Chapter 7
Chapter 7
“เอาน่า อย่าคิดมากสิ” เมื่อเห็นยาหยีทำสีหน้าเศร้า สายลมก็รู้สึกผิดทันที เขาไม่น่าปากพล่อยแซวอะไรแบบนี้เลย ทั้งที่ก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างวายุกับยาหยีในตอนนี้เป็นยังไง
“พี่หมอรับกาแฟเลยไหมคะ” ยาหยีรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เมื่อเห็นสายลมมองเธออย่างเวทนา
“จัดมาเลยครับ พี่ขอเข้ม ๆ นะ”
“ได้เลยค่ะ ว่าแต่พี่หมอกินแซนด์วิชด้วยไหมคะ หนูทำเอง” ยาหยีหยิบกล่องแซนด์วิชออกจากถุงผ้าส่งให้คุณหมอสายลม
“พี่จะพลาดของอร่อยฝีมือระดับเชฟแบบหนูได้ยังไงล่ะ” สายลมยื่นมือไปรับกล่องแซนด์วิชจากยาหยีด้วยรอยยิ้มทะเล้น
“งั้น...พี่หมอรอแป๊บนะคะ เดี๋ยวหนูจะไปชงกาแฟมาให้กินกับแซนด์วิช” พูดจบ ยาหยีก็ผละตัวเดินไปที่ห้องแพนทีน แต่พอเข้ามาในห้องแพนทีน กลับเห็นคนตัวสูงคายกาแฟบ้วนทิ้งลงอ่างล้างมือด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“เชี่ย ทำไมกูชงเองถึงไม่อร่อยเลยวะ”
“ให้หนูชงกาแฟให้ไหมคะเฮีย”
“ไม่ต้องยุ่ง”
“ค่ะ” ยาหยีพยักหน้ารับทราบในสิ่งที่เขาบอก จากนั้นเธอก็หยิบเมล็ดกาแฟใส่เครื่องชงกาแฟอย่างคล่องแคล่วเสมือนมืออาชีพ
เมื่อเห็นยาหยีทำในสิ่งที่เขาห้าม วายุก็หันไปดุยาหยีทันที “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องยุ่ง ฟังไม่รู้เรื่องเหรอยาหยี”
“หนูก็ไม่ได้ยุ่งกับเฮียซะหน่อย แต่หนูกำลังจะชงกาแฟให้พี่หมอลมต่างหากล่ะคะ” ยาหยีตอบกลับน้ำเสียงใจเย็น
พอได้ยินคำตอบจากยาหยี เขาก็หน้าเสียไปเสี้ยววินาที ก่อนจะทำเสียงไม่พอใจในลำคอแล้วเดินออกจากห้องแพนทีนไปอย่างหัวเสีย
“เหอะ...” ยาหยีทำเสียงเลียนแบบวายุเบา ๆ และจัดการชงกาแฟต่อ เมื่อชงกาแฟเสร็จแล้ว หญิงสาวก็เดินออกจากห้องแพนทีน
ก๊อก! ก๊อก!
ยาหยีเคาะประตูห้องทำงานสองครั้ง ก่อนจะใช้มือข้างที่ว่างผลักเปิดประตู แต่พอหญิงสาวก้าวขาเข้ามาในห้อง ปรากฏว่าคุณหมอสายลมไม่ได้อยู่ในห้องเพียงลำพัง
“มึงซื้อแซนด์วิชมาจากไหนวะไอ้หมอ โคตรอร่อยเลยว่ะ” วายุเคี้ยวแซนด์วิชตุ้ย ๆ อย่างถูกปาก ไม่สนใจคนที่ถือกาแฟกลิ่นหอม ๆ เข้ามาในห้องทำงานแม้แต่น้อย
“ผมไม่ได้ซื้อ แต่น้องยาหยีทำมาให้ผมกิน” สายลมตอบพี่ชายพลางยกกาแฟที่ยาหยีเพิ่งเสิร์ฟขึ้นจิบ
“เหรอวะ” วายุพูดแค่นั้น เขาก็วางแซนด์วิชลงบนกล่องสีใสทันที
“ทำไมไม่กินให้หมดเนี่ย กินทิ้งกินขว้างเสียดายของแย่” สายลมตำหนิพี่ชายที่หยุดกินไปดื้อ ๆ ทั้งที่ก่อนหน้าแย่งเขากินหน้าตาเฉย
“พอกูรู้ว่าใครเป็นคนทำ กูก็กินไม่ลงเลยว่ะ”
“พูดอะไรของเฮียวะเนี่ย” สายลมทำตาดุใส่พี่ชายที่พูดไม่ถนอมน้ำใจยาหยีเลยสักนิด
“กูพูดตามความจริง” วายุตอบกลับหน้าตาเฉยไม่ได้รู้สึกผิดต่อคำพูดของตัวเองเลยสักนิด จากนั้นคนตัวสูงก็หยัดตัวลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินออกจากห้องไป
“เดี๋ยวพี่จะไปหาหมอผีมาปราบผีห่าตัวนี้ออกจากร่างเฮียเอง”
“เขาคงไม่มีทางกลับมาเป็นเฮียวายุคนเดิมของหนูแล้วละค่ะ...”
“เอาน่า อย่าคิดมาก” เป็นอีกครั้งที่สายลมพูดประโยคนี้เพื่อปลอบใจยาหยี
“หนูกำลังจะชินแล้วค่ะ งั้นหนูขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” ก็แค่จะชิน แต่เธอไม่เคยชินเลยสักนิดกับคำพูดใจร้ายของวายุ
“ครับ” เมื่อยาหยีเดินออกจากห้องไป สายลมก็มองตามยาหยีด้วยความรู้สึกสงสาร สายลมได้แต่หวังว่าสักวันพี่ชายของเขาจะกลับมาเอ็นดูยาหยีเหมือนเดิม
