บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 การหลอมรวมวิญญาณ

บทที่ 6 การหลอมรวมวิญญาณ

หมอหลิวรั่วซีจากโลกนี้ไปอย่างกะทันหัน ทิ้งไว้เพียงชื่อเสียงความเสียสละและความสามารถที่ไม่มีใครเทียบเคียง ทว่าความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเธอ กลับเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการผจญภัยบทใหม่! เพราะวิญญาณของเธอล่องลอยเข้าสู่มิติแห่งความเวิ้งว้าง สายหมอกบางเบาปกคลุมรอบตัว เธอรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในโลกที่ไม่มีที่สิ้นสุด และทันใดนั้นเอง แสงสีทองเรืองรองก็เปล่งประกายขึ้นมาเบื้องหน้า!

"เจ้ามาสายจริงๆ นะ!" เสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับร่างอ้วนกลมที่ยืนกอดอกจ้องมองเธออยู่หมอหลิวรั่วซีขมวดคิ้ว

"เธอเป็นใคร ทำไมถึงได้มีหน้าตาเหมือนฉัน?" และเธอก็ต้องตกตะลึงเมื่อตรงหน้าของเธอคือหญิงสาวที่หน้าตาคล้ายเธอไม่มีผิดเพี้ยน แต่รูปร่างอ้วนกลมอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่อีกฝ่ายยืนกอดอก แววตาฉายแววไม่พอใจ

“ใครบอกว่าเหมือนข้างดงามกว่าเจ้าถึงหนึ่งส่วน ข้ามั่นใจ”

เจ้าอ้วนพูดเสร็จก็พยักหน้าเบาๆ เพื่อรองรับความคิดของตัวเอง เพราะว่านางนั้นได้ตั้งใจแล้วว่าตัวนางนั้นจะต้องงดงามกว่าหมอหลิวรั่วซี ดังนั้นนางจึงได้ประกาศจุดยืนของตัวเองออกไป

ขณะที่หมอหลิวรั่วซีกำลังงวยงงจากนั้นก็ขมวดคิ้ว รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่คุ้นเคยเหลือเกินในวิญญาณตรงหน้า และแล้วความทรงจำก็ไหลบ่าเข้าสู่จิตใจของเธออย่างรุนแรง ไม่ช้าเธอก็ได้รับรู้ว่าพวกเธอคือดวงวิญญาณเดียวกัน ที่ถูกแยกออกจากกันตัวเธอนั้นเสี้ยววิญญาณได้ถูกดึงมาอยู่ในยุคอนาคตหลายพันปี ส่วนอีกเสี้ยวนั้นคือร่างอ้วนกลมที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอที่เติบโตมาในยุคโบราณนั้นเอง เธอขมวดคิ้วอยู่พักใหญ่จนเมื่อได้รับความทรงจำทั้งหมดของเจ้าอ้วนที่หน้าตาเหมือนเธอ จากนั้นเธอจึงได้เอ่ยออกมาเบาๆ

“ฉันคือเธออย่างนั้นรึ? เป็นไปได้อย่างไรกัน พวกเราเป็นเสี้ยววิญญาณกันเช่นนั้นรึนี่” หมอหลิวพึมพำ

“แน่นอนสิ! ข้าเองก็เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าเช่นกัน! แต่เป็นส่วนที่ด้อยอย่างไรเล่า ส่วนดีส่วนเด่นล้วนเป็นเจ้าที่เอาไปจนหมดทำให้ข้านั้นถูกผู้คนดูถูกว่าเป็นคนโง่เง้า ส่วนเจ้าน่ะได้ความฉลาดไป แต่ข้ากลับต้องแบกรับความโง่เขลาแทน! ข้าอ้วนเพราะเจ้าเอาความผอมเพรียวไปจนหมดอย่างไรเล่า” (ไม่ใช้เพราะว่าเจ้ากินเยอะหรอกหรือ??)

เจ้าอ้วนนั้นตั้งแต่เล็กจนโตครอบครัวเป็นอันธพาลดังนั้นความคิดของนางนั้นก็เลยไม่ต่างจากพวกเขา เมื่อพูดอะไรออกมาตัวนางนั้นย่อมถูกทุกอย่าง ส่วนผู้อื่นนั้นผิดหมด เพราะท่านพ่อของนางนั้นบอกนางเสมอว่า ไม่ว่านางจะทำสิ่งใดนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดังนั้นนางจึงได้นำความคิดนี้มาใช้กับหมอหลิวที่เป็นเสี้ยววิญญาณของนางนั้นเอง

หมอหลิวรั่วซีอ้าปากค้าง เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองนั้นเป็นเสี้ยววิญญาณ และอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะไม่พอใจกับเรื่องนี้นัก

"แล้วเธอคิดว่าเราจะทำยังไงต่อไปล่ะ?" เธอมองร่างที่อวบอ้วนแก้มแดงเป็นพวงของหลิวรั่วซีอีกคน

เจ้าอ้วนหลิวรั่วซีถอนหายใจยาว

"ง่ายมาก! ในเมื่อพวกเราเป็นคนๆ เดียวกัน ถึงแม้ว่าข้าจะงดงามกว่าเจ้าก็เถอะ(ย้ำ) ข้าคิดว่าพวกเราต้องรวมวิญญาณกันให้ครบ จากนั้นก็กลับไปหาร่างของข้า เพราะเจ้าก็รู้ว่าร่างของเจ้านั้นถูกไฟไหม้ไปแล้วพวกเราคงจะไม่สามารถที่จะเข้าร่างของเจ้าได้!"

เจ้าอ้วนนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาที่นางตามติดชีวิตหมอนางก็อยากจะเป็นเช่นหมอหลิวผู้นี้มาตลอด มาตอนนี้ได้โอกาสแล้ว หากว่าหมอหลิวรวมวิญญาณแล้วเข้าร่างนางเช่นนั้น วิชาความรู้ต่างๆ ที่หมอหลิวได้เรียนรู้มานางก็จะต้องรับรู้ด้วยอย่างแน่นอน หากว่าเมื่อนางกลับไปแล้วนางสามารถรักษาผู้คนได้มันคงจะทำให้ท่านพ่อและครอบครัวของนางได้หน้าได้ตามากแน่ๆ อีกอย่างวิชาความรู้มากมายของหมอหลิวนั้นจะต้องทำให้ครอบครัวของนางลืมตาอ้าปากได้อย่างแน่นอน เมื่อหมอหลิวถามมานางจึงรีบเสนอความคิดทันที…จะว่าไปนางก็ฉลาดนะ ถึงจะไม่เยอะมากเท่าหมอหลิวก็เถอะ

หมอหลิวรั่วซีนั้นรับรู้แล้วว่าร่างของเธอนั้นเสียหายใช้การไม่ได้แล้ว เมื่อเจ้าอ้วนเสนอมาแบบนี้คงจะเป็นทางเดียวที่พวกนางจะทำได้หากไม่แล้ววิญญาณของทั้งคู่ต้องแตกสลายแน่เพราะว่าไม่มีร่างจะอยู่

“แล้วจะให้ความรู้สึกของใครเป็นผู้นำหล่ะ” หมอหลิวรั่วซีถามขึ้น

“พวกเราเป็นคนๆ เดียวกันความรู้สึกนึกคิดของพวกเราทั้งสองเมื่อหลอมรวมกันก็ย่อมเป็นคนเดียวกันสิจะมาแบ่งข้าแบ่งเจ้าไปเพื่ออะไรกัน ไปอยู่ที่ร่างผู้ใดก็ต้องเป็นคนๆ สิ ไหนว่าเจ้าฉลาดมากทำไมเรื่องนี้คิดไม่ได้เล่า” เมื่อได้ทีก็ต่อว่าเสียเลย เรื่องอะไรจะให้ความรู้สึกของหมอหลิวนำหล่ะนั้นเป็นร่างของนางย่อมให้นางเป็นผู้นำสิ

“เอาเช่นนั้นหรือ?” หมอหลิวถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

“เอาเช่นนี้แหละ” เจ้าอ้วนรีบสำทับทันที

ทันใดนั้น พื้นดินในมิติอันว่างเปล่าก็เริ่มสั่นสะเทือน วงเวทย์เรืองแสงสีทองปรากฏขึ้นใต้เท้าของพวกนาง พลังงานอันมหาศาลเริ่มไหลเวียนรอบตัวพวกนาง ลำแสงสีทองและสีเงินหมุนวนคล้ายเกลียวลมพายุ พวกนางรู้สึกได้ถึงพลังที่แทบฉีกกระชากจิตวิญญาณเป็นชิ้น ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็อบอุ่นดุจอ้อมกอดแห่งโชคชะตา หมอหลิวรั่วซีมองไปรอบ ๆ เห็นอักขระโบราณเรืองแสงหมุนวนอยู่รอบตัว ตามมาด้วยเสียงกระซิบที่พวกนางไม่รู้ว่ามาจากที่ใด

“เจ้าทั้งสองคือหนึ่งเดียว จงหลอมรวมกันและจงเป็นผู้ลิขิตชะตาของเจ้าเอง...”

