๓.๗ ง้อรัก

เมื่อกี้เขายังย้ำสัญญาอย่างนุ่มนวลอบอุ่น แต่ไม่กี่อึดใจต่อมาก็ขู่ว่าจะปล้ำ ทำให้อนุรดีต้องทำเสียงเขียวใส่แม้จะไม่มากนัก เพราะยังอยู่ในห้วงอารมณ์สุดวาบหวาม

“เอะอะก็ขู่แต่จะปล้ำ”

“ก็อยากปล้ำจริงๆ นี่ ที่ยอมรับปากว่าจะรอก็เพราะรัก หนูดีจ๋า...ตามใจคนเมาหน่อยนะจ๊ะที่รัก พี่จะได้หายปวดหัวแล้วก็ปวดตรงที่หนูดีกำลังจับอยู่”

“ถ้าหนูดีทำแล้วพี่เตจะหายปวดหัวและเอ่อ...หายปวดตรงนี้เหรอคะ”

“หายสิจ๊ะ หายแน่นอน เพราะประสาทการรับรู้ของพี่จะรู้สึกอย่างอื่นแทน เชื่อเถอะว่าปากและลิ้นนุ่มๆ ของหนูดีรักษาอาการที่พี่เป็นอยู่ตอนนี้ได้”

“งั้นก็ได้ค่ะ”

เธอยอมตกปากรับคำด้วยสีหน้าที่แดงซ่าน ทั้งอยากตามใจเขาและอยากลองอยากรู้ บอกตัวเองว่ามันคงไม่เสียหายอะไรนัก ตอนนี้เขาไม่มีเสื้อผ้าปกปิดร่างกายสักชิ้น แต่อาภรณ์ของเธอยังอยู่ครบ และลึกๆ แล้วเธอเชื่อว่าเตชินท์จะรักษาคำพูด ขนาดวันนั้นที่เขาถอดเสื้อและจูบสองเต้าทรวงอวบอิ่ม มันก็ยังไม่มีอะไรเกินเลยมากเกินขอบเขต ทั้งๆ ที่หากเขาจะทำจริงๆ เธอคงไม่มีแรงห้ามปรามเขา

เมื่อตัดสินใจได้ มือเล็กที่โอบแก่นกายแข็งครัดอยู่ ก็เริ่มแสดงความรักต่อเขาอย่างนุ่มนวลด้วยการเลื่อนไล้เบาๆ เธอสังเกตว่าหน้าท้องเขาหดเกร็ง อาจจะเพราะรอคอยให้เธอจูบหรือตื่นเต้นสุดๆ เหมือนอย่างที่เธอรู้สึกอยู่ตอนนี้

“หนูดีจ๋า...”

เสียงแหบห้าวครางเรียกชื่อเธอเสียงกระเส่าเว้าวอน อนุรดีหันไปมองเขาอีกครั้ง ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบเบาๆ ตรงปลายยอด และพรมจุมพิตเล็มเลียไปทั่วอาณาบริเวณจนเขาฉ่ำชื่นไปหมด

ร่างใหญ่เสียวสะท้าน สัมผัสจากริมฝีปากนุ่มที่จูบอย่างคนไม่ประสา ได้สร้างความสยิวสุดขีดให้กับเขาจนอยากได้มากกว่านั้น

“หนูดีจ๋า...อ้าปากขึ้นจ้ะคนดี รับพี่เข้าไปนะ พี่อยากเป็นส่วนหนึ่งของหนูดี”

อนุรดีทนต่อเสียงเว้าวอนออดอ้อนสุดวาบหวามนั้นไม่ไหว เธอเผยอปากขึ้นอย่างไม่เกี่ยงงอน และเตชินท์ก็รีบแอ่นสะโพกป้อนความโชนชันเข้าสู่ช่องปากเล็กที่อ้ารับทันที

ความใหญ่โตค่อยๆ ถูกกลืนกินเข้าไปในปากนุ่ม เธอพยายามจะครอบครองเขาให้หมด แม้จะยากเหลือเกินเพราะ ‘เขา’ ยาวเหยียดและอลังการมากกว่าปากเล็กๆ ของเธอนัก

“อูวว...เสียวจังหนูดี ลึกกว่านั้นอีกทูนหัว แรงๆ ลึกๆ ที่รัก”

เสียงสูดปากครางกระเส่าอย่างสุดสยิวดังขึ้น เมื่ออนุรดีเริ่มรูดริมฝีปากนุ่มขึ้นลงตามแก่นแกนชายแท้ เธอไม่ได้รักเขาแค่ปากแต่มือก็ช่วยกันด้วย เตชินท์รู้อยู่เต็มอกว่าหนูดีของเขาไม่เคยทำเช่นนี้กับใครมาก่อน แต่ว่าสัญชาตญาณของเธอช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน แม้จะผ่านผู้หญิงมามากแต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้เขาประทับใจได้เท่านี้ หรืออาจเป็นเพราะผู้หญิงเหล่านั้นเป็นแค่ความสนุกทางอารมณ์ ไม่ใช่ความรักลึกซึ้งเช่นเดียวกับที่เขารู้สึกกับอนุรดีอยู่ตอนนี้

ชั่วขณะหนึ่งเตชินท์นึกอยากจะให้แฟนสาวตวัดขามานั่งคร่อมเหนือใบหน้าเขา ในท่านั่งเหมือนตัวเลขสองตัวที่กลับหัวกลับหาง ใช้นิ้วคลี่ขยายกลีบดอกไม้สาวอ่อนนุ่มให้สยายเบ่งบานออก แล้วจ้วงสอดชิวหาจุ่มลึกเข้าไปในเธอ ตวัดดื่มกินหยาดหยดความหวานของอิสตรีไปพร้อมกันเหลือเกิน แต่ก็ต้องยั้งใจและบอกตัวเองว่า ยังมีเวลาอีกเยอะที่เขาจะทำเช่นนั้น หากเขาเอาแต่ใจตัวเองเกินไปในตอนนี้ อนุรดีอาจไม่ไว้ใจและไม่กล้าเข้าใกล้เขาอีก ดังนั้นเพื่อไม่ให้ลูกไก่ตัวน้อยตื่นตระหนก สมภารอย่างเขาจำต้องใจเย็นอดทนรอคอยและจดจ่ออยู่กับความสุขสยิวที่เธอกำลังมอบให้อยู่ตอนนี้ไปก่อน

“หนูดีจ๋า หนูดี โอวว สุขสุดๆ เลยที่รัก”

ร่างใหญ่ยันตัวขึ้นมานั่ง มือข้างหนึ่งยันกับที่นอน อีกข้างยกขึ้นขยี้ผมนุ่มสลวย ตามองปากจิ้มลิ้มที่ครอบครองแก่นกายเขาและโยกขยับขึ้นลงๆ

แต่...หนุ่มนักรักเลือดร้อนเช่นเขาอดทนรอความสุขแบบเนิบนาบนั้นไม่ไหว จึงเป็นฝ่ายเด้งสะโพกแกร่งเสยอัดขึ้นสู่โพรงปากนุ่มแบบดุดันหนักหน่วงและรัวยิบ กระทั่งจังหวะสุดท้ายเขาแอ่นหน้าเกร็งหน้าขาค้างไว้ ก่อนที่ร่างใหญ่จะกระตุกพร้อมกับซี้ดปากดังกระเส่าด้วยความสุขเสียวสุดอารมณ์

“หนูดี หนูดีจ๋า พี่เสียว เสียวสุดๆ โอววว”

ความสยิวพุ่งไปยังจุดสุดยอด ในขณะที่แกนแก่นของเนื้อแท้ยังคาค้างอยู่ในปากเล็กนุ่มสุดให้อารมณ์ของเธอ ไม่กี่อึดใจต่อมาเตชินท์ก็ปลดปล่อยธาราแห่งความสุขให้อนุรดีได้เชยชิม

แม้ความอุ่นซ่านแปร่งปร่านั้นจะเป็นรสชาติแปลกใหม่ แต่อนุรดีก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเกี่ยงงอนหรือรังเกียจใดๆ ตรงกันข้ามเธอกลับกลืนกินและรีดเร้นส่วนที่คั่งค้าง จนเตชินท์เอ่ยชมออกมาสลับกับครางด้วยความสุขแบบอิ่มเต็มไม่ขาดปาก