Chapter 5
Chapter 5
วันต่อมา...
ยาหยีลืมตาตื่นในเวลาหกโมงเช้า จากนั้นก็หันไปมองคนข้างกายที่นอนห่างกันหนึ่งช่วงแขน เมื่อเห็นว่าเขายังนอนหลับอยู่ ยาหยีจึงขยับตัวลงจากเตียงเบา ๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว
สิบห้านาทีต่อมาเมื่อหญิงสาวออกจากห้อง อาทิตย์และจันทร์ฉายไม่ได้อยู่หน้าห้องแล้ว พอลงมาชั้นล่างบรรยากาศก็เงียบกริบ ยาหยีก็เลยเดาได้ว่าพวกท่านน่าจะกลับคฤหาสน์ไปแล้ว
คฤหาสน์ของตระกูลเตชะอมรทรัพย์ตั้งตระหง่านอยู่ย่านใจกลางเมืองบนอาณาจักรของพวกเขา โดยจะมีบ้านของจันทร์เจ้าลูกสาวคนโตของอาทิตย์อยู่หลังถัดจากคฤหาสน์ บ้านของหมอสายลมจะอยู่หลังที่สาม และบ้านของวายุจะอยู่หลังสุดท้าย ถึงแม้พวกเขาจะแยกบ้านอยู่คนละหลัง แต่ทว่าลูก ๆ ของอาทิตย์ก็มักจะแวะเวียนไปนอนค้างที่คฤหาสน์เป็นประจำ และตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อเดือนก่อน วายุเป็นคนเดียวที่ไม่เคยนอนค้างที่คฤหาสน์อีกเลย
“เมี้ยว ~” เจ้าแมวตัวอ้วนขนสีขาวผสมสีน้ำตาลส่งเสียงร้องเมี้ยว ๆ อย่างดีใจ มันเอาขนฟู ๆ ไปถูไถที่ขาเรียว เพื่อเรียกร้องความสนใจจากหญิงสาว ด้วยความที่ยาหยีและยูริไม่เคยห่างกันข้ามคืน แต่เมื่อคืนทั้งคู่ต้องห่างกันเป็นครั้งแรกเพราะยาหยีต้องเข้าห้องหอตามพิธีแต่งงาน
“เมื่อคืนไปอยู่บ้านป้าจันทร์เจ้า หนูคิดถึงหม่ามี้ไหมยูริ” ยาหยีโน้มตัวอุ้มยูริมากอดหอมด้วยความคิดถึง ยูริเป็นแมวที่พ่อแม่ของเธอให้เป็นของขวัญวันเกิดตอนอายุสิบสี่ปี ยูริจึงเปรียบเสมือนคนในครอบครัวที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้ของยาหยี
“เมี้ยว ๆ” ยูริเอาลิ้นเย็น ๆ ของมันตวัดเลียแก้มเนียนใส แล้วส่งเสียงร้องไม่หยุด
“ร้องอ้อนแบบนี้คิดถึงหม่ามี้มากล่ะสิ หม่ามี้ก็คิดถึงยูริที่สุดเลยลูก” ยาหยีเอามือนุ่มนิ่มลูบหัวยูริพร้อมทั้งก้มจุมพิตยูริตามตัวด้วยความรัก และเมื่อหญิงสาวกอดหอมเจ้ายูริจนหายคิดถึง ยาหยีก็ไปเทอาหารให้ยูริกิน เธอนั่งเฝ้ายูริกินอาหารอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผละตัวเดินเข้าครัวไปทำมื้อเช้าเตรียมไว้ให้วายุ
ยี่สิบนาทีต่อมา ในขณะที่ยาหยีกำลังจัดอาหารวางไว้บนโต๊ะ ก็ได้กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย หญิงสาวจึงเงยหน้ามองไปทางบันไดก็เห็นวายุเดินลงมาจากชั้นสองด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ต่อให้เขาจะทำหน้านิ่ง ความหล่อของเขาก็ฟุ้งกระจาย หรือพูดง่าย ๆ ก็คือเขาใช้ความหล่อได้เปลืองมาก
“อาหารเช้าเสร็จพอดีเลยค่ะเฮีย...” ยาหยีเอ่ยบอกวายุด้วยน้ำเสียงสดใส ไม่ได้นึกถึงคำพูดของเขาหรือเรื่องราวเมื่อคืนให้ขุ่นใจ เพราะเธอถือคติที่ว่า เช้าวันใหม่หากเราสร้างพลังบวก สิ่งดี ๆ จะดึงดูดเข้าหาตัวเรา
แต่อีกคนกลับไม่ได้คิดแบบนี้ เพราะคนตัวสูงเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง โดยไม่ได้สนใจเสียงใส ๆ ที่พูดกับเขาแม้แต่น้อย
“วันนี้หนูทำเมนูโปรดของเฮียด้วยนะคะ...” ยาหยียังคงพูดต่อด้วยความเอาอกเอาใจ เพราะคนรักสุขภาพอย่างเขา มื้อเช้ามักจะเลือกกินเมนูที่ได้รับสารอาหารเป็นโปรตีน ซึ่งแซนด์วิชอกไก่ไข่ต้มเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เขาชอบมาก
ในขณะที่หญิงสาวกำลังโพรโมตอาหารราวกับเชฟภัตตาคาร คนตัวสูงที่กำลังจะเดินออกจากบ้านชะงักหยุดเดินแล้วหันมามองหญิงสาวใบหน้ารูปไข่ผิวพรรณขาวผ่องสว่างออร่าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูแคลน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อย่ามาทำเป็นรู้ดี ว่าฉันชอบหรือไม่ชอบอะไร เพราะหากเธอรู้ใจฉันจริง เธอก็คงจะรู้ตัวว่าฉันไม่ชอบเธอเลยสักนิด...”
“...” คำพูดเจ็บแสบที่พูดย้ำซ้ำ ๆ ว่าเขาไม่ชอบเธอนั้น ทำลายพลังบวกของเธอในเช้านี้จนหมดสิ้นราวกับโดนเขาทุบตีหัวใจจนรู้สึกจุกอก
“หึ...” เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะบีบน้ำตาใส่เขา วายุก็ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย ก่อนที่เขาจะเดินออกจากบ้านไป
“เมี้ยว ๆ” ยูริส่งเสียงร้องขึ้นพร้อมกับเสียงรถสปอร์ตที่ขับออกจากบ้าน
“หม่ามี้ไม่ได้เป็นไรสักหน่อย โดนลุงดุนิดเดียวเอง” ถึงจะบอกยูริไปแบบนั้น แต่ทว่าหญิงสาวก็ทรุดตัวนั่งลงกับพื้น อุ้มยูริมากอดไว้แนบอก เอาใบหน้าซบลงบนตัวยูริจนขนฟู ๆ นุ่ม ๆ เปียกชื้นไปด้วยหยดน้ำตา