ร่างวิญญาณของพวกนางค่อย ๆ ลอยขึ้นกลางอากาศ แรงดึงดูดจากวงเวทย์ทำให้พวกเธอหมุนวนเข้าหากัน พลังงานสีทองและสีเงินประสานเข้าด้วยกันราวกับเส้นด้ายแห่งโชคชะตาถักทอเป็นหนึ่งเดียว

“ฉันรู้สึกถึงพลังนี้...”

หมอหลิวรั่วซีพึมพำ ดวงตาเปล่งประกายราวกับดวงดาว ขณะที่เจ้าอ้วนเองก็หลับตาแน่น รับรู้ถึงกระแสแห่งพลังที่ไหลทะลักเข้ามาในจิตใจเมื่อแสงสว่างวาบขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ร่างของพวกเธอก็สั่นสะเทือนรุนแรง และทันใดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลืนหายไปในแสงสีทองอันเจิดจ้า พวกนางถูกดึงเข้าสู่ร่างเดียวกัน..ก่อนที่วิญญาณจะถูกดึงกลับสู่ร่างเดิม... ร่างอ้วนท้วมที่นอนอยู่ข้างชายหนุ่มปริศนา ขณะเดียวกันที่ร่างอ้วนที่นอนสลบอยู่ของก็เกิดรอยปานเล็กๆ เป็นรูปผลท้อสีทองขึ้นที่ข้อมือของนาง

ความรู้และความทรงจำทั้งหมดไหลบ่าเข้าสู่จิตใจของหลิวรั่วซี ทั้งตำรายา สูตรอาหารวิเศษ อาหารยาที่หมอหลิวชอบคิดค้นขึ้นมาใช้รวมทั้งวิธีการรักษา การผ่าตัด และความรู้ทางการแพทย์ทั้งสมัยใหม่และโบราณนางรู้สึกได้ถึงพลังแห่งความรู้และความสามารถของหมอหลิวรั่วซีที่แผ่ซ่านอยู่ในร่างของนาง ทักษะทางการแพทย์ ทักษะการต่อสู้ การวิเคราะห์สมุนไพรและพิษ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเป็นของหมอหลิวรั่วซีได้ไหลเข้ามาหลอมรวมกับจิตใจของนางอย่างสมบูรณ์

ไม่เพียงแค่ความรู้เท่านั้น แต่ความมั่นใจ ความกล้าหาญ และจิตใจที่เมตตาของคุณหมอก็ถ่ายทอดมาด้วย หลิวรั่วซีรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ราวกับว่าส่วนที่หายไปของนางได้กลับคืนมาในที่สุด

“ข้ารู้สึกได้...” เจ้าอ้วนน้อยกล่าวอย่างอัศจรรย์ จากนั้นนางก็หลับตาเพื่อซึมซับความรู้สึกนึกคิดทุกอย่างที่ได้รับมา เมื่อลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่หลิวรั่วซีสัมผัสได้คือความรู้สึกแปลกใหม่ในร่างกาย แม้จะยังคงเป็นร่างอ้วนท้วมเหมือนเดิม แต่กลับรู้สึกถึงพลังและความมั่นใจที่ไม่เคยมีมาก่อน สมองที่เคยมึนงงกลับแจ่มชัด ความทรงจำและความรู้มากมายผุดขึ้นในความคิด

เธอยกมือขึ้นมองตัวเอง พลางกำหมัดแน่น แววตาเปี่ยมไปด้วยความแน่วแน่

“จากนี้ไป...ข้าจะใช้ชีวิตนี้ให้คุ้มค่า”

จากนั้นนางก็ค่อยๆ หันไปมองชายหนุ่มที่นอนหมดสติอยู่ข้างๆ ดวงตาที่เคยมองแค่ความหล่อเหลาภายนอก บัดนี้กลับมองเห็นอาการบาดเจ็บที่ต้องรีบรักษา แผลถลอกและรอยฟกช้ำที่ต้องการการดูแล

"ข้าจะไม่ใช่หลิวรั่วซีคนเดิมอีกต่อไป" นางกระซิบ มือสัมผัสที่หน้าผากของชายหนุ่มเพื่อวัดไข้

"ข้าจะใช้ความรู้ทั้งหมดนี้ช่วยเหลือผู้คน เริ่มจากเจ้าก่อนก็แล้วกัน เจ้าหล่อ..."

**** ใครบอกว่าเจ้าอ้วนไม่ฉลาด *****

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel