EP.3 ข้อแลกเปลี่ยน
“แกจะใส่ชุดนี้ไปจริงๆ เหรอยัยพิง แม่ว่ามันเก่าแล้วก็เชยมาก”
พรพรรณพูดกับลูกสาวด้วยความหงุดหงิดใจเมื่อเห็นว่าชุดที่พักพิงใส่ไปกินข้าวกับชรัณคือเสื้อยืดกับกางเกงยีนขายาวธรรมดา
“ไปกินร้านหรูทั้งทีแต่งตัวให้มันสวยๆ หน่อยสิ”
พอได้ยินข้อเสนอที่ชรัณยื่นให้ พรพรรณไม่รอช้าจัดการตกปากรับคำแทนลูกสาวในทันที
“ชุดนี้แหละค่ะ จะใส่ชุดไหนไปก็เหมือนกัน”
“ช่วยทำหน้าให้มันดีๆ กว่านี้หน่อย แกกำลังไปเดตกับชรัณ ปัทมพิสุทธิ์เลยนะ เลิกทำหน้าเหมือนจะตายสักที”
“แม่ก็รู้ว่าพิงไม่ได้อยากไปเลยสักนิด” คนตัวเล็กทำหน้าง้ำงอใส่ แต่เพราะขัดใจแม่ไม่ได้จึงต้องยอมแต่โดยดี
“ไม่อยากไปก็ต้องไป เงินตั้งสามล้านแลกกับการไปกินข้าวยอมให้มันจับนิดๆ หน่อยๆ คงไม่ทำให้แกตายหรอกยัยพิง คิดซะว่าทำเพื่อแม่กับน้อง”
“…..”
“รีบไสหัวไป อย่าลืมที่แม่สอนเด็ดขาด อะไรคว้าได้ก็รีบคว้า พวกเราใกล้จะอดตายกันอยู่แล้ว อย่างหยิ่งในศักดิ์ศรีในมันมากนัก!”
“…..”
พักพิงเดินคอตกออกมาจากบ้าน โดยมีแม่ที่คอยชะเง้อคอมองตามจนลับสายตา สถานที่ที่เธอเลือกจะไปคือสวนสาธารณะใกล้บ้านไม่ใช่ร้านอาหารที่ได้นัดหมายเอาไว้
RS Restaurant
“เอาไงดีครับนายน้อย ตอนนี้เลยเวลานัดมาเกือบสองชั่วโมงแล้วนะครับ ผมว่าคุณพักพิงคงไม่มาหานายแล้ว” ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามารายงานผู้เป็นนาย หลายชั่วโมงที่ชรัณนั่งรออยู่ภายในร้านไม่ได้ออกไปไหน
ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา เขาไม่เคยเห็นผู้เป็นนายยอมนั่งรอใครแบบนี้มาก่อนเลย
“แต่พักพิงบอกว่าจะมา ยังไงกูก็จะรอ” ชรัณก้มลงมองนาฬิกาข้อมือที่สวมใส่เพื่อดูเวลา ทั้งๆ ที่เลยเวลานัดมาตั้งนานแต่เขาก็ยังอยากจะรอ
“เรามีนัดต้องไปส่งของให้ลูกค้าคนสำคัญ ผมกลัวจะไปไม่ทัน”
“ยกเลิกนัดออกไปก่อน”
“ถ้ายกเลิกเท่ากับว่าเราต้องจ่ายค่าเสียหายหลายล้านเลยนะครับ”
“ช่างหัวมัน!”
“แต่…”
“เทไวน์มาอีก” ชรัณยื่นแก้วให้ลูกน้องคนสนิทอีกครั้งเพื่อรินไวน์ให้ ในระหว่างที่รอเธอมาหาเขาได้ดื่มไปหลายขวดจนเริ่มเมามากแล้ว
“นายน้อยเมามากแล้วนะครับ ผมว่าพอเถอะ”
“กูสั่งอะไรก็ทำ!”
“คะ…ครับนายน้อย”
เพล้ง! เข้าชั่วโมงที่สามแห่งการรอคอย ความอดทนของชายหนุ่มได้สิ้นสุดลงเมื่อรู้ว่าพักพิงทรยศไม่ยอมมาตามนัด แก้วไวน์ราคาแพงแตกออกเป็นเสี่ยงเมื่อถูกฝ่ามือหนาบีบเข้าอย่างแรง จนเลือดสีแดงสดค่อยๆ ไหลซึมออกจากบาดแผลไหลอาบแขนหยดเป็นทางยาว
“เลือดนายออกเยอะมาก ผมว่าไปทำแผลที่โรงพยายาลก่อนเถอะครับ”
ชายชุดดำต่างพากันวิ่งกูรเข้ามาในร้านหาผู้เป็นนาย การรักษาชีวิตของเจ้านายถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดในอาชีพของพวกเขา
“ไม่ต้องมายุ่งกับกู ถอยออกไปให้หมดไอ้พวกหน้าโง่!” ชายหนุ่มขบกรามกัดฟันแน่นจนเผยให้เห็นเส้นเลือดปูดโปนขึ้นตามลำคอ
“น่ารำคาญนัก เดี๋ยวกูจะไล่ออกให้หมด!”
แกร้ก~
“คุณพักพิงมาแล้วครับนาย” ลูกน้องทุกคนต่างพากันถอนหายใจยาวออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นหญิงสาวเปิดประตูร้านเข้ามาช่วยพวกเขาได้ทันเวลาพอดี
“ขอโทษนะชรัณที่มาช้า พอดีติดธุระที่ร้านนิดหน่อย” เธอพยายามที่จะไม่สนใจแต่สายตากลับเหลือบไปเห็นบาดแผลที่ฝ่ามือของชายหนุ่ม ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะยังรอเธออยู่
ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากโดยลืมความเจ็บปวดก่อนหน้านั้น ถึงรู้ว่าเธอโกหกแต่เขาก็เลือกที่จะมองข้ามมันไป
“ผมไม่เป็นไรเลยที่รัก เชิญนั่งก่อนสิ”
“ว่าแต่ชรัณไปทำอะไรมาทำไมเลือดถึงออกเยอะขนาดนั้น”
“อุบัติเหตุนิดหน่อย”
“…..” ด้วยความใจดีและมีเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก พักพิงจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋าสะพายขึ้นมาเช็ดเลือดให้คนตรงหน้าอย่างไม่คิดอะไร
“เอาผ้าเช็ดหน้าของพิงไปซับเลือดไว้ก่อนนะ”
“พักพิงของผม ใจดีกับทุกคนแบบนี้เลยหรือเปล่า?” มือหนาเลื่อนไปลูบใบหน้าแสนหวานด้วยความอ่อนโยน สายตาที่ใช้มองเธอเขาไม่เคยใช้มองผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย
“เอ่อ…” คนตัวเล็กสะอึกในลำคอด้วยความพะอืดพะอมเมื่อได้กลิ่นคาวเลือดของชรัณที่เลอะอยู่บนใบหน้าจนต้องรีบใช้หลังมือเช็ดมันออกไป
“กินข้าวกันเถอะ เสร็จแล้วจะได้รีบกลับ พอดีพิงมีธุระต่อน่ะ”
“พวกมึงออกไปก่อน กูอยากกินข้าวกับพักพิงแค่สองคน”
“ครับนาย”
“เวลาไปไหนมาไหนทำไมต้องมีคนคอยเดินตามชรัณด้วย เหมือนกับมาเฟียในหนังที่พิงเคยดูมาเลย” พักพิงกระซิบกระซาบถามด้วยความสงสัยหลังจากที่ลูกน้องของชรัณเดินออกไปจากร้าน
“แล้วอยากมีผัวเป็นมาเฟียหรือเปล่า?”
“…..” ร่างบางหยุดชะงักถึงกลับไปต่อไม่ถูกเมื่อได้ยินคำถามกำกวมสองแง่สองง่าม เธอไม่เข้าใจความหมายในสิ่งที่เขากำลังจะบอก
“ผมหมายถึงชอบเหมือนในหนังไหม”
“ไม่ชอบค่ะ พิงว่ามันดูน่ากลัว”
“ถ้าพิงไม่ชอบ งั้นครั้งหน้าผมจะไม่ให้พวกมันตามมาอีก”
“…..”
“แล้วอาการป่วยของน้องคุณเป็นยังไงบ้าง ผมได้ข่าวมาว่าอาการไม่ค่อยดี”
“ยังทรงตัวอยู่ค่ะ ตอนนี้หมอได้แต่ให้เลือดรักษาไปตามอาการ”
“ผมพอจะรู้จักหมอเก่งๆ ที่อยู่อังกฤษ เขารักษาคนที่เป็นโรคให้นี้หายมานับไม่ถ้วนแล้ว”
“…..” หญิงสาวก้มหน้านั่งเงียบอย่างชั่งใจเพราะเธอเคยศึกษาข้อมูลมาก่อนหน้านั้นว่ามีค่าใช้จ่ายในการส่งผู้ป่วยไปรักษาตัวที่นั่นค่อนข้างแพงมากหลักสิบล้านก็ว่าได้
แต่เงินจำนวนมากมายขนาดนั้นคงไม่มีปัญหาหามันได้แน่ๆ เลยทำได้แค่รักษาประคับประครองน้องสาวไปแบบนี้เรื่อยๆ
“ถ้าพิงสนใจอยากให้น้องไปรักษาตัวที่นั่นลองคุยกับผมได้นะ แค่คุณสั่งผมจะจัดการทุกอย่างให้เอง”
“ขอบคุณนะ แต่พิงไม่อยากรบกวน”
“อย่าเพิ่งปฏิเสธผมสิที่รัก ลองกลับไปคิดดูก่อน”
