บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 : ความลับไม่มีในโลก

บทที่ 9

วันนี้วันจันทร์ ซึ่งผมไม่มีสมาธิเรียนภาษาอังกฤษคาบของอาจารย์มาร์กสุดหล่อเลยสักนิด และหลายคนอาจจะสงสัยด้วยว่าวันเสาร์งานดาวเดือนไม่ใช่เหรอ แล้วผลเป็นยังไง ได้ที่เท่าไหร่ อะไรยังไง ผมจะขอพูดอย่างไม่อายเลยครับ...

สถาปัตย์หลักไม่ได้สักรางวัลเดียว

ไอ้ห่าเอ๊ย ทีตอนขึ้นโชว์เสร็จนะตบมือให้กูเกรียว แต่ผลโหวตออกมา...จ้ะ แพ้สถาปัตย์ไทยกับออกแบบผลิตภัณฑ์ราบคาบเลย อย่างว่าแหละโชว์เขาดี ตอบคำถามเป็น ไอ้ผมก็อุตส่าห์ซ้อมแทบตาย ดีดกีตาร์จนนิ้วล็อก ดันไม่ได้สักรางวัลมาปลอบใจเลย

แล้วที่วันนี้ผมไม่มีสมาธิเรียนเลยก็เพราะว่า...

ผมยังไม่เห็นอาจารย์ปราชญ์เดินว่อนอยู่ในคณะเลยครับ ที่ห้องก็ไม่เห็น ซึ่งมันผิดวิสัยคนอย่างเขาที่ชอบเดินไปประชุมนั่นนี่ชะมัด

“ดูเหม่อ ๆ นะมึงอะ เป็นห่าไร” เมื่อคาบอังกฤษหมดไป แม็กก็สะพายเป้สีเทาของมันเดินมาทางผม

“จะเป็นอะไรอีก ก็..”

“เฮ่ย”

กูจะเกลียดมึงก็วันนี้แหละฝุ่น บอกแล้วไงว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรกับไอ้แม็กมันมาก ผมไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้มากกว่าสองคนขึ้นไปซึ่งรวมผมด้วย แล้วพอผมหันไปแยกเขี้ยวใส่ฝุ่น ไอ้แม็กงี้หันมามองผมผ่านแว่นกรอบหนาของมันด้วยสายตาเหมือนมีความนัย

“ความลับเหรอ”

“เปล่า”

“ท็อปซีเคร็ตเลยปะ”

“อ้าวไอ้นี่”

“ใช่สิ กูไม่ใช่อาจารย์ปราชญ์นี่”

เชี่ย...

เมื่อกี้มันพูดว่าไงนะ เมื่อกี้มันพูดชื่อใครออกมานะ!

ผมงี้ถึงกับหันไปมองไอ้ฝุ่นแบบจ้องจะแดกหัวมัน แต่มันดันส่ายหน้าลูกเดียว “โน ๆ ๆ”

“พวกมึงสองคนนี่ เก่งมากนักเหรอปิดบังกูได้อะ” พอเริ่มไม่มีใครอยู่ในห้องเหลือแต่พวกผมสามหน่อ ไอ้แม็กก็เริ่มเฉลยทุกอย่างให้ผมฟัง “บอร์น สายตาที่มึงมองอาจารย์ปราชญ์นะ กูมองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่สายตาของลูกศิษย์ที่จะมองอาจารย์แน่ ๆ”

ผมนี่หดเหลือตัวนิดเดียวเลยครับ ก้มหน้ารับผิดสถานเดียว ถามว่าผิดอะไร ผิดที่ผมตั้งใจปิดบังมันไง

“นี่กูโกรธนะเว้ยที่มีอะไรไม่ยอมบอกกูอะ”

“แล้วไมมึงรู้อะ” ผมก็ยังคงงอแงใส่ไอ้คนที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม

“อ้าว ก็บอกแล้วว่าสายตามึ...”

