บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด...

เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกให้หลุดจากภวังค์ อิงอรใช้มือข้างที่ว่างหยิบมันออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เมื่อเห็นว่าคนโทรมาเป็นใครก็รีบกดรับสาย

“สุขสันต์วันเกิดนะ ลี่อิง”

เสียงแหบคุ้นหู ของพี่ชายดังมาตามสาย

“ขอบคุณค่ะ เฮียเผิง”

อิงอรเอ่ยขอบคุณตามมารยาท แม้จะรับการดูแลจากพี่ชาย แต่หญิงสาวไม่เคยรู้สึกสนิทสนมกับคนเป็นพี่มากมายนัก เมื่ออีกฝ่ายไม่เคยเข้ามาดูแลใกล้ชิด ทำเพียงแค่ส่งเงินมาให้ใช้และโทรมาหาบ้างนานๆ ครั้ง เธอเคยพบหน้าพี่ชายแค่สองครั้ง ครั้งแรกเมื่อเขาเดินทางไปหาเธอที่บ้านที่เชียงใหม่ ครั้งที่สองตอนเดินทางมาถึงญี่ปุ่น เขามารับเธอที่สนามบินและพามาส่งที่อพาร์ทเม้นแห่งนี้ หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยเห็นหน้าเขาอีกแต่มันไม่ได้ทำอิงอรเดือดร้อน เธอพอใจกับการใช้ชีวิตคนเดียวแบบนี้ โดยไม่ต้องรู้สึกอึดอัดหากอยู่ในความดูแลของพี่ชาย แม้เขาจะส่งเลขาชื่ออาเฟยมาดูแลเธอบ้าง แต่ยังดีกว่าเธอต้องอยู่ในสายตาเขาตลอดเวลา

"อาเฟยบอกว่าเธอจะรับปริญญาเดือนหน้าแล้วใช่ไหม”

“ค่ะเฮีย บริษัทที่หนูไปฝึกงาน เขาตอบรับใบสมัครแล้ว หนูคงไม่ต้องรบกวนเฮียอีก”

อิงอรตั้งใจว่าหลังเรียนจบ เธอจะหางานทำให้เร็วที่สุดโชคดีที่บริษัทที่เคยไปฝึกงานเรียกตัวให้ไปทำงาน จึงถือโอกาสนี้บอกกล่าวกับพี่ชายให้รู้ไว้ เขาจะได้ไม่ต้องส่งเสียเงินเลี้ยงดูเธออีก

“ปฏิเสธเขาไป เฮียจะให้เธอไปทำงานกับเพื่อนเฮีย” คนเป็นพี่ออกคำสั่ง

“แต่... หนูรับปากเขาไปแล้วนะคะ” อิงอรพยายามทักท้วง

“ทำตามที่ฉันสั่ง หลังจากรับปริญญาแล้ว ฉันจะให้อาเฟยไปรับเธอมาอยู่กับฉัน แค่นี้นะ”

พี่ชายพูดจบก็วางสายไปโดยไม่ฟังความเห็นของน้องสาว เขามักทำแบบนี้เสมอจนติดนิสัย ไม่เคยฟังเหตุผลหรือความต้องการของเธอเลย อิงอรถอนหายใจแรงๆ หนักใจกับสภาพไร้ทางออกของตัวเอง เหมือนฟ้ายังไม่แล้งน้ำใจ เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นอีกหน อิงอรยิ้มกว้างรีบกดรับทันที

“สวัสดีค่ะน้าอ้อย คิดถึงน้าอ้อยจังเลย เป็นยังไงบ้างคะ น้าเขยดูแลน้าอ้อยดีหรือเปล่า”

อิงอรพูดรัวเป็นชุด แทบไม่เปิดโอกาสให้คนปลายสายได้โต้ตอบ

“น้าก็คิดถึงเราจ้า ตอนนี้น้าเขยเราทำให้น้าหงุดหงิดอยู่เรื่อย รู้ทั้งรู้ว่าน้าท้องอยู่ยังชอบกลับบ้านดึก ถ้าลูกคลอดเมื่อไหร่น้าจะหอบลูกหนีเสียให้เข็ด”

คนเป็นน้าบ่น น้ำเสียงสดใสมากกว่าจะหงุดหงิดตามปากพูด

“น้องจะคลอดเมื่อไหร่คะ น้ำอิงจะได้แวะไปเยี่ยม เอ... หรือว่าไปช่วยเลี้ยงน้องดีคะ”

อารีย์น้าสาวของเธอตามม่านไหมนายสาวมาทำงานที่ฮ่องกง และได้พบรักกับอาปิงบอดี้การ์ดหนุ่มของสามีเจ้านาย ได้ตกลงปลงใจแต่งงานกันเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้อารีย์กำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรก

“น้าโทรมาหาน้ำอิงเพราะเรื่องนี้แหละ น้ามีปัญหาตอนคลอดจ้ะ หมอบอกว่าน้าอายุมากแล้วอาจต้องผ่าคลอด น้ากลัวมากเลยนะ น้าอยากให้น้ำอิงมาอยู่เป็นเพื่อนน้าจะได้ไหม”

คนเป็นน้าบอกจุดประสงค์ในการโทรมาหา ด้วยน้ำเสียงเกรงใจ

“ได้สิคะ น้ำอิงเรียนจบแล้วเหลือแค่รอรับปริญญา ไปดูแลน้าอ้อยได้สบายมาก”

อิงอรแทบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เธอหาทางออกให้ตัวเองไม่ต้องไปทำงานกับเพื่อนของพี่ชายได้แล้ว ข้ออ้างนี้ดูมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ พี่ชายคงไม่กล้าว่าอะไร เมื่อเธอต้องไปดูแลน้าสาวผู้มีพระคุณ หญิงสาวยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง

“ขอบใจมากจ้ะหลานรัก เราจะว่าอะไรไหม ถ้าน้าอยากให้น้ำอิงเดินทางมาเร็วที่สุด”

“ไม่มีปัญหาค่ะน้าอ้อย น้ำอิงจะเช็คเที่ยวบินก่อนนะคะ ถ้าได้ตั๋วจะรีบเดินทางไปเลยค่ะ”

อิงอรรับปากให้อีกฝ่ายคลายใจ เธออยากไปหาน้าสาวเร็วๆ เหมือนกัน

“น้าจะให้น้าเขยไปรับที่สนามบินนะ มาถึงวันไหนโทรบอกน้าด้วยนะ เดี่ยวน้าต้องไปทำกับข้าวแล้ว แค่นี้ก่อนนะ อ้อ... สุขสันต์วันเกิดจ้าหลานรัก”

อารีย์อวยพรวันเกิดให้หลานสาว ก่อนจะวางสายไป

อิงอรเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ร่างบางเดินไปยังห้องพักด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เมื่อนึกถึงการเดินทางครั้งนี้เธอจะได้พบกับน้าสาวอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้พบกันมานาน และจะได้พบกับเขาคนนั้นด้วย คนที่เธอไม่เคยลบภาพเขาออกจากหัวใจได้เลย ผู้ชายที่ชื่อ จางหลง

ร่างสูงยืนนิ่งดวงตาคมเข้มทอดมองรูปถ่ายที่ติดบนหินอ่อนสีขาวนิ่ง เงาสะท้อนข้างในแววตาหม่นซึมและอ่อนเศร้า ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึม หวนนึกถึงคนที่ทอดร่างอยู่ใต้หลุมศพแห่งนี้ สามปีแล้วที่เธอจากเขาไปเธอจากไปในวันครบรอบวันเกิดของเธอ วันที่ควรมีความสุขที่สุด กลับเป็นวันที่ต้องหลั่งน้ำตาเสียใจสุดแสน เมื่อมัจจุราชได้พรากลมหายใจของเธอไปอย่างโหดร้ายพร้อมลูกน้อยในครรภ์ ลูกที่ไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลก

จางหลงกำหมัดแน่นแววตาแข็งกร้าวโกรธเกรี้ยว ภาพเหตุการณ์ร้ายวาบผ่านเข้ามาในความทรงจำ หัวใจเจ็บร้าวปวดแปลบเหมือนถูกกรีดด้วยมีดแหลมคม หากเขาเฉลียวใจสักนิดเขาคงไม่เสียใจแบบนี้ ชายหนุ่มกดเปิดคลิปวีดีโอจดจ้องภาพเคลื่อนไหวนั้นด้วยความเจ็บปวด

“จางหลง จำได้ไหมว่าฉันเป็นใคร ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” เสียงแหบห้าว ของหย่งเผิงดังแว่วมา

เจ้าของเสียงเผยโฉมหน้าของตัวเอง ผ่านคลิปวีดีโอที่ส่งเข้ามาในเครื่องโทรศัพท์ของจางหลง ในขณะที่เขากำลังเดินทางกลับไปบ้านเพื่อเตรียมจัดงานฉลองวันเกิดให้ภรรยา

“ฉันกลับมาแล้ว กลับมาทวงแค้นแกกับไอ้หลี่ไท่หยางยังไงล่ะ”

หย่งเผิงยิ้มร้าย ลอยหน้าลอยตาใส่กล้อง เหมือนยั่วโมโหให้คนมองเกิดอารมณ์ ร่างผอมสูงขยับห่างจากกล้อง ผายมือออกไปข้างตัว มองเห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่กลางถนนที่ไร้ผู้คนสัญจร จางหลงหัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อกล้องซูมเข้าไปใกล้ตัวรถ มองเห็นป้ายทะเบียนและสีรถชัดเจน รถคันนั้นเป็นรถที่อวี้เหมยใช้เป็นประจำ คนถ่ายค่อยเดินเข้าไปใกล้รถช้าๆ ภาพฉายให้เห็นภายในรถที่มีร่างไร้สติของอวี้เหมยนั่งซบอยู่บนเบาะด้านหลัง ตรงฝั่งคนขับมีร่างของบอดี้การ์ดสองคน ฟุบนิ่งอยู่ในสภาพศีรษะมีแผลเหวอะหวะ มองเห็นเลือดและมันสมองไหลย้อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว คนถ่ายยังทำร้ายจิตใจคนดู ด้วยการเคลื่อนภาพถอยห่างกลับมาจับใบหน้าของหย่งเผิงอีกครั้ง

“จำได้มั้ย ว่าแกทำอะไรกับฉันบ้าง ถ้าจำไม่ได้ฉันจะทบทวนให้แกดูเอง” หย่งเผิงยิ้มเหี้ยมใส่กล้อง

มาเฟียร้ายเดินห่างจากรถออกมาเรื่อยๆ จนได้ระยะพอเหมาะ กล้องเปลี่ยนมาจับภาพรถอีกครั้ง มองเห็นลูกสมุนสองคนกำลังเทน้ำมันราดไปรอบๆ รถ ที่มีกองยางรถยนต์วางกองไว้ หัวใจคนเห็นภาพแทบจะขาดลงตรงนั้น เมื่อเห็นหย่งเผิงหยิบไฟแช็คขึ้นจุด

“มองดูสิจางหลง มองให้ชัดๆ ฉันกำลังจะเผาเมียแกทั้งเป็น เหมือนที่แกทำกับฉัน แต่ขอโทษทีว่ะ ตอนนั้นลูกน้องฉันมันช่วยฉันออกมาทัน แต่เมียแกคงไม่โชคดีเหมือนฉัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

พูดจบไฟแช็คในมือก็ถูกโยนออกไป เปลวไฟลุกพรึบขึ้นทันที พระเพลิงโอบล้อมเผาผลาญยางรถยนต์ที่เป็นเชื้อไฟชั้นดี กลุ่มควันสีดำลอยโขมง พร้อมกับเสียงระเบิดตูม รถกลายเป็นเศษซากในกองเพลิงกองใหญ่นั้น

“ไอ้หย่งเผิง ฉันจะไม่ยอมให้อวี้เหมยตายฟรี แกต้องชดใช้!”

จางหลงคำรามลั่น มือสั่นเกร็งกดปิดคลิปวีดีโอนั้นด้วยหัวใจกราดเกรี้ยว เขาเก็บมันไว้ไม่ยอมลบทิ้งเพื่อเตือนตัวเองให้หาทางจัดการกับคนชั่วอย่างสาสม หย่งเผิงลอยนวลมานานถึงสามปีโดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรมันได้ อีกฝ่ายแม้ไม่ได้เป็นหัวหน้าแก๊งมังกรแล้ว แต่อาศัยฐานอำนาจของแก๊งยากูซ่าคุ้มหัวตัวเอง หย่งเผิงเปลี่ยนชื่อใหม่ลบประวัติเดิมทิ้งไปกับเปลวเพลิงเมื่อห้าปีก่อน และหวนกลับมาใหม่กลายเป็นยากูซ่าเต็มตัวเพื่อทวงคืนอำนาจของตัวเอง ด้วยความร่วมมือจากจ้าวสงที่เป็นพันธมิตรกลุ่มเดิมของหย่งเผิง การวางแผนลอบทำร้ายซื่อเหวินหลัวน่าจะได้หย่งเผิงให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง คนอย่างจ้าวสงถึงได้กล้าคิดการณ์ใหญ่กว่าตัวแบบนี้ได้ จางหลงให้สัญญากับตัวเองว่าหากเอาตัวหย่งเผิงมาได้ จะทำให้หย่งเผิงทรมานเป็นร้อยเท่า จะไม่ปล่อยให้มันรอดชีวิตออกจากขุมนรกมาได้อีก ต่อให้ต้องแลกกับอะไรก็ตามหากจะสามารถนำไอ้คนเลวนี้มาลงโทษได้เขาก็ยอมทำ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel