ตอนที่ 7 อยากจะเชื่อแบบนั้นก็แล้วแต่เลย
ตอนที่ 7 อยากจะเชื่อแบบนั้นก็แล้วแต่เลย
ช่วงเช้าฝนตกหนัก วันนี้พี่ชายของฉันจึงขับรถยนต์มาส่ง ที่บ้านมีรถยนต์แค่คันเดียว ซึ่งจะต้องเอาไว้ใช้งาน
"ช่วงเย็นถ้าพี่มารับช้าก็รอหน่อยนะ"
"ไม่เป็นไร หนูรอได้" จากนั้นฉันก็เปิดประตูรถแล้วรีบวิ่งเข้าไปด้านในโรงแรมสแกนนิ้วเข้างาน แล้วไปหาอาหารเช้าทานตามปกติเหมือนทุกวัน
ช่วงฤดูฝนแบบนี้ ฉันลองมาคิดๆดูแล้ว อาจจะต้องมาอยู่ที่นี่สักพัก วันหยุดค่อยกลับบ้าน เพราะถ้าฉันดื้อ ก็คงต้องลำบากพี่ชายคอยมารับมาส่งอยู่แบบนี้ ซึ่งเขาเองก็งานยุ่ง ไหนจะต้องไปส่งไปรับลูกที่โรงเรียนอีก แล้วงานในสวนในไร่นั่นอีก อีกอย่างช่วงเข้ากะถ้าจะขับรถไปกลับดึกๆดื่นๆก็คงไม่เหมาะ
"นิด...เธอพักอยู่บ้านใช่มั้ย" ฉันกับนิดเริ่มสนิทกัน ช่วงเช้าพวกเราจะมานั่งทานอาหารด้วยกันแบบนี้เป็นประจำ
"อื้อ ทำไมเหรอ"
"ช่วงเช้าๆ เย็นๆ ฝนชอบตกอย่างกับรู้เวลาเลิกงานของเรา เธอเดินทางยังไงเหรอ" ไอ้ฝนบ้านี่อย่างกับมีตา ชอบตกช่วงที่ฉันจะต้องเดินทางอยู่ร่ำไป
"แฟนฉันมารับมาส่งไง" อ้าว...ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยว่านิดมีแฟนแล้ว
"ห๊ะ...เธอมีแฟนแล้วเหรอ"
"แปลกตรงไหน ฉันแต่งงานแล้วนะ ฉันไม่ใช่คนพื้นที่ ที่นี่บ้านแฟน" เป็นแบบนี้นี่เอง...ส่วนฉันยังหาสเปคผู้ชายที่ชอบไม่ได้เลย ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบผู้ชายแบบไหน
"เธอเพิ่งจะเรียนจบไม่ใช่เหรอ"
"เรียนกับมีผัวมันคนละเรื่องกัน เธอมีอะไรหรือเปล่า" ก็จริง...
"คือว่าบ้านฉันอยู่ไกล ฉันกำลังคิดว่าคงต้องย้ายมาอยู่ห้องพักของโรงแรมสักพัก แต่อีกใจก็ไม่อยากมา"
"ทำไมล่ะ"
"อยากอยู่บ้านมากกว่ามั้ง" ช่วงที่ฉันเรียน ป.ตรี สี่ปี ฉันแทบจะไม่ได้กลับบ้านเลย เรียนจบแล้วก็พยายามกลับมาหางานใกล้ๆบ้านทำ คิดว่าจะได้อยู่บ้าน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างที่เคยคิดเอาไว้ซะแล้ว
"วันหยุดก็ค่อยกลับไปก็ได้ บ้านของเธอไม่ได้ไกลมากไม่ใช่เหรอ อีกอย่างถ้าเธออยู่กะเช้า ช่วงเย็นฝนไม่ตก เธอจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ก็ไม่ได้มีใครว่านี่ จริงมั้ย"
"ก็ใช่...ฉันก็คิดเอาไว้แบบนี้แหละ"
"แล้วเมื่อวานช่วงเย็นหลังเลิกงานฝนตกหนัก เธอกลับบ้านยังไงล่ะ"
"รอฝนหยุดตกน่ะสิ กว่าจะกลับถึงบ้านมืดพอดีเลย เออ! เมื่อวานฉันเจอผู้หญิงของบอสอีกแล้ว น่าเบื่อสุดๆ"
"เล่าให้เราฟังบ้างสิ สนุกมั้ย"
"ห้ามไปบอกใครเด็ดขาดนะ เป็นความลับ" ฉันยิ้มให้นิด ประมาณว่ารู้กัน เพราะตอนนี้คนในโรงแรมเริ่มค่อยๆรู้เรื่องนี้แล้ว
"เธอพูดแบบนี้ ฉันอดใจไม่ไหวนะ" นิดส่งยิ้มกลับมา...
"ไม่ได้มีอะไรมาก แค่..." ฉันนั่งทานข้าวไป เล่าเรื่องเมื่อช่วงเย็นวานให้นิดฟังไปด้วย แต่อยู่ๆก็มีหนุ่มหล่อสองคนเดินเข้ามาขอนั่งด้วยเฉยเลย
"ขอพี่สองคนนั่งด้วยได้มั้ยครับ" ฉันกับนิดเงยหน้าขึ้นไปมอง หนุ่มหล่อที่ว่าก็คือพี่หมอกกับพี่เกม
"เชิญค่ะ" โต๊ะด้านข้างก็ยังว่างทำไมถึงอยากมานั่งรวมกับพวกฉัน?
"น้องๆกำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอครับ น่าสนุกเชียว" นิดแต่งงานแล้ว ส่วนฉันยังโสด...ถ้าจะคิดเข้าข้างตัวเองจะผิดมั้ยนะ
"พวกเรากำลังคุยกันว่า เสียดายความหล่อของบอสค่ะ" นิดเป็นคนตอบคำถาม พวกเราทานข้าวกันอิ่มพอดี
"เรื่องอะไรเหรอครับ"
"อ้าว...พี่หมอกกับพี่เกมอยู่ใกล้ชิดบอสขนาดนั้น พวกพี่สองคนไม่รู้เหรอคะว่าบอสเป็นเกย์"
"ใครบอกพวกน้องครับ" เสียงของพี่เกมรีบเอ่ยถามขึ้น ฉันรู้สึกว่าเขามีสีหน้าตกใจนิดหน่อย...ไม่ต้องช่วยกันปิดบังหรอกน่า
"เมล์บอกค่ะ" นิดบุ้ยหน้ามาทางฉันทันที
"ดูเอาก็รู้แล้วค่ะ ใช่มั้ยล่ะคะ"
"ไม่ใช่..." ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าพี่หมอกกับพี่เกมจะไม่รู้เรื่องนี้
"ไม่ต้องมาแก้ข่าวแทนบอสของพวกพี่หรอกค่ะ เมื่อวานเขาสารภาพกับหนูแล้ว" ถ้ายังไม่รู้ก็รู้ซะ
"ห๊ะ!!" จะเสียงดังทำไม...พี่หมอกกับพี่เกมหันมองหน้ากันทันที
"น่าจะมีการเข้าใจผิดกันแล้วมั้งครับ" ชัดเจนขนาดนี้แล้ว ยังจะช่วยกันปกปิดอีก ผู้ชายพวกนี้น่ารำคาญจริงๆ
"ไม่ผิดหรอกขอตัวก่อนนะคะ ได้เวลาเข้างานแล้วค่ะ" ฉันกับนิดทานข้าวอิ่มพอดี จึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไป...
@ห้องทำงาน
"ก๊อกๆๆ"
"เข้ามา..." ผมเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่เดินเข้ามา ซึ่งน้อยครั้งนักที่ไอ้หมอกกับไอ้เกมจะเดินเข้ามาพร้อมกันสองคน...ต้องมีเรื่องอะไรอีกแน่ๆ
"บอสครับ ผมรู้แล้วครับว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือ เรื่องที่บอกว่าบอสเป็นเกย์" นั่นไง!
"กูรู้แล้ว" ผมตอบเสียงเรียบ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร แล้วก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดด้วย เพราะสิ่งที่ยัยเตี้ยนั่นทำ มันสามารถทำให้ผู้หญิงที่ชอบเข้ามาวอแวกับผม หายไปทีละคน...ยัยเตี้ยนั่นมีความสามารถโดดเด่นไม่เหมือนใครจริงๆ
"บอสรู้แล้วเหรอครับ"
"อือ...รู้เมื่อวานนี้ตอนเย็น"
"ใช่น้องเมล์หรือเปล่าครับ" น้องเมล์!
"ถ้าไม่ใช่ยัยเตี้ยนั่นแล้วจะเป็นใครได้"
"บอสจะไม่ว่าอะไรเธอสักหน่อยเหรอครับ ปล่อยไปแบบนี้จะเสียชื่อเอาได้นะครับ"
"ช่างเถอะ ถ้าเธออยากจะเชื่อแบบนั้นก็แล้วแต่เลย" ยัยนี่เข้ามาทำงานได้แค่ไม่กี่วัน คนในโรงแรมของผม รู้สึกดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย โดยเฉพาะไอ้สองคนนี้
"ให้พวกผมไปแก้ข่าวให้เอามั้ยครับ"
"ไม่ต้องหรอก เอาเวลาไปทำงานเถอะ อาทิตย์หน้ามีลูกค้าขอเช่าสถานที่จัดงานแต่ง ใกล้เสร็จเรียบร้อยหรือยัง"
"ยังเลยครับ ถ้าอย่างนั้นพวกผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ"
"ติดปัญหาอะไรก็มาบอก จะได้ช่วยกันแก้ไข"
"ครับบอส..."
"ออกไปได้แล้ว" ผมนั่งมองดูพวกมันสองคนเดินออกไป...
ในใจคิดถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อน ผมเคยมีแฟนเราสองคนรักกันมาก ผมเตรียมเซอร์ไพรส์ของเธอแต่งงาน ตอนนั้นผมอายุประมาณยี่สิบห้า แต่วันนั้นเป็นวันที่เธอบอกเลิกกับผม เธอบอกว่าเจอคนที่ดีกว่า...
ช่วงนั้นผมเสียใจมาก ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยมีใครอีกเลย ผมคิดว่าตัวเองไม่สามารถรับความเจ็บปวดแบบครั้งนั้นได้อีกต่อไป
ผมขอเลือกที่จะอยู่คนเดียวแบบนี้ดีกว่า อีกอย่างในตอนนั้นผมก็มีน้องสาวที่จะต้องดูแล บวกกับช่วงนั้นพ่อกับแม่ของผมประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกะทันหันทั้งคู่
ช่วงนั้นผมหาทางออกแทบไม่ได้ แต่พอหันไปมองใบหน้าของน้องสาวตัวเล็ก ทำให้ผมต้องเข้มแข็งขึ้น ครอบครัวของเราเหลือกันอยู่แค่สองคน ตั้งแต่นั้นมาผมก็เริ่มเข้ามาทำงานต่อจากคุณพ่อของผม และดูแลน้องสาวไปด้วย ตอนนั้นยัยมุกน่าจะอายุประมาณสิบขวบ...