“ไม่ใช่ กูหมายถึงว่ามึงดูออกได้ไงว่าสายตากูเป็นยังไง”

สิ้นเสียงผม ไอ้แม็กมันไม่ได้ตอบผมทันที แต่มันหลบตาผมไปเล็กน้อยจนผมแอบคิดในแง่ลบไม่ได้เลยว่าไอ้นี่...อาจจะกำลังคิดกับอาจารย์ปราชญ์เหมือนผมหรือเปล่า

“กูเคยมองคนที่กูชอบด้วยสายตาแบบมึงอะ พอกูเห็นมึงนะ เหมือนกูเห็นตัวเอง”

“เชี่ย ใครวะ ไหนมึงเล่า!” โหมดเปลี่ยนไวกะทันหัน ปกติผมไม่ใช่คนขี้เสือกอะไร แต่ไอ้ฝุ่นนี่แหละ แทบจะกระโดดข้ามหัวผมไปเกาะแขนไอ้แม็ก

“มึงไม่รู้จักหรอก ไม่อยากรื้อฟื้นด้วย” แม็กก้มหน้าลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายักคิ้วให้อีกครั้ง “ไปส่งงานได้แล้วมึงอะ วันนี้วันสุดท้ายไม่ใช่?”

“ไปมาแล้ว อาจารย์ไม่อยู่” เศร้าเลย มีแต่อาจารย์โอบคนหน้าเด็กและแต่งตัวมินิมอลที่สุดในบรรดาอาจารย์ทั้งหลายนั่งอยู่แค่นั้น

“มึงไปตอนไหนมาอะ”

“เมื่อกลางวัน”

“ป่านนี้กลับมาแล้วมั้ง...ไม่ส่ง เอฟนะเว้ย”

อาจารย์นะอาจารย์ แค่ไม่เห็นอาจารย์เดินอยู่ในคณะ ผมก็ไม่มีกะจิตกะใจมาเรียนอยู่แล้ว นี่ถ้าส่งงานช้ามีเอฟอีก ประเด็นคือต้องส่งกับตัวเขาเท่านั้นไง ไม่มีมาหย่อนใส่กล่องหรือวางไว้บนโต๊ะเหมือนอาจารย์ท่านอื่นด้วยนะ

“อาจารย์ก็อยู่นี่มึง” เมื่อเดินมาถึงห้องพักอาจารย์ แม็กก็ใช้มือป้องตามองเข้าไปข้างในผ่านประตูกระจกติดฟิล์มดำ “ไม่สบายปะวะ”

“ฮะ?”

“ฮั่นแน่ เป็นห่วงอีก” เชี่ยฝุ่นนี่ ใช่เวลามาเล่นไหม “เขาใส่แมสก์อยู่อะ สงสัยเป็นหวัดแน่เลย”

นี่ไม่ใช่ว่าทำงานหนักนอนคณะจนไม่สบายไปหรอกนะ

“มึงเข้าไปส่งเถอะไป เดี๋ยวกูรออยู่ข้างนอก ไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอ” ผมขอโดดเตะเพศแม่สักทีจะเป็นไรไหม เห็นท่าทางไหวไหล่ของมันแล้วคันไม้คันมือขึ้นมาจริง ๆ

ผมไม่ได้สนใจท่าทีของไอ้สองคนนี้ที่แซวกันกิ้ว ๆ ได้แต่เดินเข้าไปในห้องพักอาจารย์ที่เหมือนจะเหลือแค่อาจารย์ปราชญ์กับอาจารย์โอบแค่สองคน

สองคนนี้ไมเขาสนิทกันจังวะ กูเห็นอยู่ด้วยกันมาตั้งนานแล้วนะ หรือเขาจะกิ๊กกันระหว่างอาจารย์กับอาจารย์

เฮ้ย เป็นไปไม่ได้ อาจารย์ปราชญ์บ้างานจะตายใครก็รู้ ไม่มีเวลาไปดูแลใครหรือสนใจใครหรอก

เอ๊ะ แต่เขาเป็นอาจารย์ภาคเดียวกันไง ถ้าเขาจะเจอหน้ากันบ่อย ๆ จนสนิทกันก็คงไม่แปลกอะไรหรอก แต่เอ๊ะ หรือที่อาจารย์ปราชญ์บอกว่ามานอนคณะบ่อย ๆ คือมานอนกับอาจารย์โอบเหรอ

ไม่นะโว้ย!

