บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

“พอรู้ว่าเจ้าจัดงานเลี้ยงชมบุปผา อาหารรสเลิศต้องไม่ขาดเป็นแน่ ข้าจะไม่มาชิมได้อย่างไร” องค์ชายแปดพูดยิ้มๆ เดินตรงมาหาพวกนางโดยเพิกเฉยต่อสายตาหญิงงามทั้งหลายที่มองตามทุกฝีก้าว ซูเหยาคิดว่าในบรรดาโอรสของฮ่องเต้มีเพียงคังอ๋องและองค์ชายแปดที่ดูดีที่สุด แม้ว่าหน้าตาขององค์ชายแปดจะด้อยกว่าคังอ๋องหลายส่วน แต่เมื่อรวมเข้ากับท่วงท่างามสง่าราวกับเทพเซียนนี้แล้ว ก็ยังไม่แน่ว่าใครอยู่เหนือกว่าใคร ซูเหยารู้สึกถึงอุณภูมิในอุทยานแห่งนี้กำลังสูงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

ซูเหยาลุกขึ้นคำนับทั้งสอง “ถวายพระพรเสียนเฟยและองค์ชายแปดเจ้าค่ะ”

“ร่างกายเจ้ายังไม่หายดี ไม่จำเป็นต้องมากพิธี” องค์ชายแปดพยักหน้าให้นาง รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นที่มุมปากราวกับสายลม จากนั้นหันไปประคองเสียนเฟยที่ยืนอยู่ข้างๆ

“เด็กๆ จัดที่นั่งให้เสียนเฟยและองค์ชายแปดที” องค์หญิงผิงอันไม่ได้ให้ซูเหยาย้ายที่นั่งแต่อย่างใด เพียงจัดที่นั่งให้ทั้งสองนั่งข้างนางอีกฝั่งหนึ่งเท่านั้น เห็นได้ชัดเจนว่าระดับความสำคัญในใจของนาง ซูเหยามาเป็นอันดับหนึ่ง หากคนที่มาไม่ใช่เสด็จพ่อ เสด็จแม่หรือไทเฮา นางไม่มีทางสละที่นั่งของสหายรักให้แก่ผู้ใดแน่นอน

“นอกจากอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ยังมีโฉมสะคราญทั้งหลายรวมตัวกันอยู่ที่นี่กันหมด ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็รื่นหูรื่นตายิ่งนัก หม่อมฉันและลูกชายต้องขอบากหน้ามาร่วมชมความครึกครื้นนี้ด้วยคนแล้วเพคะ”

ทันทีที่พูดจบก็ชิมอาหารที่พ่อครัวปรุงอย่างวิจิตรพอเป็นพิธี ตั้งแต่เข้ามารอยยิ้มบนใบหน้าของเสียนเฟยไม่เคยจางหาย ยามพูดก็เหลือบมองคนบางคนที่นั่งอยู่ข้างกายองค์หญิงผิงอันแวบหนึ่ง รอยยิ้มงดงามของนางหวานหยดย้อยขึ้นหลายส่วนเมื่อปะทะใบเย่อหยิ่งไม่ใส่ใจสิ่งใดของซูเหยา

วันนี้ยิ่งนางมองซูเหยายิ่งรู้สึกว่าสบายตามากกว่าทุกๆ วัน พัดที่อยู่ในมือถูกกรีดออกมาอย่างช้าๆ ก่อนละสายตามองสาวงามรอบอุทยาน

ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเค่อก็ได้ยินเสียงนางกำนัลดังขึ้นอีกครา “องค์หญิง คังอ๋องและองค์หญิงโซ่วคังมาถึงแล้วเพคะ”

สิ้นเสียงนางกำนัลพลันเกิดเสียงซุบซิบรอบด้านขึ้นมาทันที ซูเหยาหนังตากระตุก หันขวับไปสบตากับสหายสนิทที่ตอนนี้กำลังเบื้อใบ้เชิงถาม คืออันใด

องค์หญิงผิงอันยิ้มแหย ยักไหล่กลับมาทีหนึ่ง ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น

ซูเหยากลอกตาคร้านจะใส่ใจ เอาเถิด ขอเพียงไม่ยุ่งกับนางเป็นพอ ไม่จำเป็นต้องสนใจ แต่หากหาเรื่องนางล่ะก็ หึหึ

การมาถึงของคังอ๋องและองค์หญิงโซ่วคังทำให้บรรยากาศรอบตัวพวกนางกระอักกระอ่วนทันทีทันใด แต่กลับบรรดาสตรีทั้งหลายกลายเป็นเรื่องรื่นเริงมากขึ้นกว่าเดิม

เนื่องด้วยคังอ๋องเป็นที่ชมชอบของบรรดาหญิงสาวในเมืองหลวงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ละคนต่างมองมาด้วยสายตาเป็นประกาย กระนั้นก็ยังไม่วายต้องการชมละครระหว่างพวกนางสองคนที่กำลังเป็นกล่าวถึงอยู่ในขณะนี้

สตรีกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลจากพวกนางมากนักมองไปทางซูเหยาอย่างอยากรู้อยากเห็น ตาจ้องมองการเคลื่อนไหวฝั่งนั้นไม่กระพริบ ปากก็พูดไป “ข้าอยากจะรู้จริงๆว่าในหัวของนางบรรจุสิ่งใดเอาไว้ คงไม่ใช่ขี้เลื่อยหรอกนะ คังอ๋องดีขนาดนี้ นางกลับเป็นฝ่ายตัดเยื่อใยกันเสียดื้อๆ คิดว่าตนเองสวยเลือกได้ขนาดนั้นเลยหรือไร ระวังจะแต่งไม่ออก”

“เหอะ แค่ท่านอ๋องชายตามองนางก็บุญหล่นทับแค่ไหนแล้ว มีอะไรที่นางคู่ควรกับคังอ๋องบ้าง” ท่านหญิงหนิงเหอเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์

“ไม่ใช่ว่าคังอ๋องกับนางเป็นคนรักกันหรอกหรือ เรื่องนี้เกี่ยวอันใดกับคู่ควรไม่คู่ควรเล่า” เผยซื่อจิ่นเอ่ยค้าน คิ้วทั้งสองข้างขมวดมุ่น นางอยากไปจากตรงนี้ใจจะขาด สตรีพวกนี้นับวันยิ่งไร้สาระ นอกจากนินทาผู้อื่นวันๆ ก็ไม่ทำอันใด หากไม่ติดว่ามีที่ว่างเหลือแค่ตรงนี้ที่เดียว ให้ตายนางก็ไม่อยากจะนั่งหายใจร่วมกับคนพวกนี้นักหรอก

“คังอ๋องเป็นคนใจกว้าง เข้าอกเข้าใจผู้อื่นเสมอ ไม่ตำหนิน้องรองเพราะเรื่องนี้หรอก คนรักกันเป็นธรรมดาที่จะมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้าง น้องรองค่อนข้างใจร้อน บางทีนางอาจพูดไม่ทันคิด ให้เวลานางอีกสักหน่อยไม่แน่ว่านางอาจคิดได้เองว่าอันใดดีหรือไม่ดีต่อตัวเอง” ซูม่านม่านที่เงียบอยู่นานพลันเอ่ยตัดบท

เผยซื่อจิ่นเหลือบหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่สาวของซูเหยาปราดหนึ่ง แค่นเสียงในลำคอเล็กน้อย ก่อนหันหน้าไปทางอย่างอื่น ไม่อยากจะเสนาอะไรด้วย

“ข้าว่าชาตินี้ทั้งชาตินางคงคิดไม่ได้ สงสารก็แต่ท่านอ๋องที่เผลอมีใจให้คนที่มีเพียงรูปร่างเป็นทรัพย์อย่างนาง” สตรีที่เปิดเรื่องนินทาคนแรกนามหลิวหว่านเอ๋อ พูดไปพลางหัวเราะไปพลาง

เผยซื่อจิ่นคิด มีแค่รูปโฉมงดงามแล้วอย่างไร พวกเจ้าในที่นี้มีใครสู้นางได้บ้าง ก็แค่พวกไม่อาจเห็นคนอื่นดีกว่า ได้แต่ริษยา ทว่าไร้หนทางสู้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel