7
“โอเคครับ! งั้นเราไปทดสอบกันดีกว่า” ขุนพันเอ่ยชวนพร้อมกับออกเดินนำไปที่ด้านนอก
“ได้ค่ะ” เขมมิกาเดินตามไปอย่างรู้สึกเขินๆ
ชั่วโมงต่อมา...เขมมิกาทำเมนูยำรวมทะเลกับต้มยำปลากะพงใส่เห็ดฟาง และเนื้อย่างแบบมีเดียมแรร์ ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วโดยมีขุนพันคอยเป็นลูกมือ หยิบนู่นนั่นนี่ส่งให้จนกระทั่งเสร็จ ก็พากันยกไปวางเรียงบนโต๊ะรับประทานอาหารด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“คุณทำกับข้าวเก่งใช่เล่นเลยนะเนี่ย” ขุนพันเอ่ยชมหลังจ้องมองหน้าตาของอาหารที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายของเขาสุดๆ
“ลองชิมดูก่อนเถอะค่ะ” เขมมิกาบอกก่อนจะเข้าไปนั่งตามอีกฝ่าย
“ครับ” ขุนพันขานรับก่อนจะหยิบช้อนมาตัดชิมน้ำซุปของต้มยำปลากะพง “อื้ม! เป็นรสชาติที่ถูกใจผมมากๆ เลยครับ แบบนี้ต้องเปิดเชมเปญสักหน่อยแล้ว”
“เอ่อ...จะดีเหรอคะ” เธอถามอย่างตกใจนิดๆ ที่อีกฝ่ายชวนดื่มแต่วัน
“ดีสิครับ ต้องฉลองกันหน่อย เพื่อที่เราจะได้คุยเรื่องข้อสัญญากันได้ง่ายขึ้น คุณอยากถามอะไร หรือข้องใจตรงไหน ก็ถามผมมาได้เลยครับ” ขุนพันบอกก่อนจะลุกเดินไปหยิบแชมเปญในตู้แช่ขนาดใหญ่ออกมาหนึ่งขวดพร้อมกับแก้วทิวลิปสองใบ จากนั้นก็ค่อยๆ คลายเส้นลวดที่ฝาจุกออก พร้อมกับจับจุกไม้โอ๊คที่ค่อยๆ ดันตัวออกเอาไว้ เพื่อไม่ให้แรงดันที่อยู่ในขวดทำให้จุกไม้โอ๊คพุ่งไปโดนสิ่งของภายในห้องเสียหาย
จากนั้นก็ค่อยๆ รินแชมเปญใส่แก้วทิวลิปทั้งสองใบ ก่อนจะหยิบส่งไปให้กับนางฟ้าคนสวยหนึ่งใบ แล้วหยิบอีกแก้วขึ้นมาชนเบาๆ
กริ้ง!
“แด่มิตรภาพของเราครับ” ขุนพันเอ่ยพลางจ้องมองใบหน้างดงามที่ทำให้ตนนอนไม่หลับมาสองคืนเต็มๆ อย่างมีจุดหมาย
“ค่ะ” เขมมิกายิ้มก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบเบาๆ ได้กลิ่นหอมหวานของผลไม้คุคลุ้งไปทั่วทั้งปากอย่างรู้สึกหลงใหลในรสชาติของไวน์ซ่า
“รสชาติเป็นไงบ้างครับ?”
“ดีมากๆ เลยค่ะ”
“งั้นผมเปิดอีกขวดรอไว้เลยดีกว่าครับ”
“เอ่อ...” เขมมิกาพยายามจะท้วง แต่ก็ไม่ทันการ เพราะอีกฝ่ายลุกไปหยิบอีกขวดออกมาจากตู้แช่ และคลายเส้นลวดออกแล้ว
สามชั่วโมงต่อมา...หลังจากที่รับประทานอาหารและคุยกันถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่กลับไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องสัญญา หรือข้อห้ามใดๆ จนกระทั่ง...แชมเปญหมดไปสามขวด เขมมิกาก็เตรียมจะขอตัวกลับ เพราะรู้สึกมึนๆ กลัวจะขับรถไม่ไหว
“เอ่อ...ฉันคงต้องขอตัวกลับก่อนแล้วค่ะ”
“กลับไม่ได้ครับ เรายังไม่ได้คุยกันเรื่องสัญญาเลย” ขุนพันเอ่ยท้วง
“เอาไว้วันหลังแล้วกันนะคะ” เขมมิกาบอกพลางขยับลุกจากเก้าอี้
“ผมรออีกไม่ไหวหรอก คุณทำให้ผมร้อนรุ่มและนอนไม่หลับรู้ตัวไหมโยโกะ?” ขุนพันลุกเดินเข้าไปบอก พร้อมกับดึงนางฟ้าคนสวยเข้ามาจูบอย่างอดใจไม่ไหว
“อะ...อื้ม...” เขมมิกาพยายามจะเอ่ยท้วง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะหลังถูกหนุ่มหล่อจูบแลกลิ้น หยอกเย้า เธอก็เสียการควบคุมตัวไปทันที
ขุนพันค่อยๆ ถอนจูบที่เนินนานออก อย่างรู้สึกติดใจในรสหวานของริมฝีปากจิ้มลิ้มที่ตอนนี้บวมเจ่อขึ้นมานิดๆ “ผมต้องสำรวจสินค้าก่อนเซ็นสัญญา คุณเองก็ต้องทดสอบว่าผมปกติหรือเปล่า?”
“อะ...อื้อ...” เขมมิกากำลังจะเอ่ยท้วง แต่เธอก็ไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน จูบของเขา สัมผัสของเขา ทำให้เธอสั่นไปทั้งตัว ทั้งตื่นเต้น กลัว อยากลอง เขินอาย มันสับสนปนเปกันไปหมดเลย
ขุนพันยกยิ้มมุมปาก อาศัยจังหวะที่สาวเจ้ากำลังเคลิบเคลิ้ม ค่อยๆ ช้อนอุ้มนางฟ้าคนสวยเดินตรงไปยังห้องนอน และวางลงบนเตียงอย่างเบามือ จากนั้นก็จัดการถอดเสื้อผ้าของเธออย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง
เขมมิกาดึงผ้าห่มมาปิดบังเนื้อตัวที่เปลือยเปล่าอย่างเขินอาย เมื่อเห็นร่างสูงเริ่มถอดเสื้อและกางเกงออก
ขุนพันปรับไฟภายในห้องนอนให้พอมีแสงสลัวๆ จากนั้นก็ขยับขึ้นเตียงไปหาแม่สาวขี้อาย พร้อมกับดึงผ้าห่มที่เธอใช้คลุมโปงออก
“อ๊ะ!” เขมมิกาอุทานเบาๆ อย่างตกใจ รีบยกมือขึ้นปิดบังหน้าอกและความเป็นหญิงจ้าละหวั่น
“ไม่ต้องอายหรอกครับ ยังไงพี่ก็ต้องเห็นทุกซอกทุกมุมอยู่ดี” ขุนพันบอกก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวลงไปดอมดมที่ต้นคอระหงของสาวเจ้า
“ยะ...อย่าค่ะ” เขมมิกาถึงกับขนลุกซู่ สั่นไปทั้งเนื้อทั้งตัว
“อย่าดื้อสิครับคนดี” ขุนพันครางในลำคอเบาๆ ก่อนจะดึงข้อมือบางทั้งสองข้างที่โอบกอดดอกบัวงามออก แล้วเลื่อนตัวลงมาดูดกลืนปลายถันสีชมพูอ่อนอย่างหิวกระหาย ขณะที่มืออีกข้างก็ค่อยๆ บีบคลึงดอกบัวงามที่เต่งตึงไปมาช้าๆ
“อะ...อืม...” เขมมิกาครางเบาๆ อย่างเสียวซ่านกับสัมผัสวาบหวามที่ไม่เคยพานพบมาก่อน
ขุนพันดูดกลืนปลายถันจนหนำใจ จึงค่อยๆ ไล้ริมฝีปากต่ำลงไปยังเนินเนื้อที่อวบอูมของสาวเจ้า ก่อนจะใช้นิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกให้พ้นทางอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็จับขาเรียวเล็กทั้งสองข้างให้อ้าออก แล้วจ้องมองกลีบดอกไม้งามอย่างหลงใหล
“ยะ...อย่าค่ะ...” เขมมิการ้องห้ามอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆ เขาก็ขยับแทรกตัวไปอยู่ตรงกลางหว่างขา แล้วก้มลงใช้ลิ้นควานหาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ของเธออย่างบ้าคลั่ง
“อะ...อื้อ...” เขมมิกาไม่อาจจะต้านทานความวาบหวิวและไฟปรารถนาที่ก่อตัวขึ้น
“อืม...” ขุนพันดูดกลืนและตวัดลิ้นเลียดอกไม้งามอย่างเอร็ดอร่อย
“อะ...อ่า...” เขมมิกาจิกผ้าปูที่นอนแน่น แขนขาไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน
ขุนพันค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปสร้างความคุ้นเคยในขณะที่หยดน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้ ไหลเยิ้มออกมาชโลมนิ้วที่ค่อยๆสอดแทรกเข้าไปทีละนิด
“อะ...อืม...” เขมมิกาครางเสียงสั่น ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว และเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก
ขุนพันเริ่มขยับนิ้วเข้าออกเร็วขึ้น เมื่อเห็นร่างบางบิดเร่าและเริ่มเกร็งมากขึ้นเรื่อยๆ ก็รู้ว่าเธอกำลังจะแตะขอบสวรรค์
“อะ...อะ...อ๊ะ!...กรี๊ดดดด” เขมมิกากรีดร้องออกอย่างทนไม่ไหวจิกเล็บลงกับผ้าปูที่นอนแน่น เกร็งกระตุกติดๆ กันสามสี่ครั้ง
ขุนพันจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่หายใจหอบไปมา และหน้าอกคู่สวยที่ขยับตามแรงหายใจ เขาจึงรีบถอดเสื้อคลุมออก แล้วก้มลงลิ้มลองหยดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ที่เปื้อนเปรอะต้นขางาม
“พะ...พอแล้ว!” เขมมิกาารีบท้วง เมื่อลิ้นอุ่นๆ ของเขาแตะสัมผัสลงยังจุดกึ่งกลางของความเป็นหญิงอีกครั้ง
“เสร็จอีกครั้งนะคนดี” ขุนพันเงยหน้าขึ้นบอกก่อนจะดูดกลืนและรัวลิ้นขึ้นลงเร็วๆ สร้างความเสียวซ่านรัญจวนใจให้อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ไม่เคยทำให้กับสาวคนไหนมาก่อน แต่พอเป็นสาวตรงหน้ากลับไม่นึกรังเกียจ
“อะ...ไม่นะ...กรี๊ดดดด” เขมมิกากรีดร้องเสียงดังอีกครั้งอย่างสุขสม พร้อมกับกระตุกติดๆ จนสั่นไปทั้งตัว น้ำหวานจากดอกไม้งามทะลักออกมาอย่างพรั่งพรู
“อืม...”เขาครางเบาๆ หลังลิ้มรสน้ำหวานจนพอใจ ก่อนจะจูบซุกไซ้ต้นขางามและเอวบางขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงดอกบัวงามที่เบ่งบานรับสัมผัส
“หนู...ยะ...ยังไม่เคยนะคะ” เขมมิกาที่ได้สติรีบอ้อนวอนคนที่กำลังดูดกลืนปลายถันของเธอ
“พี่จะค่อยๆ เป็นค่อยไปครับ” ขุนพันส่งยิ้มหวานให้นางฟ้าคนสวย ที่ไม่รู้ว่า...ยังไม่เคยจริงหรือแค่แกล้งสั่นให้ตนตื่นเต้น จึงค่อยๆ จับความเป็นชายขนาดใหญ่ยาวแตะลงยังกลีบดอกไม้งามที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน แล้วถูไถขึ้นลงอย่างช้าๆ
“อะ...อ่า...” เขมมิกาส่งเสียงครางออกมาเสียวซ่านรัญจวนใจ
ขุนพันยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะจับความเป็นชายแทรกผ่านทางรักที่แสนคับแคบ แล้วออกแรงดันเข้าไป
กึก!
“อ๊ะ! กรี๊ดดดด” เขมมิกาที่กำลังเคลิบเคลิ้ม สะดุ้งเฮือก! น้ำตาไหลอาบแก้มทันที เมื่อความเสียวซ่านถูกแทนที่ด้วยความเจ็บปวด
“ให้ตาย!” ขุนพันอุทานเบาๆ หลังจากที่เพิ่งจะทะลวงผ่านเยื่อบางๆ ที่เรียกว่าพรหมจรรย์ มาได้หยกๆ
“เจ็บค่ะ...เอาออกไปก่อนได้ไหม” เขมมิกาอ้อนวอนเสียงสั่น
“อย่าเพิ่งดิ้นครับ” ขุนพันรีบปลอบพร้อมกับหยุดชะงักการกระทำทั้งหมดแล้วจูบซับหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลทั้งสองข้างออกให้อย่างแผ่วเบา
ในขณะที่ความเป็นชายของตนถูกบีบรัดแน่นจนแทบจะทนไม่ไหว แต่กระนั้นก็ภูมิใจที่ได้เป็นชายคนแรกของสาวตรงหน้า แม้ว่าจะเข้าไปได้แค่ครึ่งเดียวก็ตาม