“ส่งงานเหรอบอร์น”

“เอ่อ...ครับ” ข้างในนี่ตีอกชกใจจนจะระเบิด พอได้ยินเสียงอาจารย์ปราชญ์ที่ลอดผ่านผ้าปิดปากสีฟ้าอ่อนเข้าหน่อย ผมก็ทำได้แค่เก็บอาการอยู่เงียบ ๆ ไปก่อน

“เหลือคนเดียวแล้วเนี่ย” ผมนั่งคุกเข่าข้าง ๆ โต๊ะอาจารย์รอฟังคำพิพากษา ซึ่งมันเป็นอย่างนี้ทุกสัปดาห์ที่เอางานมาส่ง

ไม่เคยส่งงานแล้วทีเดียวผ่านเลยนะ ฮือ

“อาจารย์ไม่สบายเหรอครับ”

“...........”

เขาเมินผมอะ เสียใจว่ะ เอาแต่จ้องแปลนบ้านที่ผมเขียนมาส่งตาไม่กะพริบตาเลย แล้วก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมา ปากกาหมึกซึมสีน้ำเงินก็วงคะแนนตัวใหญ่ ๆ ไว้บนชิ้นงานของผม

C

ไอ้เหี้ยเอ๊ย อุตส่าห์อดตาหลับขับตานอนนั่งดราฟต์นั่งเขียนนั่งทางในถึงจินตนาการบ้านอันแสนสวยพร้อมพื้นที่ใช้สอย แล้วดูเศษคะแนนที่ได้สิครับ เอาปากกาอาจารย์มาแทงคอผมให้ตายเลยดีกว่า

ฆ่าผมสิ ฆ่าผ้มมมม

“บอกให้ไปแก้ แก้มาแค่ประตูเนี่ยนะ”

“อ้าว...” จะให้แก้ผ้าด้วยไหมล่ะครับ “พื้นที่มีน้อยใช้สอยประหยัด ถ้าทางเข้ากว้างกว่านี้มันก็ไปกินที่คนอื่นเขาสิครับ...เนี่ย อาจารย์บอกว่าไปหาจุดที่มันแก้ได้ ผมก็แก้ทางเข้าที่ก่อนหน้านี้มันกว้างไป ผมทำผิดที่อาจารย์บอกตรงไหน”

“ไม่ผิด แต่การจะทำให้พื้นที่น้อยลงหรือมากขึ้นมันขึ้นอยู่กับประตูเหรอ แล้วนี่อะไร บันไดอยู่ฝั่งนี้เปิดประตูเข้ามาคิดเหรอว่าคนใช้เขาจะพอใจน่ะ” อาจารย์ปราชญ์ส่งสายตาแดง ๆ เหมือนคนอดนอนมาทางผม “ถ้าเป็นเกมเดอะซิมส์นะ โน่นแหละ ร้องหาทางเดินแก้แบบกันให้วุ่น”

โอเค เขากำลังดุผมอยู่ แต่ไม่คิดจะฟังเพราะมัวแต่มองใบหน้าที่โผล่พ้นผ้าปิดปาก แค่นั้นผมก็รู้ว่าใบหน้าของอาจารย์ซีดกว่าปกติ

“เอาไว้โจทย์หน้าค่อย ๆ คิดละกัน อาทิตย์ที่ผ่านมาเราก็เหนื่อยกับงานดาวเดือนด้วย” แมวเต็มหน้ากระดาษผมมาสามอาทิตย์ติดแล้ว อาทิตย์หน้าขอเอแอ๊นท์มดบ้างนะครับ

“อาจารย์นอนคณะปะครับวันนี้” ได้ยินแค่นั้นแหละ ถึงกับหันหน้านิ่ง ๆ มึน ๆ มาทางผม

“ไม่อะ วันนี้อยากกลับหอมากเลย แต่งานครูยังไม่เสร็จไง”

“งานอีกแล้ว อาจารย์ทำงานเยอะเลยเป็นแบบนี้ไง...ว่าแต่ผมว่าดูออกงั้นงี้ว่าคนอดนอนเป็นยังไง อาจารย์ก็พอกันแหละ”

“บ่นอะไรเนี่ย กลับหอได้แล้ว...เอ้อ พี่โอบ” นั่น เหมือนเขารู้ว่าผมไม่ชอบให้เขาเรียกอาจารย์โอบสุดน่ารักแห่งสถาปัตย์หลัก ก็ยังเรียกอยู่ได้ แล้วดูอาจารย์รุ่นพี่เขาหันมายิ้มนะ โห โลกแม่งมีฟิลเตอร์ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์สุด “คาบสเก็ตช์อะ สั่งงานให้เด็กทำเยอะ ๆ เลยนะครับ จะได้ไม่มีเวลามาบ่นกัน”

“ไม่เอาคร้าบ...” อย่าฆ่ากันทางอ้อมแบบนี้เลย แค่นี้ผมก็เหมือนจะต้องโต้รุ่งกันอยู่แล้ว “งั้นผมไปก่อนนะครับ...อาทิตย์หน้าให้เอผมด้วยนะ”

“เอางานคุณภาพมาแลกสิครับคุณบอร์น ถ้าบอกให้แก้แล้วยังดื้อก็นั่นแหละ...แค่ก ๆ ๆ” ผมว่าผมควรไปจริง ๆ ได้แล้ว เพราะหลังจากที่อาจารย์ปราชญ์พูดหนัก ๆ เข้า มักจะมีเสียงไอทิ้งท้ายทุกรอบ

“ไปแล้วฮะ หวัดดีครับ”

ถึงผมจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับอาจารย์โอบนิดหน่อย (โทษฐานอยู่กับอาจารย์ปราชญ์มากเกินไป) แต่ยังไงเขาก็เป็นอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิทยายุทธ์การสเก็ตช์ภาพให้ผม

“บอร์น...”

“ครับ?” ในขณะที่ผมกำลังจะผลักประตูกระจกออกไป อาจารย์ปราชญ์ก็ดึงแมสก์ลงมาก่อนจะเผยให้เห็นใบหน้าที่อิดโรยแบบชัดเจน

“แผลที่นิ้วหายหรือยัง”

“อ๋อ...” อึ้งไปพักหนึ่ง แต่ผมก็ยกมือซ้ายขึ้นมาโชว์ให้เขาเห็น “หายแล้วครับ...ขอบคุณนะครับอาจารย์”

รีบออกมาดีกว่า เพราะดูเหมือนจะทนอยู่ในห้องพักอาจารย์ที่เงียบเชียบแบบนี้ไม่ไหวแล้ว

เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะตอนนี้ผมดันได้ยินเสียงหัวใจตัวเองมันดังก้องไปหมดแล้วไง

อาการตัวเองก็หนักขนาดนั้น แล้วยังจะมาห่วงสภาพนิ้วของผมอีกเหรอเนี่ย

???

วันต่อมา

วันอังคารแล้วโว้ย วันนี้มีเรียนของอาจารย์ปราชญ์แต่เช้า แล้วคนที่ชัดเจนกับความรู้สึกตัวเองอย่างผมเนี่ย ก็แหกตาตื่นมาตั้งแต่หกโมงครึ่ง ทั้ง ๆ ที่กว่าคลาสจะเริ่มก็โน่นแหละ เก้าโมง บ้าปะ ออกจากหอตั้งแต่เจ็ดโมงเพื่ออะไรอะ เช้าไปก็ไม่ได้หมายความว่าอาจารย์เขาจะไปมอแต่เช้าสักหน่อย

เอ แต่พอมีเวลาอยู่ ดอดไปหออาจารย์ปราชญ์ไปยืนอยู่หน้าหอให้มีกำลังใจในการเรียนหน่อยดีกว่า

เหมือนผมเป็นโรคจิตยังไงก็ไม่รู้ เหมือนสโตกเกอร์ตามติดชีวิตคนหนุ่มแปลก ๆ แล้วซอยหออาจารย์ก็อยู่ถัดจากซอยผมไปอีก

ไม่เป็นไร ความสุข

หือ?

