บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ตอนที่ 1

หญิงสาวในชุดเดรสชีฟองสีโอลด์โรสอ่อนเปิดไหล่ข้างเดียว ชายกระโปรงพลิ้วเหนือเข่าประดับลูกไม้เบาๆ แลดูสวยงามรับกับรูปร่างอรชรนั้นยิ่งนัก เธอกำลังยืนสำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอน วันนี้เป็นวันสำคัญที่พิเศษมากๆ อีกวันหนึ่ง เพราะนอกจากจะเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบยี่สิบปีบริบูรณ์แล้ว ยังเป็นวันฉลองที่เธอเรียนจบปริญญาตรีอีกด้วย

โลกของอรุโณรีย์ วรวงศ์นุเดช ลูกสาวคนเดียวของผู้บริหารระดับสูงในบริษัทหลายแห่งอย่างวงศ์ศาสตร์ วรวงศ์นุเดช ค่อนข้างอยู่ในหนทางที่สวยหรู เธอเป็นดวงใจของบิดา เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเนื่องจากมารดาได้เสียชีวิตไปตั้งแต่คลอดเธอได้สามเดือนแล้ว หลังจากนั้นวงศ์ศาสตร์ก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในชีวิต และไม่มีบุตรธิดาคนอื่นนอกจากเธอ

หญิงสาวค่อนข้างภูมิใจในตัวบุพการีของเธอเป็นอย่างมาก แม้เขาจะไม่ค่อยมีเวลาทำหน้าที่ของพ่อมากมาย แต่ก็ถือได้ว่าในขณะที่เขาต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เธอก็ยังเป็นดวงใจเพียงหนึ่งเดียวของท่าน และทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอได้รับไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ ตลอดจนสถานที่ศึกษา หรืออะไรก็ตามรอบตัวจะต้องดีที่สุดเสมอ เท่านี้ก็พอจะพิสูจน์ให้แล้วว่า แม้จะไม่ค่อยมีเวลาเป็นส่วนตัวให้กัน แต่ก็เพราะเขาต้องการสร้างรากฐานที่มั่นคงสะดวกสบายให้กับเธอนั่นเอง

“คุณหนูเสร็จหรือยังคะแขกเริ่มทยอยกันมาแล้ว คุณท่านให้ป้ามาตามค่ะ”หญิงสาวในชุดงามหันไปตามต้นเสียงก็พบว่าจวงแม่บ้านเก่าแก่กำลังยืนยิ้มรออยู่

“เสร็จแล้วค่ะป้าจวง...ไปกันเลยก็ได้ค่ะ”

“คุณหนู...คุณหนูของป้า สวยจริงๆ ค่ะ ดูซิแม่คุณทำไมสวยขนาดนี้คะเนี่ย” เมื่อเห็นเด็กสาวที่ตัวเองฟูมฟักมาตั้งแต่แบเบาะหันหน้ามา ป้าจวงก็รีบรุดเข้าไปโอบกอดด้วยความรัก คุณหนูของนางไม่ค่อยชอบแต่งองค์ทรงเครื่องสักเท่าไหร่ นอกจากจะต้องไปในงานสำคัญๆ บางครั้งบางคราวเท่านั้น แต่วันนี้ อรุโณรีย์ช่างงดงามเหลือเกินในสายตาของนาง

หรืออาจเพราะด้วยวัยและสรีระ รูปร่างหน้าตาที่ดูเป็นสาวขึ้นกระมัง อรุโณรีย์ถึงได้ดูอิ่มเอิบ รับกับชุดที่ใส่อย่างลงตัวไม่มีที่ติ ทั้งเครื่องหน้าก็ดูเหมาะเจาะ กลีบปากสีชมพูสดทาทับเพียงลิปกลอสให้พอดูแวววาว คิ้วดกดำโก่งดั่งคันศรนั้น แทบไม่ต้องตกแต่งอะไรเลยปล่อยตามธรรมชาติก็สวยแล้ว ใบหน้าเรียวรูปไข่รับกับดวงตากลมโตสีน้ำตาลที่ทอประกายระยิบระยับถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางนิดๆ หน่อยๆ ก็ดูงามล้ำอย่างไม่มีที่ติแล้ว พวงแก้มขาวเนียนที่ปัดบรัชออนบางๆ สีชมพูอ่อนให้เข้ากับสีของริมฝีปากเย้ายวน เท่านี้ คุณหนูของบ้านวรวงศ์นุเดช ก็งามเลิศยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหนในค่ำคืนนี้แล้ว

“ชมเกินไปแล้วค่ะป้าจวง...หนูตัวลอยแล้วนะคะ”

“ไม่หรอกค่ะคุณหนูเอพริลของป้าสวยที่สุดจริงๆ ยิ่งได้แต่งตัวแบบนี้ยิ่งสวยที่สุดเลยค่ะ...คุณหนูรีบลงไปดีกว่าคุณท่านกับคนอื่นๆ คงรอกันนานแล้วนะคะ” จวงผละตัวออกจากการกอด แล้วใช้มือข้างหนึ่งลูบไปตามเรือนผมที่ถูกเกล้าไว้เหนือศีรษะแล้วปล่อยปลายที่ม้วนเป็นลอนให้ทิ้งตัวตามความยาวสยาย

“ขอบคุณค่ะป้าจวงที่ขึ้นมาตาม เดี๋ยวตอนหนูตัดเค้กป้าจวงต้องไปอยู่ใกล้ๆ หนูนะคะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงและสายตาที่แสดงออกถึงผูกพันกับผู้ที่เลี้ยงดูมาเหมือนแม่คนที่สอง ซึ่งจวงก็พยักหน้าและยิ้มอบอุ่นส่งให้เช่นเคย

“ค่ะ...แล้วป้าจะตามไปนะคะตอนนี้ขอไปดูแลพวกเด็กๆ ที่อยู่ช่วยในงานก่อน”

“โอเค...ถ้างั้นหนูลงไปก่อน ป้าจวงห้ามทำงานจนลืมเด็ดขาดนะคะ” อรุโณรีย์ยิ้มสดใสอีกครั้งก่อนจะหอมแก้มที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของกาลเวลาฟอดใหญ่แล้วเดินออกจากห้องลงไปยังชั้นล่างของคฤหาสน์

หญิงสาวหันมองไปรอบๆ ห้องโถงที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยดอกไม้และของประดับประดาต่างๆ แล้วก็อดที่จะยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ แม้จะกำพร้าแม่ชีวิตของเธอก็ไม่เคยรู้สึกว่าขาดอะไรไปเลย บิดาได้ทำหน้าที่ไม่เคยขาดตกบกพร่อง แม้จะค่อนข้างมีปัญหาเรื่องเวลา ที่อยู่ด้วยตามประสาพ่อลูกจะไม่บ่อยนัก แต่เธอก็เข้าใจว่าท่านต้องทำงาน และแบกภาระทุกอย่างไว้บนบ่าเพียงคนเดียว สำหรับเธอแล้วพ่อคือผู้มีพระคุณและประเสริฐที่สุดกว่าผู้ชายคนไหนๆในโลก หากจะมีใครสักคนในภายภาคหน้าที่จะมายืนข้างกายนี้ อรุโณรีย์ก็อยากให้คนคนนั้นมีคุณสมบัติเทียบเท่าได้สักครึ่งของท่าน แค่นั้นเธอก็คงจะมีความสุขไปชั่วชีวิตแล้วล่ะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel