16 | อย่าปฏิเสธฉัน
ลินลดาคว้าผ้าห่มผืนใหญ่มาคลุมร่างกายเปล่าเปลือยของตนเอาไว้ เมื่อคนใจร้ายใช้สายตาโลมเลียเนื้อตัวเธอไปทั่ว เขาชอบทำให้เธออับอายและไร้ค่าในสายตาของเขา ยิ่งคิดหน่วยตายิ่งร้อนผ่าวราวกับว่าน้ำตาจะเอ่อล้นไหลริน
"จะรีบปิดทำไมฉันยังไม่ได้เอาเธอเลย"มาคัสกระชากผ้าห่มออกอย่างไม่สนใจน้ำตาที่กำลังพากันทำนบแตก ทว่าเจ้าหล่อนยังคงกำชายผ้าไว้แน่นไม่ยอมปล่อย แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเขาขาแข็งแรงก้าวลงจากเตียงถอดกางเกงสแล็คที่ตนสวมใส่หลังจากเสร็จเกมรักเมื่อคืนออกอย่างรวดเร็ว
ความแข็งขึงที่ทุกเช้าจะต้องลุกขึ้นมาเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย ทำให้ลินลดาหลับตาเมินหน้าหนี มาคัสได้แต่แสยะยิ้มด้วยความสะใจก่อนจะตรงไปกระชากไหล่บางให้หันกลับมาเพื่อต้องการจะเอาชนะ
"ทุเรศ! อึก....หยุดทำแบบนี้กับฉันสักที"ลินลดายังคงหลับตาแน่น น้ำตาเจ้ากรรมก็ดันไหลลงมาตามหางตาสวยอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่
“หยุดร้องได้แล้วคนดี”มาคัสหยุดชะงักเมื่อเห็นน้ำตาที่เจิ่งนองจนดวงตาเริ่มแดงก่ำ ทำไมน้ำตาของเธอชั่งมีอิทธิพลต่อเขานักนะ นิ้วเรียวยาวปาดเช็ดคราบความเสียใจตามใบหน้าหวานด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะเดินไปคว้าผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้ามาพันรอบเอวสอบเอาไว้
“คุณมาคัส...อึก...ปล่อยลินไปเถอะนะคะ”เธออ้อนวอนเขาทั้งด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พอกันทีกับความอดสูที่พยายามจะเข้มแข็ง แต่กับแพ้เขาทุกครั้งเมื่อไฟสวาทถูกปลุกขึ้น ทุกครั้งที่ร่วมรักเขาไม่ได้ป้องกัน กลัวเหลือเกินกลัวว่าจะมีสิ่งมีชีวิตกำลังก่อเกิดในท้องของเธอ
มาคัสสาวเท้านั่งข้างเธอโอบกอดเจ้าหล่อนเอาไว้ เขารู้ว่าผู้หญิงในอ้อมกอดเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่ดูแลเลี้ยงดู อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่ยังเล็ก รู้สึกผิดที่ชอบพูดจาดูถูกและรุนแรงกับเธอ
“นิ่งซะนะ....ฉันสัญญาต่อจากนี้ฉันจะดูแลเธออย่างดี”ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความสงสารหรืออะไรกันแน่ ทำให้ชายหนุ่มต้องพูดไปแบบนั้น ร่างบางสะอื้นบนอกแกร่งจนน้ำตาเปียกเต็มแผงอกเขาไปหมด หัวใจดวงแกร่งกระตุกวูบไหวเขาไม่เคยกอดผู้หญิงคนไหนนอกแม่บังเกิดเกล้า
“ไม่จำเป็นที่คุณต้องมาดูแลลิน เพียงแค่ปล่อยลินไปและไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก”
“ไม่มีวัน! อย่าปฏิเสธฉันเลย อยู่กับฉันเธอจะได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ”มาคัสจับไหล่บางผละออกจ้องลึกเข้าไปนัยน์ดวงตาแพรวพราวด้วยน้ำตาใช้สายตาอ้อนวอน เขาอยากจะดูแลเธอจริงๆ แต่ความรู้สึกของตัวเองก็ยังไม่แน่ชัดว่ามันคืออะไร
ลินลดามองสายตาราวกับต้องมนต์สะกดของอสูร เธอยอมรับได้เต็มอกเต็มใจเลยว่าใบหน้าหล่อเหลาคมคายที่ไม่ว่าหญิงใดที่ได้มองก็ต้องยอมเปลื้องผ้าบำเรอเขาอย่างที่ชายหนุ่มไม่ต้องเอ่ยปากบอก แล้วผู้หญิงอย่างเธอล่ะมีค่าสำหรับเขามากแค่ไหนกัน
“อย่าทำให้ลินดูไร้ค่าไปมากกว่านี้เลยค่ะ”
“แล้วถ้าจะยกย่องเธอเป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายล่ะ!”ข้อเสนอใหม่ที่เขาเองก็ไม่คิดว่าจะให้ใครง่ายๆ ถูกเปรยออกมา โดยวาจาของมาเฟียหนุ่มที่ไม่คิดจะยกย่องใครเป็นภรรยาหรือเป็นมาดามฮาวเซอร์เลย ทว่ากับลินลดาเขาเต็มใจจะให้เจ้าหล่อยอยู่ในฐานะภรรยา
“มะ...หมายความว่ายังไง”หญิงสาวแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน จึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระตุกกระตัก
“จดทะเบียนสมรสกับฉัน เธอจะมีสิทธิ์ทุกอย่างในสิ่งที่ฉันมี!”
เธอกำลังโดนคำลวงของอสูรใช่ไหม!
“มะ...ไม่จริง ใช่ไหม”ลินลดาครางละเมอส่ายหน้าไปมา ตอนนี้เธอกำลังฝันเพียงแค่ลืมตาขึ้นทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ
“ทุกสิ่งที่ฉันพูดไปเป็นความจริง เป็นภรรยาของฉันทะเบียนสมรสให้ถือเสียว่าต่อให้ฉันเป็นอะไรเธอจะได้มีสิทธิ์ทุกอย่างในสมบัติของฉัน สัญญาว่าถ้าเธอพร้อมจะไปฉันจะไม่รั้งเอาไว้”ไม่รู้ว่าทุกคำพูดที่ลั่นวาจาออกไปนั้น มาคัสเองก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือเปล่าแต่ทุกสิ่งที่เป็นของเขามันจะกลายเป็นของเจ้าหล่อนจะไม่เสียดายเลยสักนิด
กลัวเหลือเกินว่าจะหลงรักเธอขึ้นมาเพราะนั่นหมายถึงเธอจะไม่มีวันได้ไปจากเขา!
“ละ...ลิน”
“อย่าปฏิเสธฉัน เพราะฉันไม่มีวันทิ้งเธอเอาไว้ที่นี่!”ไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยทัดทานใดๆ เขาก็มัดมือชกและยังหาคำพูดเพื่อให้เธอยอมจำนนเก่าเขา
หลังจากที่เขาและเธอได้เป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องถูกดำเนินการชั่งรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ เพราะลูกน้องฝีมือดีเป็นคนจัดการทุกอย่างจนเสร็จสรรพ โดยที่มาคัสกับลินลดาได้ทำเพียงเซ็นเอกสารเท่านั้น
นับจากนั้นไม่นานชายหนุ่มก็ได้พาเธอมายังประเทศบ้านเกิดของเขาทันที มาคัสและลินลดาลงจากเครื่องพร้อมกันเมื่อถึงสนามบิน เหล่าบอดี้การ์ดนับสิบยืนต้อนรับการกลับมาของเจ้านายหนุ่ม เขาจับมือของเธอไว้แน่นพาไปยังรถลีมูซีนเพื่อมุ่งหน้าไปยังปราสาทฮาวเซอร์ที่เป็นอาณาเขตส่วนตัวที่มีความปลอดภัยสูง
ปราสาทฮาวเซอร์
“ยินดีต้อนรับครับนายหญิง!”เมื่อยานพาหนะจอดเทียบหน้าปราสาท เลย์ลงจากรถมาเปิดประตูให้นายทั้งคู่ของเขา นิกกี้ลูกน้องมือขวาที่ควบคุมดูแลงานตลอดเวลาในตอนที่มาคัสอยู่เมืองไทย โค้งศีรษะลงเล็กน้อยทำความเคารพเพื่อให้ความเคารพ เขาทราบข่าวของเจ้านายตนที่จดทะเบียนสมรสกับสาวไทย ครั้งแรกที่เขารู้ก็แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินเช่นกัน
ลินลดามองไปยังปราสาทราวกับว่าเธอกำลังอยู่ในนิยายปรัมปรา เหล่าชายใส่ชุดดำทั้งหลายที่คอยต้อนรับเมื่อเขาและเธอก้าวเข้ามาภายใน ถึงแม้ว่าข้างนอกจะดูเหมือนกับปราสาทที่ถูกสร้างมานาน ทว่าการตกแต่งภายในชั่งหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ประมาณทางสายตาคงจะแพงน่าดู
รูปปั้นกับภาพวาดกรีกโบราณมีลายเซ็นของจิตกรชื่อดังหลายคน แต่ละชิ้นงานชายหนุ่มคงจะประมูลมันมาด้วยราคาไม่น้อยเลยทีเดียว คนตัวเล็กยังคงมองไปรอบๆ ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
“สวยใช่ไหม!....”ร่างสูงสวมกอดเธอจากทางด้านหลังกระซิบถามหญิงสาวข้างหู ไม่มีหญิงใดหลังจากมารดาของเขาเสียชีวิตพร้อมกับบิดาเพราะเกิดอุบัติเหตุทางเครื่องบินตก ไม่มีหญิงใดได้ย่างกายเข้ามาในปราสาทของเขา
“สวยค่ะ! มาคัสคะจนถึงตอนนี้ลินไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้มาอยู่จุดนี้....”ในความดีใจมันก็ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ถาโถมเข้ามาในความรู้สึกของเธอ ทุกอย่างไม่ใช่ความฝันใช่ไหมจากผู้หญิงที่ปากกัดตีนถีบหาเลี้ยงตัวเองไปวันๆ กลับมีชายหนุ่มที่ผู้คนเปรียบเปรยว่าเขาเป็น ‘อสูร’ รับเธอเป็นภรรยา ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ก็ยังไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น
“ฉันเองก็ยังไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าอยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก่อน เรื่องของหัวใจเอาไว้ทีหลังนะ หืม...ฟอด”อสูรร้ายกดปลายจมูกโด่งเป็นสันเข้าที่แก้มเนียนปลั่งสูดดมความหอมของวัยสาวเข้าเต็มปอด
“หมายถึงถ้าเราอยู่ด้วยกันแบบนี้แล้วเรารักกันน่ะหรือคะ”
“แล้วเธอจะรักฉันได้ไหม”คำพูดที่ลั่นถามเธอออกไปโดยที่ชายหนุ่มเองก็ไม่ได้คิด จนเขาเองก็เริ่มสับสนกับความรู้สึกตัวเอง ลินลดาเอี้ยวตัวมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่เข้าใจเอียงคอด้วยความสงสัย
“ลิน...”สายตาล่อกแล่กของเธอไม่รู้ว่าจะตอบเขาไปอย่างไร ก่อนจะปลดลำแขนแกร่งที่โอบรัดเธอไว้ออก ลินลดาเพียงใช้ฝ่ามือลูบแก้มสากเบาๆ
“ชั่งมันเถอะ!”มาคัสบอกปัดก่อนจะรวบร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว เขามองร่างบอบบางในอ้อมแขนเมื่อเห็นสีหน้าแตกตื่นก็อดยิ้มไม่ได้ ทำไมอยู่ใกล้เจ้าหล่อนทำให้เขาปรารถนาในตัวเธอมากขึ้นทุกที
