ตอนที่2. หนูต้องใช้เงิน
ปาลิดาบอกกับตัวเอง มันเป็นอย่างเดียวที่นึกออกในตอนนั้น ได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่เสื้อกล้ามที่มีขอบลูกไม้ ปล่อยผมสยาย ถอดแว่นตาออก แล้วหยิบมือถือมาถ่ายรูปตัวเอง เลียนแบบดารา
“ผิวสีแทนแบบนี้ มีลูกค้าอยากได้พอดี ติดต่อมานะ”
หลังจากปาลิดาโพสรูปตัวเองในบอร์ดหางานพริ้ตตี้ เธอได้รับข้อความติดต่อกลับ เป็นชมพู่-สาวประเภทสอง ด้วยความอยากได้เงินแต่ก็กลัวถูกหลอก ปาลิดาขอนัดเจอชมพู่ก่อนที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่ง ชมพู่เองก็มาตามนัดและถูกชะตากับปาลิดา เพราะความใสซื่อและ ‘สวยซ่อนรูป’ ของปาลิดาเอง
“งานที่ได้เงินเร็ว ได้เงินเยอะ มันต้องใจถึงนะ”
“ค่ะ หนูต้องใช้เงิน”
เธอตัดสินใจแล้ว เป็นไงเป็นกัน ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าหาเงินมารักษาแม่อีกแล้ว ชมพู่เห็นความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของปาลิดาจึงช่วยผลักดันให้ดอกแก้วเป็นเนตไอดอลที่มีคนติดตามนับหมื่น ซึ่งแน่นอนว่ามันแลกกับการที่เธอต้องแต่งตัววับๆแวมๆอวดเนื้อหนังมังสาด้วย
ปาลิดาทำเรื่องผ่อนชำระค่ารักษากับทางโรงพยาบาล เธอทยอยจ่ายค่ารักษาของแม่ ไม่กล้าบอกแม่ว่าไปทำอะไรมา แต่ก็ดูเหมือนว่า คนรอบข้างจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของเธอเลย ช่วงนั้นเธอยังไปทำงานที่ร้านสะดวกซื้อ ไม่แต่งหน้าทำผม ใส่แว่นตาเชยๆ จนชมพู่หางานให้เธอมากขึ้น เธอจึงตัดสินใจลาออกและย้ายที่พักให้ตัวเองสะดวกขึ้น ตามด้วยรถคันเก่าที่พ่อเลี้ยงให้เธอมาใช้เพราะช่วงนี้แม่ไม่แข็งแรงพอที่จะออกไปขายของเหมือนเดิม
ปาลิดาขับรถกลับที่พักโดยไม่รู้ว่ามีใครบางคนขับรถตามโดยรักษาระยะห่างอยู่
รสินขับรถตามรถเก๋งสภาพเก่าคันนั้น เขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายอย่างเขาจะมาติดตาต้องใจพริตตี้สาวสวยคนนั้นขนาดต้องขับรถตามแบบนี้ เขาเห็นเธอหลายครั้ง ทั้งในMV และงานโชว์ตัว จนมาถึงงานมอเตอร์โชว์ที่เพิ่งจบไปวันนี้เอง เธอไม่ได้สวยเด่นไปกว่าใคร นางแบบหรือดาราหลายคนที่เขาเคยคบหานั้น สวยกว่า ‘กอหญ้า’ มากนัก แต่เพราะท่าทีที่ดูหยิ่งๆ เล่นตัวนั้นแหละที่เขาสนใจ ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี เขาส่งช่อดอกไม้ช่อใหญ่ให้เธอ แถมการ์ดชวนกินข้าว แต่เธอสนใจแต่ดอกไม้ไม่ได้สนใจคำชวนของเขา มันทำให้เขาขับรถตามเธอมาถึงที่เธอพักอยู่
เนตไอดอลสาวสวยที่ใครๆ รู้จักในนาม‘กอหญ้า’ แต่ชื่อจริงที่ไม่ค่อยมีใครล่วงรู้ หญิงสาวลงจากรถสะพายกระเป๋าผ้าใส่ของส่วนตัวและมีดอกกุหลาบสีขาวในมือ ใบหน้าหวานเศร้าไร้เครื่องสำอางและอยู่ในเสื้อผ้าลำลองสบายๆ แบบนี้ ดูไม่เป็นเนทตไอดอลเลื่องชื่อเลยสักนิด
รสินยิ้มอย่างไม่รู้ตัว เหมือนเป็นคนโรคจิตอย่างไรไม่รู้ที่มาแอบตามดูเธอแบบนี้ เกือบสามเดือนแล้วที่เขามาทำงานที่โรงแรม ‘Blue Star’ โรงแรมสุดหรูหราอันดับหนึ่งของประเทศไทย เศรษฐีร้อยล้านอย่างเขาไม่ต้องทำงานก็มีกิน
แต่พ่อเขาไม่ใช่คนที่จะเลี้ยงลูกให้รู้จักเพียงความสุขสบาย เมื่อครั้งที่ไปเรียนต่างประเทศเขาก็ต้องทำงานพิเศษในร้านอาหาร มันเท่ากับได้ฝึกฝนไปในตัวด้วย แต่เมื่อกลับเมืองไทย เขาก็อดใช้ชีวิตสนุกสนานตามประสาคนหนุ่มไม่ได้
...
คนอย่างรสินไม่ต้องมาเสียเวลาติดตามเนทไอดอลอย่างกอหญ้าก็ได้ แต่ไม่รู้ทำไม ถึงแม้เธอจะแต่งตัวยั่วยวนแต่ก็ดูห่วงเนื้อห่วงตัว จะเรียกว่าหยิ่งหรือทรนงก็ไม่รู้จะเรียกได้เต็มปากหรือเปล่า
มันอาจเป็นความรู้สึกหลงใหลหรืออยากเอาชนะก็ได้
ปาลิดากำลังล็อกรถอยู่ ฉับพลันมีเงาร่างซ้อนอยู่ด้านหลัง
“อย่าขยับ! มีเงินเท่าไหร่ส่งมาให้หมด”
“เงินเหรอ”
ปาลิดาตกใจกับของแหลมที่จี้อยู่ที่เอว ผู้ชายที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังพยายามจะเอากระเป๋าสะพายของเธอไป แต่เงินนั้นมันเป็นค่ารักษาแม่ กว่าจะหาเงินก้อนนี้มาได้ มันไม่ง่ายเลยนะ แล้วไอ้หมอนี้เป็นใคร จะมาฉวยโอกาสเอาน้ำพักน้ำแรงของเธอไปงั้นเหรอ
“บอกให้ส่งมาไงเล่า”
“ให้ตาย ยังไงฉันก็ไม่ยอมให้หรอก”
“อีนี่ไม่กลัวหรือไง เดี๋ยวแม่งแทงให้ไส้ทะลักหรอก!”
“ฉันตายก็ไม่เป็นไร แต่เงินนี้ฉันต้องเอาไปให้แม่ มันเป็นค่ารักษาผ่าตัดของแม่ฉัน!”
“เอากระเป๋ามึงมาให้กูเดี๋ยวนี้”
ปาลิดากอดรัดกระเป๋าตัวเองแน่น ไม่ได้หรอก ถ้าไม่เอาเงินไปใช้หนี้ที่โรงพยาบาลก็ต้องถูกฟ้องแน่ๆ แล้วแม่ก็ไม่แข็งแรงไม่ได้ทำงานเหมือนเมื่อก่อนจะเอาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ก้อนโตนี่ได้ล่ะ
“เฮ้ย! ทำอะไรนะ”
