”
“คือฉันร้อนเงินค่ะ ฉันต้องการเงินไปผ่าตัดแม่”
“ผมชอบความกตัญญูของคุณนะคุณมานิดา ผมหมอภพธร หรือเรียกหมอต่อก็ได้”
เขาแนะนำตัวเองเมื่อตอนนี้เจอแล้วแม่ของลูก เจอแล้วคนที่จะมาอุ้มท้องลูกของเขา และแน่นอนว่าเขาไม่มีทางใช้วิชาแพทย์แน่นอน เขาอยากใช้วิธีธรรมชาติกับร่างเล็กน่าปรารถนาตรงหน้า ยิ่งได้มองยิ่งร้อนรุ่ม ยิ่งปากน้อยที่อวบอิ่มของเธอกำลังแย้มยิ้มส่งมาให้ยิ่งน่ากัดเม้มหยอกเย้า
“คะ...มานิดาผ่านแล้วเหรอคะ”
“ครับ ว่าแต่คุณพร้อมรึยัง”
“พร้อมค่ะ แต่ว่าฉันขอเงินก่อนได้ไหมคะ ฉันต้องไปจ่ายค่าผ่าตัดของแม่ ถ้าไม่จ่ายเงิน หมอจะไม่ผ่าตัดให้แม่มานิดา” เธอบอกเขา
“ได้สิ แต่ก่อนอื่นเซ็นสัญญากันก่อน” พูดจบเขาก็เปิดลิ้นชักนำซองเอกสารสัญญาที่เขาทำขึ้นเองมาส่งให้หญิงสาวเซ็น
มานิดารับสัญญาจากมือของชายหนุ่มมาแล้วก็ไล่สายตาอ่านคร่าวๆ ก่อนจะหยิบปากกาที่เขาวางไว้ให้มาเซ็นอย่างไม่คิดอะไร เพราะตอนนี้เธอห่วงคนเป็นแม่ ถ้าขืนรอนานกว่านี้แม่ของเธอไม่รอดแน่
“ทำไมคุณไม่อ่านให้ละเอียดก่อนเซ็น คุณต้องย้ายไปอยู่บ้านของผมระหว่างที่อุ้มท้องลูกของผม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ ถ้าเรียบร้อยแล้วจ่ายเงินให้มานิดาก่อนด้วยค่ะ”
“เรียบร้อยครับ แม่คุณรักษาตัวที่โรงพยาบาลไหน”
ถามอย่างอยากรู้เมื่อเห็นมานิดาเซ็นสัญญาอุ้มบุญเรียบร้อยแล้ว ในสัญญานั้นลูกเป็นสิทธิ์ของเขาคนเดียว และถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้ ผู้ทำสัญญาสามารถเพิ่มเติมข้อตกลงเองได้เรื่อยๆ ตามความเหมาะสม มุมปากหนาของภพธรหยักยิ้ม เมื่อตอนนี้แม่สาวน้อยหน้าหวานทรวงคัพดีนั้นไม่รอบคอบ ฉะนั้นเขามีสิทธิ์เพิ่มเติมในสัญญาได้
“โรงพยาบาลนี้ค่ะ แม่ของฉันรักษาอยู่โรงพยาบาลของคุณ” เธอบอกเขา
“ไม่มีปัญหาเดี๋ยวผมจัดการให้ เรื่องผ่าตัดและเรื่องห้องพัก ผมจะให้แม่คุณได้อยู่ห้องพิเศษหลังผ่าตัดเสร็จ เรื่องค่าใช้จ่ายผมจ่ายให้คุณเองมานิดา” หน้าก็สวย ชื่อก็เพราะ เสียงก็หวาน ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงทำให้เขาอยากครอบครองตั้งแต่แรกเห็นแบบนี้นะ
“ค่ะ งั้นมานิดาขอตัวนะคะคุณหมอ”
“หมอต่อ เรียกผมหมอต่อ เพราะเราต้องอยู่ด้วยกันอีกนานมานิดา”
“ค่ะหมอต่อ มานิดาขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“อือ...จะไปไหนล่ะ ผ่านงานแล้วนะ คุณยังไม่พร้อมเหรอ ผมต้องการจะมีลูกให้เร็วที่สุดนะ”
“แต่แม่ของมานิดายังไม่ได้ผ่าตัดเลยนะคะ”
“หมอจัดการให้ แม่มานิดาชื่ออะไร”
“เนียน กิ่งหยกค่ะ”
“โอเค นั่งรอผมโทรสั่งหมอผ่าตัดก่อน ว่าแต่แม่คุณเป็นอะไรมา”
“เส้นเลือดในสมองแตกค่ะ”
