ตอนที่ 2 One Night Stand with Super Star (3)
คนอะไรวะ หล่ออย่างกับไม่ใช่คน ไม่แปลกเลยที่สาวๆ ทั้งประเทศจะโหวตให้เขาเป็นขวัญใจมหาชน ก็ดูเถอะ จะใบหน้า ดวงตา คิ้ว คาง จมูก ปาก หรือแม้แต่ไรเคราเขียวจางๆ ที่ข้างแก้ม มันชวนให้น่ามองไปหมด ยิ่งตอนที่มีอะไรกันเมื่อคืน มันก็ทำให้เธอได้รู้ว่าอีกฝ่ายมีเสน่ห์แพรวพราวแค่ไหน ยิ่งคิดหน้าเธอก็ยิ่งแดงแจ๊ด
คิดเพลินๆ จู่ๆ คนที่เธอแอบนินทาในใจก็ขยับลืมตาขึ้นมองมาด้วยสายตาพราวเสน่ห์ ก่อนที่คิ้วเข้มจะค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน เมื่อได้เห็นสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในอ้อมแขนตัวเอง พอสมองเขาเริ่มทำงานร่างสูงใหญ่ก็รีบผละออก พร้อมคำถามที่ทำให้คนฟังถึงกับอึ้ง
“คุณเป็นใคร เข้ามาในห้องผมได้ยังไง”
จารุพัชรอ้าปากหวอ ทำตาปริบๆ นั่นมันควรบทพูดของเธอหรือเปล่า แล้วดูเถอะ พอพ่อพระเอกรูปงามก้มลงเห็นสภาพตัวเองเข้า เขาก็แทบจะดีดเธอตกเตียง คนหล่อรีบดึงผ้าห่มมาปิดบังร่างกายเขา จนเธอต้องรีบกอดอกคว้าหมอนมาปกปิดเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของตัวเองแทบไม่ทัน
“เมื่อคืนคุณทำอะไรผมเนี่ย”
คำถามนั่นทำให้จารุพัชรถึงกับอึ้ง หางตาเหลือบเห็นรอยแดงๆ เป็นจุดๆ เลอะกลางที่นอนสีขาวสะอาด ริมฝีปากอิ่มก็เม้มเข้าหากันแน่น อยากหาอะไรแพ่นหัวคนขี้ลืมตรงหน้าให้หัวแตกเสียเดี๋ยวนั้น
“ฉันต่างหากต้องถามคุณ”
ชายหนุ่มยกมือคลึงขมับมึนๆ สมองเบลอๆ พยายามทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงได้ยอมให้ผู้หญิงแปลกหน้ามาปลุกปล้ำตัวเองถึงในห้องส่วนตัวได้
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย”
“นี่คุณจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้เลยเหรอ จำไม่ได้เลยหรือไงว่าเกิดอะไรขึ้น”
จัดหนักเธอจนระบมไปทั้งตัวขนาดนั้น เขาจำอะไรไม่ได้เลยเชียวเหรอ งั้นสิ่งที่เธอเสียไปคืออะไรล่ะ เขาเห็นเธอเป็นตัวอะไร กระดาษชำระที่เช็ดๆ แล้วทิ้งงี้ อีตาบ้า
“อืม...อย่าเพิ่งพูดได้ไหม ผมปวดหัว อยากอ้วก!”
อีตาบ้านี่ใช่คนเดียวกับพระเอกหื่นที่รวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัวเธอเมื่อคืนหรือเปล่าเนี่ย คิดแล้วน้ำตาก็พาลจะไหล ไม่ได้เสียใจที่เสียจิ้นให้คนผีบ้าตรงหน้า แต่เจ็บใจที่อีตาบ้าทำเหมือนถูกเธอกระทำชำเรามากกว่า
“เอาล่ะ บอกมาดีกว่าว่าใครส่งเธอมาหรือว่าไอ้เวรนั่น...” ชายหนุ่มชะงักปาก เหตุการณ์เมื่อคืนแว่บเข้ามาในสมองฉับพลัน หรือว่ายัยนี่จะเป็นนางนกต่อที่คนพวกนั้นส่งมา
“คุณหมายความว่าไง ฉันงงไปหมดแล้วเนี่ย”
“ออกไปซะ!”
จารุพัชรตะลึงงันจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่ดุขึ้งอย่างงุนงง
“นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ อย่างน้อยคุณควรขอ...”
“บอกว่าออกไปไง ออกไปเดี๋ยวนี้ โอ๊ะ!” ท้ายประโยคชายหนุ่มก็ต้องผงะเกือบหงายเงิบ เมื่อถูกเขวี้ยงด้วยหมอนใบใหญ่ใส่หน้าดังตุ๊บ
“ตาบ้า! นึกว่าตัวเองเป็นใครถึงมาทำกับฉันแบบนี้ เสียแรงที่น้องฉันแอบปลื้มมานาน ตัวจริงงี่เง่าแบบนี้เองเหรอ”
“ยัยบ้านี่!” ธิเบศกัดกรามแน่นจนเป็นสัน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครบังอาจทำกับเขาแบบนี้มาก่อน
“นายต่างหากที่บ้า ผีบ้าผีบอเอ๊ย หน้ามืดจับฉันมาเล่นจ้ำจี้ทั้งคืนแล้วพอตื่นมาไม่สำนึกผิดขอโทษกันไม่พอ ยังมีหน้ามาไล่ตะเพิดฉันอีกเนี่ยนะ ผู้ชายประสาอะไรเนี่ย”
หญิงสาวของขึ้นต่อว่าอีกฝ่ายรัวๆ จนลืมไปว่าเอาหมอนที่ปิดบังเรือนร่างปาใส่หัวพระเอกหนุ่มอย่างเหลืออด จนตอนนี้เธอกำลังเปิดเปลือยเรือนร่างสวยสล้างต่อหน้าเขา พอเห็นสายตาอึ้งๆ ที่อีกฝ่ายจ้องมองมาก็นึกขึ้นได้
“กรี๊ดดด! คนลามก! อย่ามองนะ หันไปทางอื่นเลย”
ธิเบศมองแม่สาวบ้าเลือดที่พยายามปกปิดเรือนกายเปล่าเปลือยจากสายตาเขาจ้าละหวั่น จนเขาอดเวทนาไม่ได้จึงสงเคราะห์โยนหมอนอีกใบให้เธอ
แต่กระนั้นเขาก็ยังทันได้เห็นร่องรอยแดงๆ ที่แต้มบนเรือนร่างขาวอมชมพูของเจ้าหล่อนทั้งที่ซอกคอ เนินอก หรือบนผิวกายที่บอบบางส่วนอื่น บ่งบอกถึงสิ่งที่เขาทำลงไปเมื่อคืนคงหนักมือไปจนทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำไม่น้อย แต่หากนี่คือการจัดฉากของผู้หญิงตรงหน้าก็คงต้องยอมรับว่าเธอจัดฉากได้เนียนมากทีเดียว
