ตอนที่ 3 พบเพื่อพราก (3)
หลังจากได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้ ทั้งสองก็เปลี่ยนสวมชุดปลอดเชื้อ จารุพัชรมองร่างที่นอนท่ามกลางสายระโยงระยางและเครื่องช่วยหายใจอย่างใจหาย
“ยัยจิ๊บ พี่พาคนที่เธออยากพบที่สุดมาแล้ว ฟื้นสิน้องรัก นี่ไงพี่ธิมตัวเป็นๆ ที่เธออยากพบ ลืมตาขึ้นมองหน่อยสิ” เสียงเครือกระซิบบอก พร้อมหันไปมองร่างสูงใหญ่ข้างกายก่อนขยับเปิดทางให้เขาก้าวเข้ามาชิดเตียง
“ไงครับคนเก่ง” เพียงคำแรกที่เอ่ย กราฟคลื่นหัวใจก็มีสัญญาน ขยับขึ้นให้เห็นราวกับมีปาฏิหาริย์
“คุณ! ดูนั่นสิคะ!”
ธิเบศจ้องไปที่หน้าจอพลอยรู้สึกตื่นเต้นตาม เขายื่นมือไปจับที่มือน้อยๆ ของคนไข้อย่างแผ่วเบา
“เก่งมากครับ พี่รู้ว่าน้องกำลังสู้อยู่ อย่าเพิ่งยอมแพ้นะครับ น้องต้องสู้ต่อเพื่อตัวเองและพี่สาวที่รักน้องมากๆ แล้วก็สู้เพื่อพี่ด้วย หากน้องฟื้นขึ้นและหายดี พี่สัญญาว่าจะมีรางวัลพิเศษให้ด้วย ดีไหมครับ”
จารุพัชรมองคนพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า เธอไม่คิดเลยว่าคนอย่างเขามีมุมอ่อนโยนแบบนี้ มิน่าล่ะ ตานี่ถึงตกแฟนคลับได้เป็นกองทัพ ดูเหมือนคนถูกนินทาจะได้ยินสิ่งที่เธอคิด จึงหันมองมา ทำเอาหญิงสาวต้องรีบเบนสายตาไปมองร่างแบบบางที่นอนหายใจรวยรินเพื่อกลบเกลื่อน หากแล้วก็ได้เห็นเปลือกตาน้องสาวที่เหมือนจะขยับเบาๆ อารามดีใจเธอจึงรีบกระตุกมืออีกข้างของเขาอย่างลืมตัว
“ยัยจิ๊บ! คุณดูนั่นสิคะ ยัยจิ๊บขยับเปลือกตา ฉันว่าเขาได้ยินที่คุณพูดนะ”
ธิเบศเผลอยิ้มตามอย่างดีใจไปด้วย เขาบีบมือน้อยเบาๆ ราวกับต้องการส่งพลังให้แฟนคลับคนสำคัญ
“ถ้าน้องได้ยินที่พี่พูดจริง ก็ลืมตาสักนิดได้ไหม จะได้ถ่ายเซลฟี่กันไงครับ”
ราวกับมีปาฏิหาริย์ เปลือกตาของคนไข้ค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างยากลำบาก แต่ก็ส่งสัญญานที่ดีทำให้คนเป็นพี่สาวต้องปิดปากไม่ให้กรีดเสียงออกมาด้วยความดีใจสุดขีด
“คุณเอาโทรศัพท์มือถือเข้ามาด้วยไหม” หญิงสาวรีบพยักหน้ารัวๆ รับ พลางล้วงหยิบมือถือออกมาส่งให้เขา
“เอาล่ะ พี่จะทำตามสัญญา ถ่ายเซลฟี่กันนะครับคนเก่ง” เขาเอ่ยพร้อมกับเลื่อนหน้ากากอนามัยออก และส่งสัญญานให้พี่สาวคนไข้ขยับเข้ามาใกล้ๆ ก่อนที่จะคว้าโทรศัพท์จากมือเธอและถ่ายรูปเซลฟี่ให้เสียเอง
“เอาล่ะ ยิ้มหน่อยนะครับคนเก่ง คุณด้วยยิ้มหน่อยสิอย่าทำหน้าบูด” จารุพัชรค้อนใส่จอมบงการ แต่ก็ยอมคลี่ยิ้มมองกล้อง “เอาล่ะ หนึ่งสองสาม...”
แชะๆ
จารุพัชรรู้สึกลำคอตีบตันกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้ เขาสานฝันให้กับน้องสาวเธอได้สมหวัง เธอเชื่อว่าจิราภารับรู้ได้ว่าศิลปินขวัญใจอยู่ตรงหน้า จากสัญญานกราฟคลื่นหัวใจที่ขยับขึ้นลงดีขึ้น แต่แล้วในวินาทีที่เขายื่นโทรศัพท์ส่งคืนให้เธอ หญิงสาวก็เห็นมือของน้องสาวที่ชายหนุ่มจับไว้หลุดจากมือเขาและตกลงอย่างหมดเรี่ยวแรง
“ยัยจิ๊บ!”
ทันใดนั้นเองเสียงจากจอมอนิเตอร์วัดคลื่นหัวใจก็กรีดร้องดังขึ้น พร้อมกับเส้นกราฟที่ตกฮวบจนกลายเป็นเส้นตรงอย่างฉับพลัน
“คุณ! เกิดอะไรขึ้นน่ะ” หญิงสาวหันไปมองหน้าพระเอกหนุ่มที่มีสีหน้าตกใจไม่ต่างกัน ยังไม่ทันที่เขาจะได้คำตอบ หมอและพยาบาลจะรีบกรูกันเข้ามาในห้อง พร้อมกันหนุ่มสาวทั้งสองออกไปเพื่อทำการกู้ชีวิตให้กับคนไข้จ้าละหวั่น
“หมอเสียใจด้วยครับ”
จารุพัชรรู้สึกราวกับโลกทั้งใบถล่มครืนลงตรงหน้า เสียงนั่นราวกับแว่วมาจากที่ไกลๆ ดวงตาแห้งผากมองเหม่อไปที่ประตูห้องไอซียูนิ่ง ร่างกายรู้สึกชาๆ หูอื้อๆ ในอกวูบโหวงราวกับหัวใจถูกใครควักออกไปจากร่างจนทุกอย่างมันว่างเปล่า
นี่มันฝันหรือเรื่องจริงกันนะ...
เมื่อไม่กี่นาทีก่อน เธอเพิ่งมีความหวังว่าอาการน้องสาวจะกระเตื้องขึ้น ปาฏิหาริย์ที่เธอต้องแลกมาด้วยสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิง แต่เธอก็ไม่เสียดาย หากว่ามันจะทำให้คนสำคัญคนเดียวในชีวิตที่เหลืออยู่ฟื้นคืนกลับมาได้ แต่มันก็สูญเปล่า เพราะน้องสาวของเธอไม่มีวันฟื้นคืนกลับมาหาเธออีกแล้ว