“อือ” เขาพยักหน้ารับแล้วกดต่อสายหาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญให้เตรียมการผ่าตัดให้นางเนียน กิ่งหยก แม่ของมานิดาทันที และเรื่องค่ารักษาทุกอย่างให้มาเก็บได้ที่เขา ทุกอย่างสำหรับนางเนียน กิ่งหยก เขาจะเป็นคนจ่ายให้เอง พร้อมกับกำชับให้ทุกคนดูแลแม่ของมานิดาเป็นอย่างดี
“เรียบร้อย ไปกันเถอะมานิดา” เมื่อสั่งการผ่าตัดแม่ของมานิดาแล้ว เขาก็ลุกขึ้นเดินมาคว้าข้อมือเล็กของคนที่นั่งอยู่แล้วฉุดดึงให้ลุกขึ้น
“หมอปล่อยค่ะ”
“ปล่อยได้ยังไง ถ้าปล่อยจะท้องได้ยังไง ไปกันเถอะ กลับบ้านกัน ฉันต้องทำให้มานิดาท้องให้เร็วที่สุด”
“เดี๋ยวค่ะ ไปบ้านทำไม ทำไมไม่ทำที่โรงพยาบาลคะ มานิดารู้มาว่าการที่จะ...” ยังพูดไม่ทันจบความ เสียงทุ้มก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน
“อือ...ที่บ้านเครื่องมือฉันครบกว่า และเครื่องมือของฉันก็ดีกว่าที่โรงพยาบาลเยอะมานิดา ไปกัน” พูดจบก็ฉุดดึงคนตัวเล็กลากเดินตามตัวเองออกไปอย่างใจร้อน ส่วนคนที่ถูกฉุดลากเดินตามไปนั้นก็ได้แต่มองซ้ายมองขวาด้วยความมึนงง และก็ยิ่งอายเมื่อทุกคนมองมาทางเธอและชายหนุ่มตลอดทางที่เดินไปยังลิฟต์
“หมอต่อปล่อยมือมานิดาก่อนค่ะ”
“ให้ฉันจับแบบนี้แหละดีแล้ว” เขาบอกเธอเมื่อเดินมาถึงหน้าลิฟต์โดยสารเฉพาะผู้บริหารอย่างเขาเท่านั้น ที่โดยสารลิฟต์ตัวนี้ได้ มือใหญ่จึงยกขึ้นกดลิฟต์
“แต่ว่ามันไม่เหมาะสมค่ะ หมอต่อเป็นเจ้านาย มานิดาเป็นลูกจ้าง อีกอย่างหมอไม่ควรทำแบบนี้กับฉันค่ะ” เธอบิดข้อมือตัวเองออกจากอุ้งมือใหญ่
“ก็ได้ๆ แต่ตอนนี้เราต้องกลับบ้านก่อน เครื่องมือทำลูกของฉันมันกำลังร้อน” แล้วก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปในลิฟต์แล้วพยักหน้าให้คนตัวเล็กเดินตามเข้าไปพร้อมกับกดปิดประตูลิฟต์แล้วเลือกชั้นจอดรถของตัวเอง
เมื่อเข้ามาในลิฟต์แล้ว มานิดาก็ขมวดคิ้วขบคิดตามคำพูดของหมอด้วยความงุนงง เมื่อคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ และสังหรณ์ใจหวิวๆ ในอก แต่ก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไปเมื่อคิดว่าตอนนี้แม่ของตัวเองได้รับการผ่าตัดแล้ว ขอแค่แม่ของเธอรอดปลอดภัย เธอยอมทำได้ทุกอย่าง บ้านของเธอไม่ได้ร่ำรวยอะไร เธออยู่กับแม่สองคน แม่ของเธอทำกับข้าวขายที่ตลาดส่งเธอเรียน และโชคดีที่ว่ามีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ก็หลังไม่ใหญ่ เป็นบ้านหลังเล็กๆ น่าอยู่เหมาะสำหรับเธอและแม่ พ่อของมานิดาจากไปตั้งแต่เธออายุได้ 15 ปีแล้ว หญิงสาวจึงอยู่กับแม่เพียงสองคน แม่คือทุกอย่างสำหรับเธอ และเธอก็คือทุกอย่างสำหรับแม่เช่นกัน
