1. เอาต่อหน้าสหาย /1
บทที่ 1. เอาต่อหน้าสหาย /1
“วันนี้อาการเขาเป็นเช่นไรบ้าง” จางไห่เอ่ยถามคนรัก
“เหมือนเดิมเจ้าค่ะ” อี้เหอตอบกลับเสียงแผ่ว น้ำเสียงยังมีความกังวล ในฐานะคนดูแลนางย่อมอยากให้คนป่วยหายไวไว
“ไม่เป็นไร เจ้าแค่ดูแลเขาไปตามอาการที่เป็นก็พอ นายท่านหานไม่ต่อว่าหรอก” จางไห่เอ่ยปลอบ เพราะรู้ว่านางกังวล
“น่าสงสารท่านแม่ทัพนัก เป็นเช่นนี้เพราะปกป้องบ้านเมืองแท้ๆ แต่กลับถูกทอดทิ้งไม่ไยดี” อี้เหอเอ่ยตามที่คิด นางเป็นคนจิตใจดี จึงได้มาช่วยคนรักดูแลคนเจ็บ
“อย่าคิดมากเลยนะ มันเป็นรื่องธรรมดาของนักรบที่ต้องบาดเจ็บ ดีแค่ไหนที่เส้าเหว่ยยังรอดมาได้ ดีที่เขาไม่ตายในสนามรบเหมือนคนอื่น เจ้าก็แค่รักษาให้เขากินยาไปตามอาการก็พอ เรื่องอื่นอย่าได้ไปใส่ใจเลย” สิ้นคำเขาก็ยกนางขึ้นบนโต๊ะมุมห้องซึ่งมันไม่ไกลจากเตียงนัก ก่อนที่ยิ้มร้ายจะเผยออกมา
“ทะ...ท่านพี่จะทำอันใดเจ้าคะ” อี้เหอเสียงสั่น แม้จะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายต้องการทำอะไร เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนรักทำ เขากำลังจะจับนางกินต่อหน้าสหายอีกแล้ว
ซึ่งบัดนี้เส้าเหว่ยก็กำลังมองอยู่ โดยที่เขาก็ไม่อาจทักท้วงหรือโต้แย้งการกระทำสหายได้ เพราะเขาพูดไม่ได้นั่นเอง และไม่ใช่ว่าเป็นมาแต่เกิด เขาเพิ่งเป็นหลังจากมารักษาตัวที่นี่
หนึ่งเดือนก่อน เขาถูกฝ่ายศัตรูยิงลูกศรปักเข้าที่ขาขวา ซึ่งมันได้อาบยาพิษเอาไว้ด้วย จากนั้นก็เดินไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อได้รับการรักษาจากคนของสหาย กลับกลายเป็นว่าเขาเริ่มพูดไม่ได้ ซุ่มเสียงที่มีพลันหายไป กลายเป็นพูดไม่ได้จนถึงตอนนี้
หากคนดูแลเขาตั้งแต่ทีแรกคืออี้เหอ ไม่แน่ว่าอาการเขาอาจจะไม่รุนแรงถึงขั้นนี้ก็ได้ นึกแล้วก็น่าเสียดายนัก
และมิใช่แค่เรื่องการรักษาที่ทำให้เส้าเหว่ยเสียดาย ยังมีเรื่องของสตรีที่คอยดูแลเขาผู้นี้ด้วย อี้เหอ นางเป็นหญิงงามและรูปร่างดีมาก ๆ นางมีหน้าอกที่โตตึง มันประดับด้วยเม็ดไตสีแดงสดและมันก็ตัดกับเนินเขาขาวอวบได้ดียิ่ง ผิวก็ขาวเนียนอมชมพู ดุจผลท้อที่กำลังโตเต็มวัย ช่วงขาก็เรียวงาม
ทว่าความงามทั้งหมดนี้กลับไม่เท่าสองแคมของนางที่เคยเบ่งบานต่อหน้าเขา กลีบชมพูระเรื่อนั้นทำให้เขาอยากเอาลิ้นสากตวัดเลียชอนไชเข้าไปเหลือเกิน ยามเมื่อเห็นนางเปลือยกาย ใจเขายิ่งคิดอกุศล ไม่รู้สหายมากเล่ห์ไปหานางมาจากที่ใดกัน มิหนำซ้ำยังปกปิดเรื่องภูมิหลังกับนางได้จนมิด
ดูท่าสหายคงหลอกล่อว่าตนเองยังไม่ทันได้แต่งงานกระมัง มิเช่นนั้นอี้เหอคงไม่เชื่อฟังเช่นนี้ เขาอยากเตือนนางให้รู้ตัว จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อให้สหายเขาเชยชมเล่น
แต่จะทำเช่นไรในเมื่อพูดไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นทุกวัน และนอนมองทั้งคู่ร่วมสวาทกันด้วยความทรมาน เพราะเสียงครางของอี้เหอ มันชวนให้สยิวนัก
แม้ร่างกายช่วงล่างจะขยับไม่ได้ ทว่าใจคนมันยังรู้สึก เขาเองก็เป็นบุรุษ ยังคงมีความต้องการเหมือนคนทั่วไป
ยิ่งเห็นอี้เหอถูกจางไห่จับกินทุกวัน ความรู้สึกที่มีมันก็ยิ่งกระตุ้นให้เขาเกิดความต้องการ ทำให้ด้านล่างที่เคยแน่นิ่งเริ่มมีบางสิ่งต่างออกไป บางครามันก็ตื่นตัวแต่ก็ไม่ถึงกับแข็ง ใจก็อยากบอกเรื่องนี้กับสหายให้รู้ ไม่แน่มันอาจเป็นวิธีรักษาที่ดีก็ได้
ทว่าเส้าเหว่ยมิอาจเอ่ยกล่าวกับผู้ใดได้นี่สิ…
หรือเขาควรปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป บางทีบทสวาทของทั้งคู่อาจช่วยให้ร่างกายเขาดีขึ้น เพราะตั้งแต่อี้เหอเข้ามาดูแลรักษาเขาแทนผู้ดูแลคนเก่า ร่างกายเขาก็เริ่มต่างออกไป
แข้งขาเริ่มมีแรง โดยเฉพาะส่วนนั้นที่ตื่นตัวผงกหัวทุกครั้ง ยามเมื่อหญิงสาวถูกสหายเขาอัดกระแทกเด้าเอ็นอุ่นใส่ เหมือนเช่นยามนี้ที่สหายเขาก็กำลังคำรามด้วยความกระสันเสียว
ดูท่าจางไห่คงสอดใส่เอ็นเนื้อเข้าไปจนมิดแล้ว เพราะเขากำลังยืนแนบชิดตัวติดกับหว่างขาขาวที่ตั้งชันอยู่
“อ๊า!... เอากี่คราก็แน่น อู้ว… รูเจ้าเอามันยิ่งนักอี้เหอ อ่า” จางไห่เอ่ยชมร่องรูของหญิงสาวไม่ขาดปาก
ด้านในของนางช่างบีบรัดดีเหลือเกิน ทั้งรัดทั้งตอดดุ้นเอ็นเขาดีนัก แค่เสือกเข้าไปก็แทบจะแตกแล้ว เพราะเหตุนี้ชายหนุ่มจึงต้องแอบมาหานาง เพื่อเอาเอ็นเนื้อของตนสอดใส่เข้าไปทุกวัน
คนอะไรยิ่งเอายิ่งมัน…
“อื้อ!...พี่จางไห่รีบ ๆ ขยับเถอะ ข้าอยากเสียวแล้ว” หญิงสาวไม่อายที่จะร้องขอเขา นางชอบนักยามเมื่อมีเอ็นอุ่นคาอยู่ในร่องรู เพราะสัมผัสเสียดสีนี้นางมักจะโหยหามันทุกค่ำคืน
ได้ยินเช่นนั้น จางไห่ก็รีบขยับชักเอ็นเนื้อของตนเข้าออก พร้อมกับก้มลงมองท่อนลำของตนผลุบหายเข้าไปอย่างกระสันเสียว ไม่นานเขาก็ชักดึงมันออกมา แล้วดันกลับเข้าไปใหม่
ชายหนุ่มทำอยู่เช่นนั้นราวกับต้องการหยอกล้อกับร่องรูแดงฉ่ำของนาง ทว่าไม่นานนักเขาก็เริ่มไม่ไหว ต้องรีบซอยเอวขยับเด้าใส่รัวเร็วขึ้น เพื่อเพิ่มความกระสันให้กับเอ็นเนื้อของตนเอง และร่างเล็กที่กำลังดิ้นส่ายไปมาเพราะความเสียว แม่ว่าอาภรณ์ยังคาร่างของทั้งคู่อยู่ก็ตามที
ทว่าอีกไม่นานมันคงไม่เหลือแล้ว
พอเขาเริ่มขยับรัวเร็ว เสียงหยาบโลนของเนื้อกระทบกันก็เริ่มดังขึ้นมาให้ผู้ที่นอนอยู่บนเตียงได้แต่ลอบกลืนน้ำลาย เพราะเส้าเหว่ยอยากเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเอง เขาอยากเอาอี้เหอ
ยิ่งเห็นร่างกายเปลือยของนาง ยามเมื่อสหายเริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ให้ร่วงหล่นลงมาทีละชิ้น ความกระสันอยากในตัวยิ่งมีมากขึ้น จนด้านล่างที่ถูกผ้าห่มคลุมไว้เริ่มขยับตื่นตัวอีกแล้ว
‘อ่า… ข้าอยากเป็นคนยืนเอาเอ็นนี้ใส่รูนางเหลือเกิน’ พร่ำเพ้อในใจ พร้อมกับกำผ้าปูแน่น เพราะเขาทำได้แค่มองจริง ๆ
ยิ่งเห็นสหายดันสะโพกใส่หว่างขาเรียว ใจเขามันก็ยิ่งเคียดแค้นตนเองที่เอาแต่ทำศึก ไม่เคยคิดหาความสุขใส่ตัวเช่นนี้เลย
‘หืม…ข้าอยากเอาเอ็นเนื้อสอดใส่รูแดงของนางนัก กระแทกแรง ๆ มันคงเสียวหัวบานน่าดู’ แม่ทัพวัยยี่สิบหกคิดอย่างหื่นกาม
แต่สุดท้ายเขาจะทำอันใดได้ นอกจากนอนมองสหายยืนขยับสะโพกใส่ร่องรูหญิงสาวที่ดูแลเขาทุกค่ำคืนเท่านั้น
ด้านจางไห่ ยามนี้เขามัวเมากับร่างเย้ายวนเป็นอย่างมาก ยืนอัดกระแทกท่อนลำใส่ก็เหมือนจะไม่สาใจ จึงได้สอดแขนเข้าไปเกี่ยวเอาร่างเย้ายวนของนางขึ้นมากระเตงแล้วยืนเสยท่อนเอ็นเนื้อตนกระแทกใส่รูนางแรง ๆ จนดัง ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!
“อ๊าย… พี่จาง อูววว… ข้าเสียวเจ้าค่ะ” อี้เหอครางเสียงหลง เมื่อเอ็นเนื้อใหญ่อัดเสยขึ้นมา จนนางรู้สึกว่ามันลึกจนชนเข้ากับผนังด้านใน มันถี่รัวจนลมหายใจเริ่มติดขัด นางทั้งจุกทั้งเสียวในคราวเดียว… เพราะเขากระทุ้งแรงเหลือเกิน
มากไปกว่านั้นจางไห่ยังกระเตงกระแทกพานางเดินตรงไปที่เตียง ราวกับต้องการให้คนที่มองอยู่ได้เห็นชัดถนัดตาขึ้น สร้างความตื่นเต้นให้อี้เหอเป็นอย่างมาก จนด้านในตอดรัดดุ้นเอ็นแน่น
“อ๊ะ!... พี่จางไห่พามาตรงนี้ทำไมเจ้าคะ อื้อ… อ๊ะ…แรงไปแล้ว อ๊ะ!...” นางท้วงเสียงหลง เมื่อคนรักหยุดที่เตียงคนป่วย
“ซี๊ด! ก็พี่อยากให้ท่านแม่ทัพได้เห็นเราเอากัน ไม่แน่มันอาจจะกระตุ้นร่างกายเขาก็ได้ อ่า… รูเจ้ารัดดุ้นเอ็นพี่ดีเหลือเกิน อ่า… เอามันยิ่งนักเมียจ๋า” จางไห่คำรามเสียงดัง
เขาตั้งใจเย้ยหยันสหายที่นอนป่วยให้สาแก่ใจเล่น เพราะความเกลียดชังยังคงสุมอยู่ในใจเขาไม่เลือนลางตั้งแต่สองปีก่อน
#ไม่ชอบปัดผ่านได้นะคะ
