เอาชนะ
ตอนที่ 2
เอาชนะ
“ชีวิตแต่งงานเป็นยังไงบ้างล่ะลูก”
คมสันถามลูกชายหลังจากที่ทั้งคู่แทบจะไม่มีโอกาสได้คุยกันเป็นการส่วนตัวหลังจากงานแต่งงานของ ปุณณวิชญ์กับแกมแพร
“มีความสุขดีครับพ่อแพรเป็นผู้หญิงที่น่ารักทำงานเก่ง เรื่องงานบ้านก็ไม่ขาดตกบกพร่องสมกับที่คุณพ่อเลือกให้ผมจริงๆ”
ชายหนุ่มไม่ได้พูดตรงข้ามกับใจเพราะสำหรับเขาแกมแพรเป็นผู้หญิงที่ดีพร้อมในทุกเรื่องและเขาเองก็รู้สึกดีที่ได้เธอมาเป็นภรรยาจะมีเพียงความรู้สึกเดียวที่มันจะแตกต่างจากคู่สามีภรรยาทั่วไปคือเขาไม่ได้รักเธอในแบบนั้น
“พ่อดีใจนะที่ลูกยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อเลือก ที่ผ่านมาเรารู้ตัวใช่ไหมว่าชอบคิดชอบทำอะไรตรงข้ามกับที่พ่อบอกเสมอแต่พ่อก็ขอบใจมากสำหรับเรื่องนี้เพราะชีวิตของคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่มีอะไรมีความสุขมากไปกว่าการได้เห็นลูกมีครอบครัวที่ดี”
ตั้งแต่เล็กจนโตปุณณวิชญ์และบิดามักมีความคิดอะไรที่สวนทางกันตลอดไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่เรื่องเรียนหรือการใช้ชีวิต ปุณณวิชญ์เป็นผู้ชายที่เรียนไม่ค่อยเก่งแต่เขาถนัดในเรื่องของงานช่างแต่กลับต้องไปเรียนในเรื่องของการบริหารตามที่พ่อแม่ต้องการแต่สุดท้ายเมื่อเขาเรียนจบเขาก็เลือกที่จะเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิศวกรในแบบที่เขาชอบ
“คุณพ่อครับ ผมว่าจะทำโครงการใหม่จะสร้างบริเวณติดชายทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เอาให้เป็นหมู่บ้านจัดสรรที่มีพร้อมทั้งธรรมชาติและสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมีโรงเรียนนานาชาติอยู่ไม่ไก โรงพยาบาลก็เดินทางไม่นาน คุณพ่อเห็นด้วยไหมครับ”
ชายหนุ่มมองหน้าบิดาแบบเจ้าเล่ห์เพราะเขาคิดว่าคนเป็นพ่อต้องเห็นด้วยแต่ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการที่จะหาที่ดินในการทำหมู่บ้านจัดสรรที่เหมาะอย่างที่เขากำลังพูดถึงจะหาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เจ้าของเขาจะยอมขายให้กับเราเพราะเป็นที่ดินราคาทองแบบนี้ใครก็ต่างเก็บไว้เพื่อเล่นราคาในอนาคต
“มันก็ดีอย่างที่ลูกพูดแต่จะไปหาทำเลดีๆแบบนี้ได้ที่ไหน”
คมสันตอบแบบไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่ลูกชายพูด เพราะหลายครั้งที่ปุณณวิชญ์มักจะวาดฝันโครงการใหญ่แบบนี้แต่สุดท้ายเขาก็ทำล้มไม่เป็นท่า บางโครงการก็เริ่มต้นล้มตั้งแต่หาที่ดินไม่ได้ ส่วนบางโครงการเมื่อสร้างไปแล้วก็เป็นอันไม่คุ้มทุน
“ที่ดินของคุณรจนาอย่างไรล่ะครับคุณพ่อ ผมเคยขอให้แกมแพรพาไปดูที่มาแล้วพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 500 ไร่อยู่ห่างจากทะเลแค่เพียง 2 กิโลเมตร อยู่ห่างจากตัวอำเภอไม่ถึง 10 กิโลเมตรรอบๆโครงการมีทั้งโรงเรียนนานาชาติและโรงพยาบาลตรงใจกับที่ผมคิดไว้ทุกอย่าง”
ปุณณวิชญ์พูดด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะและมีความสุขงแตกต่างจากสายตาของคนฟังที่เริ่มรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกชายกำลังพูดมันเพิ่งเกิดขึ้นหลังแต่งงานหรือความจริงเขาคิดทุกอย่างไว้แล้ว
“ลูกไม่ได้ยอมแต่งงานกับแกมแพรเพราะที่ดินผืนนี้ใช่ไหม”
“ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีคุณพ่อก็มองลูกชายคนนี้ในแง่ร้ายตลอดเลยนะครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้นแต่หลังจากที่ผมแต่งงานไปแล้วผมก็มานั่งคิดดูว่าในเมื่อเราเป็นเจ้าของกิจการหมู่บ้านจัดสรรส่วนผมก็มีภรรยาเป็นเศรษฐีที่ดินเราก็ควรที่จะหาอะไรทำร่วมกัน เขาเรียกว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันครับพ่อ ผมไม่ได้คิดอะไรเหมือนอย่างที่คุณพ่อกำลังคิดหรอก ช่วยมองผมในแง่ดีหน่อยอย่างน้อยตอนนี้ผมก็แต่งงานกับผู้หญิงที่คุณพ่อคิดว่าดีที่สุด”
ปุณณวิชญ์ไม่ชอบสายตาที่พ่อมองเขาแบบนี้เลยตั้งแต่เล็กจนโตเขารู้สึกได้ว่าบิดาไม่เคยไว้ใจในความคิดของเขาไม่ว่าเขาจะทำอะไรคนเป็นพ่อมักจะระแวงเสมอว่าเขากำลังวางแผนอะไรอยู่ เขาเคยเอาสมุดพกที่โรงเรียนมาให้พ่อเพื่อดูเกรดเฉลี่ยแต่พ่อก็กลับเอาไปให้ครูประจำชั้นดูว่าสมุดเล่มนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า พอวันนี้ยิ่งได้มาเห็นสายตาแบบนี้มันยิ่งทำให้อดคิดไม่ได้ว่าต่อให้เขายอมแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อเลือกเขาก็ยังกลับไม่ได้รับความไว้วางใจ
“ไม่ว่าจะกี่เดือนจะกี่ปีลูกก็ไม่เคยมองเห็นความหวังดีในสายตาของพ่อ ถ้าทุกอย่างมันเป็นอย่างที่ลูกบอกพ่อก็ดีใจที่มันเป็นแบบนั้น เป็นครอบครัวเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน อีกหน่อยถ้าลูกกับแกมแพรมีลูกด้วยกัน หลานของพ่อก็จะได้เกิดมาไม่ลำบากเพราะมีพ่อที่เก่งมีแม่ที่แสนดี”
“ผมยังไม่คิดไกลไปขนาดนั้นหรอกครับ คิดแค่ว่าตอนนี้ผมอยากทำทุกอย่างเพื่อให้คุณพ่อเห็นว่าลูกชายคนนี้ก็ทำอะไรสำเร็จได้ด้วยตนเอง คุณพ่อจะได้ภูมิใจเสียทีที่มีผมเกิดมาเป็นลูก”
คมสันได้แต่ส่ายหัวให้กับความคิดของลูกชายเพราะดูแล้วยิ่งพูดยิ่งอธิบายกันไปก็ไม่มีประโยชน์ เขาไม่สามารถที่จะเปลี่ยนความคิดของปุณณวิชญ์ได้ว่าเขาไม่เคยคิดแบบที่ลูกชายพูดสำหรับคมสันอย่างไรลูกชายก็เป็นคนที่เก่งและดีที่สุดเพียงแต่เขายังไม่กล้าไว้วางใจเพราะเท่าที่ผ่านมาลูกชายของเขามักจะเป็นจอมเจ้าแผนการมาโดยตลอด
ชีวิตการแต่งงานของปุณณวิชญ์ถึงแม้จุดเริ่มต้นมันจะไม่ได้เกิดจากความรักแต่คมสันเห็นทั้งลูกชายและลูกสะใภ้แสดงความรักต่อกันเขาก็เชื่อว่าทุกอย่างมันเกิดมาจากภายในจิตใจอีกไม่นานทั้งคู่ก็จะรู้สึกรักกันมากขึ้นไปเอง สำหรับคนเป็นพ่อไม่มีอะไรมีความสุขไปกว่าการที่ลูกชายได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ดีและคู่ควร คมสันพร้อมที่จะวางมือและส่งต่อธุรกิจให้ลูกชายเพียงแต่ตอนนี้เขาขอเวลาจัดการปัญหาทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน
ปุณณวิชญ์ก้าวเท้าออกจากบ้านของบิดาเขาคิดถึงคำพูดของคนเป็นพ่อที่บอกว่าอนาคตถ้าเขากับแกมแพรมีลูกขึ้นมาลูกของเขาจะต้องไม่ลำบากเพราะมีพ่อที่ขยันทำมาหากินแล้วมีแม่ที่ดูแลดีแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกสะท้อนในหัวใจเพราะเขาไม่ได้ต้องการจะให้ถึงวันนั้น ชีวิตของเขาไม่ได้โฟกัสเรื่องการมีครอบครัวแต่เขาต้องการมีความสำเร็จในเรื่องของธุรกิจเพื่อทำให้คนเป็นพ่อได้รู้ว่าเขาเองก็เก่งไม่แพ้ใครเท่านั้นแต่ชายหนุ่มจะทำยังไงได้ในเมื่อที่ผ่านมาเขาไม่เคยป้องกันได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้การแต่งงานกันแค่เพียงไม่กี่เดือนทำให้เจ้าสาวของเขาท้องเพราะเขาไม่ได้ต้องการจะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิตเขาแค่ต้องการที่ดินผืนนั้นที่จะมาทำให้กิจการของเขาใหญ่โตไม่เป็นรองใคร
