1-เรื่องจริงหรือความฝัน(1/4)
“ที่นี่ที่ไหนกันไม่คุ้นเลย”
“แล้วนั่นอะไร?”
“จะไปไหนกันเหรอคะคุณยาย”
“.....”
ฉันมาอยู่สถานที่นี้ได้ยังไงก็ไม่รู้ เป็นเหมือนปราสาทขอมสมัยโบราณ ทางเดินก็ค่อนข้างจะชัน ฉันเดินไปตามทางเรื่อย ๆ พร้อมกับผู้คนมากมาย ถามยายคนหนึ่งที่กำลังเดินสวนไปท่านก็ไม่ตอบ ฉันเดินขึ้นไปเรื่อย ๆ จนเริ่มรู้สึกว่าเดินไม่ไหว ทางมันชันเกินไปเหมือนจะกลิ้ง แต่
“จับเชือกไว้สิโยม”
มีพระสงฆ์สองรูปยื่นเชือกมาให้ แล้วบอกให้ฉันจับไว้ ก็เลยทำตามเพราะกลัวว่าจะกลิ้งตกลงไป แล้วพระสงฆ์สองรูปก็ดึงพาฉันขึ้นไปจนสำเร็จ มองรอบ ๆ เป็นภูเขาสูงตระหง่าน และมียอดปราสาทอยู่บนนั้น
“ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ?”
“.....”
ฉันพนมมือแนบอกแล้วถามพระสงฆ์ทั้งสองรูปที่พาฉันขึ้นมา แต่ว่าท่านไม่ตอบและเดินหนีฉันไปเฉยเลย ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนงงอยู่คนเดียว ผู้คนก็เดินผ่านไปผ่านมา แต่เหมือนกับว่าไม่มีใครสนใจหรือตอบอะไรฉันเลย ฉันเดินไปถามก็เหมือนกับว่าไม่มีใครได้ยิน นี่มันคืออะไรกัน?
“คุณป้าคะ ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ?”
“...” ไม่ตอบฉันอีกแล้ว ฉันจึงวิ่งไปหาอีกคนที่กำลังเดิน
“นั่นมัน...คุณยายคนนั้นนี่นา” ฉันตกใจเมื่อเห็นคนยายที่มาคุยกับฉันและเนยหวาน ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่สูง เดินทางลำบากแบบนี้ล่ะ
อย่างที่ฉันเห็นเส้นทางมันกันดารและลำบากมาก มีทั้งหนามและก้อนหิน ดินแดงเต็มไปหมด สองข้างทางก็มีแต่ป่า ทว่ากลับเป็นป่าที่ดูเขียวชอุ่มสวยงาม พอขึ้นมาแล้วก็มีภูเขาล้อมรอบ และมีปราสาทขอมโบราณใหญ่โต
“คุณยายจำหนูได้ไหมคะ?” ฉันรู้สึกดีใจเพราะคิดว่าคุณยายน่าจะบอกทางกลับบ้านให้ฉันได้
“...” แต่ท่านกลับไม่ตอบและเดินผ่านหน้าฉันไป
“ฮือ ฮือ” ฉันไม่รู้จะกลับบ้านทางไหน ตอนนี้มันรู้สึกกลัวไปหมด ฉันอยากกลับบ้านไปหาพ่อ แม่ และพี่น้ำ ฉันกลัวจนร้องไห้ออกมา นั่งฟุบหน้ากับเข่าอยู่ตรงนั้น เพราะไม่รู้จะต้องเดินไปทางไหนถึงจะกลับบ้านได้
“อยากกลับบ้าน ฮือ ฮือ”
(“ไม่ง่ายที่ใครจะได้มาที่นี่”)
เสียงของใครก็ไม่รู้ดังเข้ามา ฉันได้ยินแบบนั้นจึงรีบเงยหน้ามอง ก่อนจะเช็ดน้ำตาที่มันไหลอาบสองแก้ม ผู้ชายอายุราวหกสิบห้ายืนอยู่ตรงหน้าของฉัน สวมชุดขาวทั้งตัว และมีแสงสว่างรอบตัวเปล่งประกาย เป็นใครฉันก็ไม่รู้จัก แต่ความรู้สึกกลับสวนทาง เหมือนกับว่าฉันคุ้นเคยกับเขาจัง
“คุณตาอยู่ที่นี่เหรอคะ?...หนูอยากกลับบ้านต้องไปทางไหน” ฉันรีบถามทันที
“ต่อไปที่แห่งนี้ต้องฝากเจ้าดูแล” ไม่ตอบในสิ่งที่ฉันถาม แต่พูดออกมาในสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ
“คุณตาหมายความว่ายังไงคะ? ... หนูไม่เข้าใจ” ฉันลุกยืนเต็มความสูงก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น
“ผู้ถูกเลือกย่อมต้องทำหน้าที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“หนูงงไปหมดแล้วค่ะ”
“ที่นี่มันคือที่ของเจ้า เราแค่เฝ้าดูแลให้ชั่วคราว ตอนนี้ถึงเวลาเหมาะควรแล้ว ชีวิตมากมายที่เจ้าต้องปกป้อง และต้องเป็นเจ้าเท่านั้น...หมดเวลาของเราแล้วกับการอยู่ที่นี่มาหลายพันปี”
“คุณตาคะ คุณตา!”
เพียงท่านพูดจบก็ค่อย ๆ เดินหายไป แต่ทุกก้าวที่คุณตาเดินเหมือนอยู่ใกล้ แต่ฉันกลับเอื้อมมือจับท่านไม่ถึงสักที ทั้งที่ฉันวิ่งจนสุดแรงขา ก็ไม่สามารถคว้าแขนของคุณตาคนนั้นได้ และต้องตกใจเมื่อ...
“นะ นะ นั่นมันอะไร?”