เชี่ยเอ๊ยหลบไม่ทัน ผมยังไม่ทันได้เดินเข้าซอยหอพักคนทำงานด้วยซ้ำ อาจารย์ปราชญ์ก็เดินออกมาพอดี ไอ้ผมที่ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงหรือแม้แต่จะวิ่งหนีก็ทำไม่ได้ก็ทำได้แค่ยืนนิ่ง ๆ และนึกได้ว่าเป็นนักศึกษาที่ดีเลยยกมือไหว้เขาไปหนึ่งที

“มาทำไรเนี่ย”

“เอ่อ...” กูว่าแล้วต้องเจอคำถามแบบนี้ “มา...เอ่อ...มาแฟมิลี่มาร์ตครับ”

ผมว่าเขาต้องคิดแน่ ๆ เลยว่ะ ‘เซเว่นหน้าหอมึงก็มี เดินย้อนมาทำไมตั้งไกล’

แต่เปล่าเลย คนข้างหน้าที่ยืนห่างกันประมาณสองเมตร เขาไม่ได้มีท่าทีสงสัยอะไร มีเพียงการพยักหน้าช้า ๆ กับใบหน้าซีด ๆ ที่ใครมองแล้วก็รู้เลยว่าวันนี้อาจารย์ปราชญ์ไม่ปกติแน่ ๆ

“ยังไม่หายเหรอครับ” ผมเดินเข้าไปใกล้คนตัวสูงมากกว่าเดิม ก่อนจะสำรวจร่างกายของเขาที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงขายาวธรรมดาและผมก็เชื่อว่าอาจารย์ปราชญ์คงไม่ได้ออกไปสอนทั้งสภาพนี้แน่

“อืม ครูว่าวันนี้จะยกคลาส เจอเราพอดีเลย...ฝากบอกเพื่อนทีได้ไหม”

“ดะ...ได้ครับ” รู้สึกเหมือนกำลังผิดหวังเลยแฮะ “เอ่อ...แล้วอาจารย์จะไปไหนเหรอครับ ไม่สบายไม่ใช่เหรอ”

“ครูจะออกมาซื้อยา แต่ร้านขายยาหน้าหอครูมันยังไม่เปิดเลยว่าจะมาหาที่แฟมิลี่มาร์ตหน่อย”

“เดี๋ยวผมไปซื้อให้ อาจารย์ไปรอที่หอก็ได้”

“เฮ้ย...ไม่เป็นไร”

“อย่าปฏิเสธเลยครับ” ยอมรับว่าทำเกินหน้าที่นักศึกษาจริง ๆ นั่นแหละ “เดินยังจะไม่ไหวอยู่แล้วอะ...นะ กลับไปก่อน แป๊บเดียว ผมจะกลับมาพร้อมยาทั้งเซ็ต...อาจารย์เดินไหวไหม เดี๋ยวผมเดินไปส่งอาจารย์ที่หอก่อนก็ได้...”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวครูไปรอใต้หอ”

โอเค ยอม ผมคงเล่นใหญ่เกินไป “โอเคครับ”

“รีบกลับมานะ”

“ครับผม”

อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องผิดหวังไปเสียทีเดียวที่อาจารย์มายกเลิกคลาสกลางคัน แต่การที่อาจารย์มาป่วยแบบนี้ มันก็ทำให้ผมได้ใกล้ชิดกับอาจารย์มากขึ้น แต่แน่นอนแหละว่าถ้าให้เลือกระหว่างได้ใกล้ชิดกับเขากับไม่ให้เขาป่วย ผมขอเลือกอย่างหลังดีกว่า

“มาแล้วครับ” ผมเปิดประตูรั้วหอเข้าไปก็เห็นคนที่เพลียเพราะพิษไข้ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาจากการฟุบหลังที่โต๊ะหินอ่อน “ผมบอกเพื่อนในไลน์กลุ่มไปแล้วนะครับ...แล้วก็นี่ ผมแวะซื้อโจ๊กด้วย เดี๋ยวอาจารย์กินข้าวแล้วก็กินยานะ”

“ไม่กินอะไรแล้วได้ไหม”

“ไม่ได้ดิ ยากัดกระเพาะขึ้นมาจะทำไงอะ”

“ครูอยากนอนไม่ไหวแล้ว”

“อาจารย์...” ทนไม่ได้จริง ๆ ที่เห็นคนข้างหน้าผมยกมือขึ้นลูบหน้า ดวงตาเริ่มแดงเพราะพิษไข้ “วันนี้ให้ผมอยู่ดูแลอาจารย์ได้ไหมครับ”

“............”

ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป แต่ผมไม่ชอบเลยถ้าจะทำได้แค่แวะมาดูและซื้อยาให้ ไม่รู้ว่าลับหลังอาการเขาจะเป็นยังไง แล้วไม่รู้ว่าไข้เริ่มสูงตั้งแต่ตอนไหน ถ้าอาการเขาเริ่มหนักขึ้นกว่าเดิมแล้วไม่มีใครเห็น ใครจะดูแล

“คือ...ไหน ๆ ก็ไม่ได้ไปเรียนแล้ว ตอนบ่ายก็ไม่มีอะไร ถ้าอาจารย์ไม่ว่าอะไร...”

“หึ...” ผมเงยหน้าขึ้นมามองอาจารย์ที่กำลังหลับตายกยิ้มอยู่ “ขี้เป็นห่วงเหมือนกันนะเราเนี่ย”

เอ๊า

“เห็นตั้งแต่ก่อนวันดาวเดือนแล้ว” ได้ยินแบบนี้แล้วกลับทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กำถุงยาในมือแน่น “ไปสิ แต่อาจจะเหงาหน่อยนะ เพราะครูคงนอนทั้งวัน”

“เดี๋ยวผมนอนด้วย”

“จุดประสงค์หลักคือย้ายที่นอนใช่ไหมฮะ”

“โธ่อาจารย์ รู้ทันเด็กอีกละ”

ไม่มีอะไรออกมาจากปากคนโตกว่า จะมีก็แต่รอยยิ้มบาง ๆ ที่น่ามอง และถึงใบหน้าเขาจะดูอิดโรยยังไง ความน่ามองของอาจารย์ก็ไม่ได้ลดลงไปเลย

ไลน์กลุ่ม สถ.5X

BORN

จารย์ปราชญ์บอกวันนี้ยกคลาสนะ

ไม่สบาย

TaEang

(สติกเกอร์โอเค)

Belly

(สติกเกอร์ขอบคุณ)

MewMeW

(สติกเกอร์ร้องไห้)

THA

(สติกเกอร์ตกใจ)

ตือดึ้ง!

ไลน์กลุ่ม MBF

MAC

อาจารย์ไม่สบายเหรอบอร์น

FOON

มึงรู้ได้ไง

BORN

กูเจออาจารย์

MAC

วันไหน

วันนี้เหรอ

BORN

อือ เมื่อกี้อะ

FOON

ที่ไหน

BORN

หน้าหอเขาอะ

กูไปละมึง อาจารย์ต้องกินยา

MAC

เชรดเข้

FOON

เหยดแหม่มมมม

มึงอยู่กับอาจารย์เหรอออออ

ตือดึ้ง!

ตือดึ้ง!

ตือดึ้ง!

ตือดึ้ง!

ไอ้พวกบ้าเอ๊ย ปิดเสียงแม่ง!

TBC

ขอโทษที่มาช้าค่าาา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel