ตอนที่4. รับหน้าที่
วันนี้เธอต้องเอาเงินไปจ่ายค่ารักษาที่ขอผ่อนจ่ายกับทางโรงพยาบาล
รสินได้รับโทรศัพท์จากคนรับใช้ว่าคุณย่าเข้าโรงพยาบาลกระทันหัน เขารีบมาโรงพยาบาลทันทีที่ทราบข่าว ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวใหญ่ที่อยู่กับพร้อมหน้า คุณปู่เสียไปเมื่อปีที่แล้ว คุณย่าก็อ่อนแอลงมาก ถ้าจะบอกว่าเขาเป็นคนติดย่าก็ไม่ผิดนักหรอก เพราะย่าเป็นคนเลี้ยงเขากับมือ มากกว่าแม่ของเขาเสียอีก
“คุณย่าเป็นยังไงบ้างครับ” รสินถามพ่อทันที่ที่มาถึง พ่อกับแม่ยืนรออยู่หน้าห้องไอซียู
“หมอยังไม่ออกมาเลย” แม่เป็นคนตอบก่อน
“ปีนี่คุณย่าก็อายุเก้าสิบแล้วนะ” พ่อพูดเหมือนปลงๆ
“คุณย่ายังแข็งแรง ยังอยู่ได้ถึงร้อยปี”
รสินมันจะกลายเป็นเช่นนี้เสมอเมื่ออยู่กับย่า ย่ารักและเอ็นดูหลานชายอย่างเขามากกว่าหลานคนอื่นๆ แต่เขาไม่สนใจคนอื่นจะมองเขาเป็นอย่างไรหรอก ที่สำคัญคือเขาอยากให้คนที่เขารักอยู่กับเขาไปนานๆ ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกพร้อมกับคุณหมอเจ้าของไข้เดินออกมา
“คุณย่าเป็นยังไงบ้างครับ” รสินถามอย่างร้อนรน
“ท่านเป็นลิ้นหัวใจรั่ว อายุมากแล้วไม่สามารถผ่าตัดได้ ตอนนี้ก็ทำได้เพียงประคองอาการกันไป ถ้าดูแลใส่ใจดีๆ ก็อยู่ได้อีกหลายปีครับ”
“เข้าไปเยี่ยมได้ไหมครับ”
“ได้ครับ อีกสักครู่ก็จะย้ายเตียงได้ครับ”
รสินก้าวเร็วๆ เข้าไปหาผู้เป็นย่า เขาเข้าไปกุมมือเหี่ยวย่นของหญิงชรา ไม่กี่นาทีต่อมาดวงตาที่ปิดอยู่ลืมขึ้น พร้อมกับรอยยิ้ม
“ตาหนูของย่า”
“ครับ ผมอยู่นี่”
“ร้องไห้ทำไมละลูก”
ย่าเห็นน้ำตาของหลานชายก็อยากจะหัวเราะปลอบโยน แต่ยังไม่มีแรงทำได้ จึงได้เพียงแต่วางมือบนศีรษะของหลานชายที่นางรักมากที่สุด อาจเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ นางจึงรักและเอ็นดูรสินมากกว่าหลานคนอื่นๆ และเขาก็เป็นคนดีไม่เคยทำให้นางต้องผิดหวัง ทั้งการเรียน การงาน เขาทำได้ดีพร้อม กิจการที่ปู่สร้างไว้ก็สืบทอดไปยังรุ่นหลานได้อย่างไม่เสียเปล่า
“ก็คุณย่าทำให้ผมเป็นห่วง”
“ย่าจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้”
“คุณย่าอย่าพูดแบบนั้นซิครับ คุณย่ายังแข็งแรงต้องอยู่กับผมไปนานๆนะครับ”
“จะให้ย่าอยู่ไปทำอะไร เหลนก็ไม่มีให้เลี้ยง”
“คุณย่า” เอาอีกแล้ว คุณย่าบ่นเรื่องเดิมอีกแล้ว
“ตาหนู... ย่าอยากเห็นตาหนูเป็นฝั่งเป็นฝามีเมียมีลูกนะ”
“ครับๆ” เขารับปากไปอย่างนั้น ผู้หญิงที่อยากเป็นเมียเขานะมีเป็นโหล แต่ไอ้ที่จะมาเป็นแม่ของลูกได้เนี้ย มันไม่ได้หาได้ง่ายๆเลยสักนิด
“ไม่เอา อย่ารับปากส่งๆไป”
“ครับๆ เดี๋ยวผมพามาไหว้คุณย่า”
“พูดจริงรึ”
“จริงครับ”
“ถ้าย่าไม่ได้เห็นหน้าเมียตาหนู ย่าไม่ยอมกินยาด้วย”
“คุณย่า!”
คนแก่เอาแต่ใจ!
รสินได้แต่ตำหนิ คุณย่าในใจ พยาบาลมาเชิญให้เขาออกเพื่อจะได้ย้ายเตียงคนป่วยไปห้องคนไข้พิเศษ เขายืนเสยผมยุ่งๆ จะไปหาเมียที่ไหนตอนนี้ล่ะ เขาหันไปหาพ่อกับแม่ที่ทำหน้าแบบ ‘ช่วยไม่ได้นะ’ เอ้า! เป็นความผิดเขาใช้ไหมที่ดันปากพล่อยพูดไม่คิดแบบนั้น
“ผมออกไปสูดอากาศหน่อย เดี๋ยวตามไปที่ห้องคุณย่านะครับ”
ชายหนุ่มเดินหงุดหงิดออกมา ว่าจะแอบหาที่ที่ดูดบุหรี่แก้เครียดเสียหน่อย พลันสายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางในชุดเสื้อยืดกางเกงยีน แม้จะไม่ได้แต่งหน้าและผมยาวก็รวบไว้ง่ายๆ แต่เขาก็จำได้ดี
“คุณกอหญ้า”
“คะ”
ปาลิดาหันไปตามเสียงเรียก แล้วก็ต้องแปลกใจทีเห็นชายหนุ่มร่างสูงโปรงก้าวยาวๆ มาทางเธอ ไม่คิดว่าจะบังเอิญได้เจอกันอีก ใบหน้าของเขาดูเคร่งเครียดแต่พอยิ้มออกมาก็ดูดีขึ้นมากทีเดียว
“คุณกอหญ้าไม่สบายรึครับ”
“เปล่าค่ะ” เธอส่ายหน้าไปมา
“แล้วมาโรงพยาบาลทำไมครับ”
ปาลิดาหัวเราะเบาๆ “มาจ่ายค่ายาให้แม่ค่ะ กอหญ้าผ่อนจ่ายกับทางโรงพยาบาลอยู่”
“คุณแม่เป็นอะไรครับ”
“โรคหัวใจค่ะ ท่านผ่าตัดด่วน” ปาลิดาแอบแปลกใจที่เขาทักเธอเหมือนสนิทสนมทั้งที่เจอกันเมื่อวานเอง “แล้วคุณรสินละคะ”
“คุณย่าไม่สบายครับ” เขาอยากสนิทสนมกับเธออีก เห็นแต่งตัวง่ายๆ สบายๆ แบบนี้แล้วรู้สึกดียังไงไม่รู้
“ท่านเป็นอะไรคะ” เธอถามเข้าใจหัวอกคนที่ต้องดูแลคนรักเจ็บป่วย
“ลิ้นหัวใจรัวครับ อายุมากแล้วผ่าตัดไม่ได้”
“มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะคะ”
หญิงสาวยื่นมือไปแตะหลังมือของเขาอย่างลืมตัว รสินมองมือของเธอแล้วเงยมามองใบหน้าสวยได้รูป ปาลิดารู้ตัวก็รีบดึงมือตัวเองกลับ แต่เขากลับยื้อมือของเธอไว้ก่อน
