บทที่ 8 เริ่มต้นชีวิตใหม่
บทที่ 8 เริ่มต้นชีวิตใหม่
อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาจากโลกอนาคต หรืออาจจะเป็นเพราะสวรรค์เมตตา... ชายหนุ่มรูปงามที่บิดาอุ้มมาก็ยังคงหลับใหลไม่ได้สติ เจ้าอ้วนน้อยหลิวรั่วซีถอนหายใจอย่างโล่งอก (หรืออย่างน้อยก็แสร้งทำเป็นโล่งอก) ก่อนจะหันไปสำรวจอาณาจักรส่วนตัว...ห้องคับแคบและรกราวกับรังหนูของนาง!
"ให้ตายเถอะ!" นางอุทานเสียงหลง กวาดสายตาไปทั่วห้องที่แทบไม่มีพื้นที่ให้วางเท้า
"นี่ข้าเคยใช้ชีวิตอยู่ในรังหนูแบบนี้จริง ๆ รึนี่ เจ้าอ้วนเจ้าก็ไม่รู้จักรักษาความสะอาดเลยนะ?" นางบ่นพึมพำพลางมองไปทั่วห้อง พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกระจกทองเหลืองบานเล็กวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งผุๆ ข้างกันมีตลับชาดสีแดงสดและตลับเล็กๆ คล้ายลิปสติกโบราณวางกองเกลื่อนกลาด พลางคิดว่าแม้จะยากจนขนาดนี้นางยังมีกระจกทองเหลืองเลยนะ ไหนจะเครื่องสำอางค์เหล่านี้อีกซึ่งถือได้ว่าเป็นของสิ้นเปลื้องก็ว่าได้ แสดงว่าที่บ้านตามใจนางมากแน่ๆ เจ้าอ้วนค่อยๆ ลุกจากเตียง (อย่างทุลักทุเล) เดินโต๋เต๋ ไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง คว้ากระจกทองเหลืองขึ้นมาส่อง
ทันทีที่เห็นภาพในกระจกทำเอาเจ้าอ้วนแทบทรุด! ใบหน้ากลมดิ๊กราวกับพระจันทร์วันเพ็ญ แก้มยุ้ยเป็นกระติกน้ำสองข้าง คางเป็นชั้นๆ ราวกับซาลาเปา แววตาเลื่อนลอยไร้ประกาย... นี่มันสภาพอันใดกัน! ใบหน้าเรียวเล็กแสนสวยทรงเสน่ห์ของนางถูกใบหน้าอ้วนกลมทำลายหมดแล้ว….
นางก้มลงมองสำรวจร่างอวบอ้วนของตัวเองอีกครั้ง ตั้งแต่หัวจรด..... โอ้สวรรค์! แขนกลมเป็นปล้องอ้อย เอว... เอวที่หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ไม่ต้องพูดถึงขาและปลายเท้าเพราะนางมองไม่เห็น แต่จากสภาพของพุงที่ยื่นออกมามากมายเช่นนี้สภาพขาที่เคยเรียวงามของนางในยุคปัจจุบันนั้น….นั้น!!!
"กรี๊ดดดด!"
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นห้อง กระจกในมือแทบจะหลุดร่วง
"นี่มันร่างของข้าจริง ๆ รึนี่? หรือว่าข้ากำลังอยู่ในร่างหมูตอน เจ้าอ้วนเหตุใดถึงได้ทำให้ร่างของพวกเราเป็นแบบนี้!"
บ่นพึมพำกับตัวเองอย่างขมขื่น ก่อนที่ท้องเจ้ากรรมจะร้องประท้วงเสียงดัง
"โครกกกกก!"
"รั่วซี! ลูกรัก! ลูกเป็นอะไร! เกิดอะไรขึ้น!"
เสียงบิดาตะโกนลั่นมาจากนอกเรือน พร้อมเสียงฝีเท้าหนักๆ วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาใกล้
ไม่นานประตูก็เปิด…ปัง! ปรากฏร่างกำยำล่ำสันของหลิวจิ้งหลง บิดาผู้แสนดีที่รักลูกสาวอย่างไม่ลืมหูลืมตา ยืนหอบแฮ่กๆ หน้าตาตื่นตระหนก ตามด้วยร่างสูงโปร่งของพี่ใหญ่หลิวจิ้งอวิ่น และเจ้าตัวเล็กหลิวจิ้งคง ที่วิ่งหางตั้งตามพี่ใหญ่และท่านพ่อมา เพราะได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนของพี่รอง จากนั้นโผล่หน้าเข้ามามองด้วยความเป็นห่วง
หลิวรั่วซีมองไปที่ประตูและสมองก็ประมวลผลทันทีทำให้ทราบว่าผู้ที่ยืนมองนางที่หน้าประตูและส่งสายตาด้วยความเป็นห่วงนั้นเป็นใครบ้าน…ท่านพ่อ พี่ใหญ่ เจ้าเล็ก..ครอบครัวของนาง
"ท่านพ่อ..." หลิวรั่วซีเรียกเสียงแผ่ว มองหน้าบิดาด้วยสายตาละห้อย
"เออ คือ..คือว่าข้ารู้สึกหิวเจ้าคะ มันหิวมากจนข้าทนไม่ไหวเลย…เลยร้องออกมา"
สิ้นคำ หลิวจิ้งเฟิงก็ถึงกับทรุดฮวบ! ด้วยความโล่งอก
"โถ่เอ่ย! พ่อก็นึกว่าลูกเป็นอะไร ที่แท้ก็แค่หิวนี่เอง! พ่อใจหายใจคว่ำหมด!"
พี่ใหญ่กับเจ้าเล็กก็พยักหน้ารัวๆ ประมาณว่าพวกเขาก็ใจหายเช่นกัน หลิวรั่วซีมองดูสภาพของสามพ่อลูกที่ต่างก็อยู่ในสภาพเสื้อผ้าเก่า และมีรอยปะหลายแห่ง ไหนจะผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงนั้น บ่งบอกถึงความยากลำบากของชีวิตได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเจ้าเล็กที่ผอมแห้งหัวโตและสู่ไม่ถึงหน้าอีกพี่ใหญ่ด้วยซ้ำ
"ท่านพ่อ..." หลิวรั่วซีเรียกอีกครั้ง เสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอเบ้า
"ข้า..ข้าขอโทษ"
"ขอโทษ? ขอโทษเรื่องอะไรลูกรัก?"
หลิวจิ้งหลงงงเป็นไก่ตาแตก ลูกสาวสุดที่รักของเขาไม่เคยพูดจาอ่อนหวานแบบนี้มาก่อน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
"ข้าขอโทษ... ที่ทำให้ท่านพ่อและพี่น้องต้องลำบาก" หลิวรั่วซีพูดเสียงเครือ
"ข้ารู้ว่าพวกท่านรักข้ามาก... แต่ข้าไม่อยากให้พวกท่านต้องลำบากเพราะข้าอีกต่อไปแล้ว"
สามพ่อลูกถึงกับอึ้ง! มองหน้ากันเลิ่กลั่ก นี่มัน... หลิวรั่วซีคนเดิมจริง ๆ รึนี่? หรือว่าวิญญาณโดนสับเปลี่ยน! หรือว่านางดีใจมากที่จะได้แต่งงานถึงได้พยายามจะเปลี่ยนนิสัยกันนะ แต่เปลี่ยนแปลงไวแบบนี้มัน..มันค่อนข้างจะน่ากลัวอยู่นะ สามพ่อลูกส่งสายตาหากัน
"ลูกรัก .." หลิวจิ้งหลงเรียกเสียงแผ่ว เดินเข้ามาประคองลูกสาวสุดที่รักไว้ในอ้อมกอด ถึงแม้จะกอดไม่รอบก็เถอะ "เจ้าพูดอะไรของเจ้ากัน? พวกเรารักเจ้า... พวกเราเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อเจ้า…เจ้าคือน้ำค้างบริสุทธิ์กลางฝ่ามือที่พ่อต้องถนอมอยู่แล้วเจ้าไม่ต้องคิดมากนะ" พูดเสร็จก็ยกมือหยาบกร้านของตัวเองลูบผมยุ่งๆ ของบุตรสาว
"แต่ว่า..." หลิวรั่วซีสะอื้น
"ข้าไม่อยากเป็นภาระของพวกท่านอีกแล้ว ข้าอยาก... ข้าอยากผอม! ข้าอยากสวย! ข้าอยาก... อยากช่วยพวกท่าน!"
"ผอม? สวย?" หลิวจิ้งหลงยิ่งงงหนักกว่าเดิม ลูกสาวเขาสวยที่สุดในสายตาเขาอยู่แล้ว อ้วนท้วนสมบูรณ์น่ารักจะตายไป ดูแก้มเป็นพวงนั้นซิ น่ารัก…
"ลูกรัก.. ลูกไม่ต้องคิดมากนะ เจ้าจะอ้วนจะผอม พ่อก็รักเจ้าเหมือนเดิม"
"ใช่ๆ! พี่รองอ้วนๆ น่ารักจะตายไป!" เจ้าตัวเล็กหลิวจิ้งคงรีบเสริมทันทีพลางพยักแรง ราวกับไก่จิกข้าวสารเห็นด้วยกับท่านพ่อเต็มสิบส่วน
"ใครว่าพี่รองอ้วน ข้าจะไปกัดหูมันเลย!"
พี่ใหญ่หลิวจิ้งอวิ่นไม่ได้พูดอะไร แต่เขานั้นรู้ดีว่าทั้งหมู่บ้านว่าเจ้ารองอ้วน…แบบนี้เจ้าจิ้งคงจะกัดหูพวกเขาทั้งหมดไหวหรือเปล่านะ…จากนั้นเขาก็สั่นศีรษะไล่ความคิดเล็กน้อย พร้อมส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ หลิวรั่วซีมองหน้าครอบครัวที่แสนดีของนาง น้ำตาก็ยิ่งไหลพราก
"ท่านพ่อ... พี่ใหญ่... จิ้งคง..." นางเรียกชื่อทีละคน เสียงสั่นเครือ
"ข้ารักพวกท่าน... ข้ารักพวกท่านที่สุดเลย"
สามพ่อลูกถึงกับน้ำตาซึมตามไปด้วย บรรยากาศในเรือนหลังเล็กๆ อบอวลไปด้วยความรักความผูกพัน แม้จะยากจน แม้จะถูกคนอื่นมองว่าเป็นอันธพาล แต่พวกเขาก็มีสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิตคือความรักของครอบครัว
หลังจากซึ้งกันพอประมาณ และเจ้าอ้วนน้อยก็ร้องไห้จนน้ำมูกโป่ง (เพราะตอนที่ร้องนั้นเป็นความรู้สึกของเจ้าอ้วนไม่ใช่หมอหลิว) หลิวจิ้งหลงก็เช็ดน้ำตาให้ลูกสาวสุดที่รัก แล้วประกาศเสียงดัง
"เอาล่ะ! ในเมื่อคุณหนูรั่วซีของเราหิวแล้ว ก็ไปกินข้าวกันได้แล้ววันนี้พ่อจัดเต็ม มีทั้งไก่ตุ๋น ปลาย่างเกลือ ข้าวขาวหอมๆ .. รับรองว่าลูกกินแล้วต้องหายหิวเป็นปลิดทิ้ง!"
สิ้นคำสี่พ่อลูกก็พากันเดินไปที่โต๊ะอาหาร หลิวจิ้งคงก็รีบวิ่งไปยกสำรับอาหารเข้ามาวางเต็มโต๊ะ หลิวรั่วซีมองอาหารตรงหน้าด้วยสายตาซึ้งๆ ในใจก็คิดว่า
"นี่มันอาหารคนจนที่ไหนกัน ไก่ตุ๋นทั้งตัว ปลาย่างเกลือตัวเบ้อเริ่ม (พอกเกลือจนเกลือไม่เห็นเนื้อปลาเพราะว่านางอยากให้ใส่เกลือเยอะๆ) ข้าวขาวอีกกองโต... นี่มันงานเลี้ยงชัดๆ!"
แต่สิ่งที่ทำให้นางน้ำตาคลอเบ้ายิ่งกว่าเดิม คือชามข้าวของนาง... มันใหญ่กว่าชามของคนอื่น ๆ ในบ้านถึงสามเท่า! น่องไก่ชิ้นโตสองน่องวางเด่นเป็นสง่าอยู่ในชามของนาง ในขณะที่คนอื่น ๆ ได้แค่ชิ้นส่วนเล็ก ๆ ติดกระดูก
"ท่านพ่อ... นี่มัน...กะละมังข้าวของข้าเช่นนั้นรึ!! " หลิวรั่วซีอ้ำอึ้ง พูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร
"กินเถอะลูกรัก กินให้อิ่ม กินให้หายอยากสำหรับพ่อแล้ว ลูกรักของพ่อคือลูกสาวที่ดีที่สุดงดงามที่สุด น่ารักที่สุดในใต้หล้านี้ ไม่มีใครเทียมได้!"
พูดเสร็จก็ยกกำปั้นขึ้นฟ้าเป็นการยืนยันว่าลูกตัวเองงามที่สุด ดีที่สุดในแบบของตระกูลหลิว
หลิวรั่วซีมองหน้าพ่อ มองหน้าน้อง มองหน้าพี่ชาย... มองความรักที่พวกเขามอบให้ความรักที่มากเกินกว่าที่นางจะคู่ควร... ความรักที่ทำให้พวกเขายอมอดมื้อกินมื้อ เพื่อให้นางได้อิ่มท้อง... ความรักที่ทำให้พวกเขาต้องถูกคนอื่นมองว่าเป็นครอบครัวอันธพาล...
"ท่านพ่อ... พี่ใหญ่...เจ้าเล็ก..."
หลิวรั่วซีเรียกชื่อคนในครอบครัวทีละคน
"ข้าสัญญา...สัญญาว่าจะไม่ทำให้พวกท่านต้องลำบากอีกต่อไปแล้ว ข้าจะ...ข้าจะเป็นคนใหม่ข้าจะผอม ข้าจะสวย (กว่าเดิมอีกนิด) ! ข้าจะเก่งข้าจะดูแลพวกท่านเอง!"
พูดเสร็จก็ยกกำปั้นอ้วนขึ้นฟ้าในท่าที่ชอบทำประจำ ที่เป็นท่าเดียวกับท่านพ่อโดยไม่รู้ตัว..
สามพ่อลูกถึงกับอึ้ง! มองหน้ากันเลิ่กลั่ก อีกครั้ง นี่มัน... หลิวรั่วซีคนเดิมจริงๆ รึนี่? หรือว่าฟ้าผ่าลงมาเปลี่ยนนิสัยลูกสาวเขา!
"ซีเออร์..." หลิวจิ้งหลงเรียกเสียงแผ่ว ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นเรื่องจริงหรือฝันไป
"ลูก... ลูกหมายความว่าอย่างไร?"
"ข้าหมายความว่า..." หลิวรั่วซีลุกขึ้นยืนเชิดหน้าเล็กน้อยอย่างมุ่งมั่น (แม้จะโซเซเล็กน้อยเพราะน้ำหนักตัว)
"ข้าจะไม่กินเยอะอีกต่อไปแล้ว! ข้าจะออกกำลังกาย ข้าจะเรียนรู้การทำมาหากิน ข้าจะ...ข้าจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง!"
"หา!?"
สามพ่อลูกประสานเสียงอุทานพร้อมกัน ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"พี่รองจะ... จะไม่กินเยอะ?" หลิวจิ้งคงทวนคำเสียงตะกุกตะกัก ราวกับว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่สุดในชีวิต
"เป็นไปได้อย่างไร? พี่รองไม่กินเยอะ... โลกคงแตกแน่ๆ!" เขาบ่นพึมพำเบาๆ
"นั่นสิน่ะ..." หลิวจิ้งอวิ่นพยักหน้าเห็นด้วยอย่างช้าๆ มองน้องสาวด้วยสายตาเป็นห่วง
"เจ้ารอง.. น้องไม่สบายตรงไหนรึเปล่า?" พูดเสร็จก็ยกมือขึ้นอังที่หน้าผากนาง ราวกับจะหาว่านางไม่สบายจริงๆ จึงได้พูดจาเพ้อเจ้อแบบนี้
"ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย!" หลิวรั่วซีโวยวายเล็กน้อย แต่ก็อ่อนเสียงลงเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของคนในครอบครัว
"ข้าสบายดี... แต่ข้าแค่... แค่อยากลองเปลี่ยนแปลงตัวเองดูบ้าง"
"เปลี่ยนแปลงตัวเอง?" หลิวจิ้งหลงขมวดคิ้ว
"เปลี่ยนแปลงไปทำไม? ลูกรักของพ่อก็ดีอยู่แล้วนี่นา ลูกพ่อดีที่สุด อ้วนๆ น่ารักน่าเอ็นดูจะตายไป" คงจะมีแต่ท่านพ่อที่รักหลงลูกจนไม่ลืมหูลืมตา
"ไม่น่ารักสักหน่อย ข้าก้มมองปลายเท้าของตัวเองไม่เห็นด้วยซ้ำท่านพ่อ!" หลิวรั่วซีค้านเสียงแข็ง
"ข้าอ้วนเป็นหมู เดินเหินก็ลำบาก แถมยังโดนพวกบ้านอื่นล้อเลียนอีก ที่ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบข้าก็เพราะว่าข้าอ้วนนี่แหละเจ้าค่ะท่านพ่อ!"
"ใครล้อเลียนลูก! บอกพ่อมาเดี๋ยวพ่อจะไปสั่งสอนพวกมันให้เข็ด บังอาจมาว่าลูกรักของข้าได้อย่างไร!"
หลิวจิ้งหลงกำหมัดแน่น หน้าตาเอาเรื่องขึ้นมาทันที ช่างเป็นพวกที่ชอบแก้ปัญหาที่ปลายเหตุของแท้..
"ไม่เอาๆ ท่านพ่ออย่าไปหาเรื่องใครเลย" หลิวรั่วซีรีบห้ามปราม
"ข้าแค่... แค่อยากทำให้ตัวเองดีขึ้นเท่านั้นเอง เพื่อตัวเอง... และเพื่อพวกท่านด้วย"
"เพื่อพวกเรา?" หลิวจิ้งหลงเลิกคิ้วสูง
"ใช่แล้วเจ้าค่ะ"
หลิวรั่วซีพยักหน้าอย่างจริงจัง
"ข้าไม่อยากให้พวกท่านต้องลำบากเพราะข้าอีกต่อไปแล้ว ข้าอยากจะช่วยพวกท่านหาเงิน อยากจะทำให้บ้านของเราดีขึ้นกว่านี้"
"ลูกรัก.." หลิวจิ้งหลงมองหน้าลูกสาวด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งแปลกใจ ตื้นตันใจ และเป็นห่วง
"ลูก... ลูกโตขึ้นจริงๆ แล้วสินะ"
"แน่นอนเจ้าค่ะ! ข้าไม่ใช่เด็กน้อยอันธพาลคนเดิมอีกต่อไปแล้ว!" หลิวรั่วซีประกาศก้อง ดวงตาเป็นประกายแห่งความมุ่งมั่น
"ข้าคือหลิวรั่วซีคนใหม่ และข้าจะทำให้พวกท่านภูมิใจ!"
สามพ่อลูกมองหน้ากันอีกครั้ง คราวนี้ในแววตามีแต่ความเชื่อมั่นและกำลังใจ พวกเขารู้ดีว่าเมื่อหลิวรั่วซีตัดสินใจทำอะไรแล้ว ไม่มีใครสามารถห้ามปรามเธอได้
"เอาล่ะๆ ในเมื่อลูกสาวคนเก่งของพ่อตัดสินใจแล้ว พ่อก็จะสนับสนุนลูกอย่างเต็มที่!" หลิวจิ้งหลงตบเข่าฉาดใหญ่ เสียงดัง
"ลูกอยากทำอะไรก็บอกพ่อมาได้เลย พ่อจะช่วยลูกทุกอย่าง!"
"ใช่! พี่รองอยากทำอะไร บอกข้ามาเลย ข้าจะช่วยพี่รองเอง!" หลิวจิ้งคงรีบอาสา
พี่ใหญ่หลิวจิ้งอวิ่นยังคงเงียบ แต่รอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากก็บ่งบอกว่าเขาก็พร้อมที่จะสนับสนุนน้องสาวคนนี้อย่างเต็มที่เช่นกัน
หลิวรั่วซีมองหน้าครอบครัวที่แสนน่ารักของนางอีกครั้ง หัวใจพองโตด้วยความสุขและความอบอุ่น นางรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งนี้คงไม่ง่าย แต่เมื่อมีครอบครัวที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนอยู่เคียงข้าง นางก็มั่นใจว่านางจะสามารถทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน
"ขอบคุณพวกท่านมากนะเจ้าคะ" หลิวรั่วซีกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงจริงใจ
"จากนี้ไป... ชีวิตของพวกเราจะต้องดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน!"
และในวินาทีนั้นเอง หลิวรั่วซีก็รู้ว่าการเดินทางครั้งใหม่ของนางได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว... การเดินทางสู่ชีวิตใหม่ที่สดใสกว่าเดิม ชีวิตที่นางจะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของตนเอง และสร้างครอบครัวให้มีความสุขอย่างแท้จริง!
****
