ตอนที่หนึ่ง อัญมณีเลอค่า 2
พออัยรามารดาของพิจิการู้ว่าเพชรเลิฟไดมอนด์หายไปนางก็สืบหาจนเข้าใจว่าเอ็ดเวิร์ดคือคนที่นำมันไปขายความเครียดจึงเกิดขึ้นประกอบกับที่เป็นโรคความดันสูงอัยราจึงถึงกับเส้นเลือดในสมองแตก โชคดีที่เอ็ดเวิร์ดพบเข้าก่อนและพามาโรงพยาบาลได้ทันและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจนมีโอกาสที่จะฟื้นมากกว่าเป็นเจ้าหญิงนิทราหรือว่าเสียชีวิต...
“ตอนที่พ่อมาพบอัยราแม่เราแทบไม่บอกพ่อว่าเกิดอะไรขึ้นเอาแต่พร่ำโทษว่าพ่อเอาเพชรที่แม่รักมากที่สุดไปขาย” เอ็ดเวิร์ดเล่าไปดวงตาแดงรื้นไปเมื่อนึกถึงคำพูดของภรรยาสุดที่รัก “ความจริงพ่อก็เพิ่งรู้เรื่องนั้นมาก่อนที่แม่ของลูกจะโวยวายเรื่องนี้แต่พ่อยังไม่ได้คิดว่าจะบอกอย่างไรดีเพราะเรื่องที่รู้จากเพื่อนมาว่าคนลือกันเรื่องพ่อเอาเพชรไปขายได้เงินมาหลายร้อยล้านมันจริงหรือเปล่า พ่อไม่นึกว่าแม่จะรู้ก่อนพ่อได้แต่พร่ำขอโทษและบอกความจริงว่าใครเป็นคนเอาไปขายพ่อพร่ำบอกว่าไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นเพราะว่าครอบครัวเรามีเงินมากพอไม่ได้เอาเพชรไปขายเพื่อพยุงกิจการเพราะพิษเศรษฐกิจอย่างที่แม่เข้าใจ... ระหว่างที่พ่ออธิบายกับแม่พ่อสังเกตเห็นแม่พูดไม่ชัดดูลิ้นแข็งจะยกแขนตวัดมาตบพ่อก็เหมือนจะไม่ไหว...
ตอนที่พ่อพาแม่ไปรักษาความดันกับหมอ หมอเตือนเรื่องเส้นเลือดในสมองกับพ่อแล้ว... พ่อเลยรีบพาแม่ไปหาหมอและตรวจโชคดีที่เส้นเลือดที่แตกไม่ใช่เส้นเลือดใหญ่พ่อไม่อยากให้แม่ต้องเจอเรื่องเสียใจจนคิดมากให้ความดันขึ้นแล้วมีปัญหาอีก... ก่อนแม่จะเข้าไอซียูพ่อเลยสัญญาว่าจะเอาเพชรนั้นกลับคืนมาให้ได้”
พิจิกาน้ำตาคลอและหยดลงพร้อมกับน้ำตาบนดวงหน้าของบิดา... มารดาของหล่อนยึดติดกับเพชรเม็ดนั้นเพราะมีความทรงจำและมีความหมายมากมาย...
“อาเว็นเวิร์ธก็ทำกันได้ลงคอ” พิจิกาพึมพำ
“ตอนเกิดเรื่องนี้ขึ้นเว็นเวิร์ธก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำผิด” เอ็ดเวิร์ดเล่า“อาของลูกสืบจนไปพบว่าเพชรไปอยู่ในมือของบริษัทเจมส์ ไดมอนด์ด้วยราคาที่ไม่สูงขึ้นจากราคาขายมากนักเพราะว่าเศรษฐกิจประเทศอเมริกาไม่ดีแต่ความสวยงามล้ำค่าของเพชรทำให้มันได้รับความสนใจมากเลยไปตกอยู่ในมือของ อาเธอร์เจ้าของบริษัท เขาพอใจมันมากและไม่ได้ทำอะไรกับเพชรเพราะยังไม่มีแผนในหัว เว็นเวิร์ธไปหาอาเธอร์เพื่อเจรจาขอเพชรคืนแต่เกิดความเข้าใจผิดระหว่างเว็นเวิร์ธกับอาเธอร์เพราะอาเธอร์เข้าใจว่าเว็นเวิร์ธจะไปขอเอาเพชรคืนโดยที่ไม่คืนเงินให้เลยเกิดเรื่องขึ้น เว็นเวิร์ธยิงอาเธอร์ไปหนึ่งนัดด้วยความบันดาลโทสะในวันที่ไปเจรจากัน”
“พระเจ้า... แล้วเกิดอะไรขึ้นจากนั้นคะ” พิจิกาหน้าไร้สีเลือด ไม่นึกว่าการเจรจาจะทำให้เกิดการนองเลือดคนมุทะลุอย่างอาของหล่อนไปเจรจาขอเพชรคืนด้วยวิธีใดก็ไม่รู้ถึงได้เกิดเรื่องฟังดูก็รู้ว่ามันไม่ง่ายบิดาของหล่อนถึงได้ดูเครียดเคร่งเช่นนั้น
“ทางนั้นเขาโกรธมากน่ะสิ เขามีเพชรอยู่ในมือด้วย ถ้าพ่อรู้ว่าเว็นเวิร์ธจะไปทวงคืนด้วยคำพูดที่ไม่ดีทั้งที่ตัวเองก็เป็นคนผิดพ่อก็คงเป็นฝ่ายไปพูดแทนแล้วไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้เรื่องมันยากขึ้นอย่างนี้...”
“แล้วเราไม่ไปเจรจากับเขาใหม่หรือคะ”
“ไม่ได้แล้ว ทางนั้นแค้นมากเพราะเขาคิดว่าเขาเป็นคนซื้อมา เราจะไปเอาคืนมาดื้อๆ ไม่จ่ายเงินพอเขาไม่ให้เราก็ยิงเขามันเกิดเป็นปัญหาใหญ่แบบนี้ทางนั้นเลยไม่เจรจากับเราและจะจัดงานเปิดตัวว่าเขามีเพชรนั้นอยู่ในมือโดยไม่เกรงใจใคร ตอนนี้ราคาเพชรในตลาดกลางอยู่ที่เป็นพันๆ ล้านเห็นจะได้อันที่จริงจะว่าเขาไม่ได้เพราะเขาไม่รู้ว่าเพชรนั้นสำคัญทางจิตใจกับเราแค่ไหน ความจริงแล้วเพชรสีชมพูนั้นคือเพชรที่ตัดแบ่งจากโคตรเพชรของท่านตาลูก จะทำขึ้นมาใหม่อีกอันที่เหมือนเดิมก็ได้แต่แม่ของลูกย่อมจำตำหนิและเพชรที่ล้อมเลิฟไดมอนด์ได้ทุกเม็ดมันอาจจะไม่ได้ทำให้แม่รู้สึกดีขึ้นมา”
“แสดงว่าเราต้องทำทุกวิถีทางให้ได้เพชรกลับมาใช่ไหมคะ” พิจิกานึกถึงมารดาบังเกิดเกล้าที่แพทย์กำลังดูอาการอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู อาการตอบสนองของนางยังไม่แน่ชัดเพราะเพิ่งเกิดเหตุไม่นาน คงต้องดูต่อไปว่าท่านจะฟื้นกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าท่านฟื้นมาและรับรู้ได้ดีการได้เพชรคืนก็จะทำให้ท่านมีความสุขมากและไม่เครียดจนมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอีก
“ถูกแล้ว เพราะเพชรนี้มีความสำคัญกับแม่ของลูกมาก ถ้าไม่ได้มันคืนพ่อก็คงไม่อยากมีชีวิตอยู่เห็นแม่ต้องเสียใจทุกข์ทนทรมานโดยที่พ่อไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย”
เพชรสีชมพูที่หายากและเลอค่ายิ่งเป็นที่ต้องการของนายทุนโชคดีที่เพชรเลิฟไดมอนด์หรือเพชรสีชมพูรูปหัวใจของเขาถูกขายให้บริษัทเจมส์ ไดมอนด์ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่โตและมีเพชรดีๆ ในมือมากมาย เลิฟไดมอนด์จึงไม่ถึงคราวต้องถูกเปลี่ยนแปลงตัวเรือนนำไปตัดแบ่งหรือว่าเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้หัวใจของอัยราแตกสลาย เป็นเรื่องดีที่เพชรอันงดงามทั้งทางกายภาพและทางจิตใจอยู่ในกำมือของอัครวัตร อาเธอร์ พงษ์ภวเมธากุล ปีเตอร์สัน เจ้าของบริษัทเพราะเขารวยมากจนอยากเก็บเพชรเม็ดนั้นไว้เองไม่อยากขายให้ใคร... และมันก็เป็นโชคร้ายของเอ็ดเวิร์ดที่เจ้าของเพชรเลิฟไดมอนด์คนใหม่ชอบเพชรเม็ดนั้นมากจนไม่ยอมขายคืนให้เจ้าของที่แท้จริงอย่างเขาไม่ว่าเขาจะเสนอเงินไปเท่าไหร่
“คุณพ่อไม่ลองเจรจาขอซื้อกลับเองอีกครั้งคะ... ถ้าเขารู้ว่าเราคือเจ้าของที่แท้จริงหรือไม่ก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังเสนอราคาที่แพงกว่าตอนเขาซื้อนิดหน่อยเป็นค่าดอกเบี้ยเราน่าจะได้คืน....” หญิงสาวแนะนำบิดา
“สิ่งลูกบอกพ่อทำหมดแล้ว... แต่ว่ามันไม่ได้ผลแม้แต่จะเข้าถึงตัวอาเธอร์ก็ไม่ได้เขาคิดว่าพ่อคือเว็นเวิร์ธและเมื่อส่งคนอื่นไปเขาก็ไม่เปิดกว้างรับตอนนี้มันไปไกลจนเกินกู่กลับเพราะเขาประกาศว่ามีเพชรในมือและจะเปิดประมูลให้คนประมูลเพื่อการกุศลเหมือนจะบอกกลายๆ ว่าเพชรเม็ดนั้นไม่ได้สำคัญอะไรกับเขาเลยเขาจะบริจาคฟรีๆ ก็ได้แต่ไม่มีทางให้เรา”
“โธ่... แล้วเราต้องทำยังไงดีคะ”
“พ่อคิดไว้ว่าจะต้องเข้าประมูลเพชรนั้น ถ้าต้องทุ่มสุดตัวก็ต้องทำและพ่อก็จะขอร้องให้ท่านลุงของลูกทำเลิฟไดมอนด์อีกอันขึ้นมาเพื่อสำรองไว้ ถึงไม่ได้น้ำงามเหมือนอันเดิมก็คงดีกว่าไม่ทำอะไรเลย... อีกแผนที่พ่อวางไว้คือพ่ออยากให้ลูกไปเดินแบบในงานประมูลนั้นพ่ออยากรู้ว่าใครจะประมูลมันไปและให้ราคาเท่าไหร่พ่อมีลิมิตอยู่พันล้านแต่พ่ออยากให้ลูกแฝงตัวเข้าไปสืบข่าวว่าจะมีคนมาประมูลหรือเปล่าเพราะเดี๋ยวเราจะล้มละลายเอาได้ถ้าไม่รู้ข่าววงในก่อนว่ามีคนต้องการประมูลแข่งเราหรือไม่ เพราะ ณ วินาทีนั้นพ่อต้องทุ่มสุดตัวเพื่อประมูลเพชรอยู่แล้ว...”
สายตาของบิดาที่ดูเป็นห่วงมารดาอย่างยิ่งยวดทำให้พิจิกาไม่คิดว่าเรื่องนี้คือเรื่องเล็กน้อย บิดาหล่อนรักภรรยามากจนขนาดยอมทุ่มทรัพย์สินทั้งหมดที่มีเพื่อความสุขสบายใจของคนที่ท่านรัก... หล่อนซึ่งเป็นลูกที่ถึงแม้เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองคือลูกที่แท้จริงของท่านทั้งสองแต่ก็รักและสนิทสนมกับพวกท่านมานานก่อนที่จะรู้ความผูกพันก็ย่อมมาก
สิ่งที่บิดาต้องการจะทำหล่อนจึงไม่คัดค้านแม้แต้น้อยและเห็นด้วยอย่างถึงที่สุด ความโกรธความน้อยใจที่เคยมีอันตรธานหายหมดเหลือเพียงแต่ความกตัญญูในหัวอกที่มันทำให้มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะช่วยมารดาของตนเอง...
“แล้วเดือนต้องทำอย่างไรบ้างคะ”
“งานแสดงเพชรที่อาเธอร์จะจัดขึ้นกำลังต้องการนางแบบหลายคนเขาเพิ่งเซ็นสัญญากับโมเดลลิ่งที่ลูกสังกัดอยู่ถึงยังไงลูกก็ได้เดินแบบที่งานนี้อยู่แล้วลูกต้องทำตัวให้โดดเด่นที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ได้สวมเพชรสีชมพูถ้าหากทำได้พ่อจะอาศัยเปลี่ยนเพชรที่ทำขึ้นมาใหม่กับเพชรเส้นนั้นในวันงานนั่นเลยแต่ถ้าไม่ได้พ่อก็จะประมูลเพชรนั่นถ้าไม่มีใครมาแข่งราคา แล้วพ่อก็มีแผนสำรองอีกแผนคือพ่ออยากให้ลูกคุยกับผู้จัดการส่วนตัวเรื่องขอสมัครเป็นนางแบบคนล่าสุดของร้านมิราเคิล เจ็มที่อยู่ในเครือของเจมส์ ไดมอนด์ที่กำลังถือกรรมสิทธิ์ครอบครองเพชรเลิฟไดมอนด์อยู่ หากเราประมูลไม่สำเร็จเรายังมีทางเข้าถึงเพชรได้”
ถ้าเป็นเมื่อเดือนสองเดือนก่อนสิ่งที่บิดาบอกอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับ พิจิกาแต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้หล่อนถูกเลือกให้เป็นนางแบบระดับท็อปเท็นของโลกในรอบปีนี้ด้วยรูปร่างหน้าตางดงามอันเกิดจากส่วนผสมที่มาจากหลายๆ เชื้อชาติทั้งทางฝั่งมารดาที่เป็นลูกครึ่งชาร์จา-ไทยบิดาเป็นลูกครึ่งชาร์จา-อเมริกัน วงหน้าที่คมคายดวงตากลมโตหวานซึ้งมีกรอบขนตาหนารับกับคิ้วโก่งตามธรรมชาติ จมูกโด่งสวยได้รูปราวกับปั้นแต่งด้วยประติมากรมือเอก เรียวปากบางเฉียบสีชมพูเข้มเป็นธรรมชาติบนสีผิวสีน้ำผึ้งอ่อนนวลเนียนเป็นสีเดียวกันทั้งตัวทำให้สีผิวหล่อนดูมีสุขภาพจนได้งานพรีเซนเตอร์เครื่องสำอางแบรนด์ท็อปไฟว์ของโลกแบรนด์หนึ่งโดยไม่ต้องแก่งแย่งกับใคร
