อดีตบุตรสาวของตัวประกอบขอใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

96.0K · จบแล้ว
หย่งเอ๋อร์
37
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ภพชาติใหม่นี้หลู่ฟู่หลินลั่นวาจาอย่างหนักแน่นว่าจะไม่มีวันกลับไปรักเขา ทว่ายิ่งหนีเขากลับยิ่งชอบมาปรากฏกายให้นางหวาดกลัว แล้วนางจะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้ อดีตบุตรสาวตัวประกอบอย่างนางขอใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

นิยายจีนโบราณท่านอ๋องราชวงศ์/ชนชั้นเจ้านางเอกเก่งพระชายาแฮปปี้เอนดิ้งสัมพันธ์ครอบครัวจีนโบราณโรแมนติก18+

บทที่ 1 นางจะไม่รักเขาอีกแล้ว

“ไท่จื่อเพคะ ช่วยหม่อมฉันด้วย” เสียงหวานใสเจือสะอื้นดังขึ้นจากริมฝีปากบางเฉียบ เรือนกายงดงามในชุดสีชมพูอ่อนนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยเศษดินกลางป่าใหญ่ เสียงนกฮูกร้องระงมดังลั่น ผสานไปกับเสียงคำรามของสัตว์ใหญ่ทำให้หัวใจของคนที่ได้ยินร่วงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มด้วยความหวาดกลัว

หลู่ฟู่หลินพาร่างที่ชุ่มโชกไปด้วยโลหิตค่อยๆคลานกระเถิบไปยังต้นไม้ใหญ่ หากแต่มันทำได้ยากเหลือเกิน เพราะตอนนี้นางแทบไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลืออยู่เลย อาภรณ์ตัวงามเปรอะเปื้อนไปด้วยเศษดินและเศษใบไม้ที่ติดอยู่เต็มร่างรวมไปถึงบนศีรษะของนาง ท้ายที่สุดจึงยอมทิ้งกายลงนอนเช่นเดิม ด้วยคิดว่าถึงอย่างไรนางก็ไม่อาจรอดชีวิตไปจากที่นี่ได้อย่างแน่นอน

“คนใจร้าย หม่อมฉันเกลียดท่าน” หญิงสาวเปล่งเสียงร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ คิดไปถึงบุรุษผู้หนึ่งคนที่นางรักจนหมดหัวใจ ยอมมอบกายมอบใจให้ ทำทุกอย่างเพื่อเขา ทว่าแม้นางจะรักเขามากเพียงใด แต่อนุที่ต่ำต้อยอย่างนางมีหน้าที่แค่เพียงปรนเปรอความสุขให้เขาในยามที่ต้องการเท่านั้น หากแต่สุดท้าย เขาก็ทอดทิ้งนางไปหาสตรีอีกคน เขากลัวว่านางจะขัดขวางเส้นทางรักของเขากับสตรีผู้นั้นจนถึงกับส่งคนมาทำร้ายนาง หลังจากที่คนร้ายใช้กระบี่แทงไปที่หน้าท้องของนางจนหมดสติ พวกมันคิดว่านางสิ้นใจแล้วจึงนำร่างของนางมาทิ้งไว้กลางป่า

“ท่านพ่อ ท่านพี่เจ้าขา หลินเอ๋อร์คิดถึงพวกท่านเหลือเกิน มารับข้าไปอยู่ด้วยเถิดนะเจ้าคะ” หลู่ฟู่หลินคิดถึงใบหน้าของบิดาและพี่ชายที่จากไปเมื่อสองปีก่อน

หลู่โจวหลินต้องโทษประหารชีวิตในโทษฐานที่เป็นหัวหน้ากลุ่มก่อกบฏ ตามกฏของแคว้นเป่ยผู้ใดที่ก่อกบฏจะต้องได้รับโทษประหารทั้งตระกูล และเพราะเป็นเช่นนี้ หลู่อวี้โจวผู้เป็นพ่อจึงโดนต้องโทษไปด้วย หากแต่นับว่าศาลยังมีเมตตาละเว้นโทษให้ฮูหยินผู้เฒ่าเยว่เฉียวกับไต้ลี่ผิงผู้เป็นมารดาเลี้ยงและหลู่รั่วอิงน้องสาวต่างมารดาของนาง และอันที่จริงหลู่ฟู่หลินก็ต้องได้รับโทษไปด้วย เพราะถือว่าเป็นผู้สืบสายโลหิตเดียวกันกับนักโทษหลู่โจวหลิน ทว่าเว่ยหยวนไท่จื่อได้ขอให้ศาลละเว้นชีวิตของนางไว้ และรับนางมาเป็นอนุของเขา

หลู่ฟู่หลินซาบซึ้งใจที่เขาช่วยเหลือเกินนางเป็นอย่างมาก ทำให้ความรักที่มีต่อเว่ยหยวนทวีคูณมากขึ้นไปอีกเท่าตัว นางทุ่มเททุกอย่างเพื่อเขา คิดว่าเขาช่วยเหลือนางเพราะความรัก หากแต่สุดท้ายก็พบความจริงว่าแท้จริงแล้ว เขาไม่ได้รักนางเลยแม้แต่น้อย เขาแต่งสตรีอื่นเข้ามาอยู่เคียงข้างกายเขาในฐานะไท่จื่อเฟย ทุกวันนางต้องเห็นเขาใช้ชีวิตอยู่กับสตรีผู้นั้นอย่างมีความสุข ในขณะที่หัวใจของนางเจ็บปวดราวจะขาดรอนๆ และสุดท้ายเขาก็คิดกำจัดนางโดยการส่งคนมาทำร้ายนางจนถึงแก่ชีวิต

“หากย้อนเวลากลับไปได้ หม่อมฉันจะไม่ขอรักท่าน” หลู่ฟู่หลินพึมพำเสียงแผ่ว ยามนี้นางอ่อนล้าเต็มทีแล้ว ขณะที่โลหิตจากบาดแผลก็ยังคงไหลทะลักทลายออกมาอย่างไม่ขาดสาย หญิงสาวรู้สึกเหน็บหนาวจนจับขั้วหัวใจ ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย นางเห็นใครบางคนก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านพี่ พวกท่านมารับหลินเอ๋อร์แล้ว” ภาพคืนวันแห่งความสุขหวนคืนเข้ามาในห้วงของความคิด ถึงแม้ว่าความจริงแล้วท่านแม่หยางเสี่ยวเหมยจะจากไปตั้งแต่นางอายุได้เพียงไม่กี่หนาว ทว่าเมื่อได้เห็นทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาในตอนนี้ทำให้นางรู้สึกมีความสุขมากเหลือเกิน

หลู่ฟู่หลินยื่นมือน้อยที่กำลังสั่นระริกไปข้างหน้า ก่อนที่ไม่นานร่างบางของนางพลันเกร็งสะท้านขึ้น มือบางตกลงข้างตัวพร้อมกับที่ห้วงลมหายใจสุดท้ายได้หยุดลง

สุดท้าย…จุดจบของนางร้ายก็ไม่อาจรอดพ้นความตายไปได้อยู่ดี

“ฮึก ฮือ” เสียงสะอื้นดังแผ่วออกมาจากริมฝีปากบางทำให้คนที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องชะงักฝีเท้าลงทันใด ชิงชิงรีบปรี่เข้าไปหาร่างบอบบางของเจ้านายสาวที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ทว่าบริเวณหางตากลับมีหยดน้ำสีใสกำลังไหลรินออกมา

“คุณหนูเจ้าขา คุณหนูตื่นเถิดเจ้าค่ะ”

ร่างบางของหลู่ฟู่หลินขยับไปมาตามแรงเขย่าของชิงชิง ไม่นานเปลือกตาบางก็ค่อยๆเปิดขึ้น พร้อมกับที่คนตัวเล็กขยับกายลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว

“คุณหนูฝันร้ายอีกแล้วหรือเจ้าคะ” สีหน้าของชิงชังเต็มไปด้วยความห่วงใยไม่ต่างจากน้ำเสียง หลู่ฟู่หลินยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลเกลื่อนอยู่บนดวงหน้างามออกอย่างลวกๆพร้อมกับหันไปมองในกระจกทองเหลือง ทำให้ได้เห็นว่ายามนี้ทั้งดวงตาและจมูกของนางแดงก่ำ ราวกับจมูกของกระต่ายก็มิปาน

“เช็ดหน้าเช็ดตาก่อนนะเจ้าคะ”

“ขอบใจนะชิงชิง” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้พี่เลี้ยงที่ควบตำแหน่งสาวใช้คนสนิท ก่อนจะรับผ้าสะอาดสีขาวที่ชุ่มน้ำอย่างหมาดๆขึ้นมาเช็ดหน้าเช็ดตา หลู่ฟู่หลินไม่ได้รู้สึกตกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในความฝันแต่อย่างใด เพราะตอนนี้มันได้กลายเป็นเป็นเรื่องที่นางคุ้นเคยไปเสียแล้ว

“คุณหนูเอาแต่ฝันถึงเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา ชิงชิงคิดว่ามันไม่ปกติแล้วนะเจ้าคะ”

หลู่ฟู่หลินได้แต่ส่งยิ้มอ่อนให้ชิงชิง ที่ชิงชิงสงสัยเป็นเพราะว่าชิงชิงไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากฝีมือของคนผู้หนึ่ง ท่านแม่หยางเสี่ยวเหมยของนางเรียกคนผู้นั้นว่า ‘นักเขียน’ และเรื่องราวทั้งหมดในโลกนี้ก็เป็นโลกนิยายที่นักเขียนผู้นั้นได้สร้างสรรค์ขึ้นมา โดยที่นางมีบทบาทเป็นนางเอกในนิยายเรื่องนี้ซึ่งจะพลิกบทบาทกลายเป็นนางร้ายในภายหลัง ส่วนนางเอกที่แท้จริงก็คือหญิงสาวที่มาจากยุคศตวรรษที่ 21 และที่ท่านแม่หยางเสี่ยวเหมยรู้ก็เป็นเพราะว่าตัวของนางเองก็มาจากยุคนั้นเช่นเดียวกัน

นอกจากจะฝันเห็นตอนที่ตนเองโดนทำร้ายจนสิ้นใจ นางยังฝันถึงบุรุษผู้หนึ่งที่มีนามว่า ‘เว่ยหยวน’ เสมอ ทว่าเว่ยหยวนไท่จื่อคนนี้นางย่อมรู้จักเขาเป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นถึงทายาทของเว่ยฮ่องเต้ องค์รัชทายาทของแคว้นเป่ยแห่งนี้อย่างไรเล่า หลู่ฟู่หลินกับเว่ยหยวนเคยพบเจอกันตั้งแต่ตอนที่นางอายุประมาณสามหนาว นางจำได้ว่าตอนนั้นเขากับเมิ่งฮองเฮาเสด็จมาที่จวนสกุลหลู่เพื่อมาขอบคุณท่านแม่หยางเสี่ยวเหมยที่ได้ช่วยชีวิตของเขาจากการจมน้ำเมื่อหลายวันก่อนหน้านั้น

ตอนที่เห็นพระพักตร์ของเว่ยหยวนไท่จื่อครั้งแรก หลู่ฟู่หลินรู้สึกไม่ชอบหน้าเขาเท่าใดนัก จนถึงกับเคยเอาไม้ตีศีรษะของเว่ยหยวนจนเขาเปล่งเสียงร้องไห้โฮ วิ่งไปฟ้องเมิ่งฮองเฮาแทบไม่ทัน นับว่าตอนนั้นนางยังโชคดีอยู่บ้างที่เมิ่งฮองเฮาไม่ทรงถือสาเด็กน้อยอย่างนางจึงไม่เอาเรื่องเอาราวอะไร หาไม่นางคงได้สิ้นชื่อไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

หากแต่ว่าครั้งล่าสุดที่ได้พบเจอกันเมื่อแปดปีก่อนที่งานเลี้ยงฉลองวันพระราชสมภพครบสี่สิบหกชันษาของเว่ยฮ่องเต้ นางก็ไม่ได้พบเจอกับเขาอีกเลย ได้ยินแค่เพียงข่าวว่าเว่ยหยวนไท่จื่อเสด็จออกไปร่ำเรียนวิทยายุทธกับท่านอาจารย์ผู้เลื่องชื่อที่เมืองต้าอิงที่อยู่ห่างออกไปถึงแดนใต้

จากเรื่องราวระหว่างเขากับนางในตอนนี้ นางคิดไม่ออกด้วยซ้ำไปว่าเรื่องราวในโลกนี้จะเป็นจริงดั่งในความฝันได้อย่างไรกัน หากอิงตามเรื่องราวในนิยายที่นางเคยฝันถึง ยามนี้นางกับพี่ชายฝาแฝดหลู่โจวหลินมีอายุได้สิบเจ็ดหนาว และเขาจะทำการคบคิดกับขุนนางผู้ทะเยอทะยานคนหนึ่งเพื่อก่อการกบฏ จากนั้นในอีกไม่กี่เดือนต่อมาเขาจะโดนจับได้และต้องโทษประหารชีวิต โดยที่ท่านพ่อหลู่อวี้โจวก็ได้โดนหางเลขไปด้วย

หลู่ฟู่หลินเคยนั่งทบทวนเรื่องราวในนิยายและโลกแห่งความเป็นจริง พบว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างจากโลกในนิยายที่นางฝันถึงอยู่มาก หนึ่งคือท่านแม่หยางเสี่ยวเหมยของนางยังคงมีชีวิตอยู่ สองคือท่านพ่อหลู่อวี้โจวไม่ได้แต่งงานใหม่ไปกับคุณหนูสกุลไต้ที่ยามนี้นางได้แต่งงานกับบุตรชายของพ่อค้าผู้หนึ่ง เพราะนางดันไปพลาดท่าเสียทีให้กับเขา เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่วที่ถูกพูดถึงไปทั่วทั้งเมืองหลวงในตอนที่นางอายุได้ราวห้าหนาว เรื่องนี้ทำให้ไต้ลี่ผิงอับอายเป็นอย่างมาก เดิมทีไต้ลี่ผิงนั้นถูกศาลตัดสินโทษให้ถูกขังอยู่ในคุกมืดหลังจากที่เคยส่งคนมาทำร้ายท่านแม่หยางเสี่ยวเหมยของนางถึงสองปีเต็ม แต่หลังจากนั้นนางก็ได้รับการอภัยโทษให้ออกมาจากคุกมืด แต่หลู่ฟู่หลินเคยได้ยินท่านพ่อกับท่านแม่ของนางสนทนากันว่าคงต้องเป็นฝีมือของเสนาบดีไต้ที่แอบช่วยเหลือผู้เป็นบุตรสาว หลังจากที่เข้าพิธีแต่งงานกับชายผู้นั้น ไต้ลี่ผิงก็ได้ย้ายออกจากเมืองหลวงติดตามสามีไปค้าขายอยู่ที่เมืองอื่น

และสุดท้าย ตอนนี้นางไม่ได้รักเว่ยหยวนไท่จื่อเหมือนในนิยาย ที่กล่าวไว้ว่าเขาได้เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงหลังจากไปศึกษาวิทยายุทธกับท่านอาจารย์ผู้เลื่องชื่อที่เมืองต้าอิงซึ่งตรงกับช่วงเวลานี้พอดี

แม้ว่าตอนนี้นางจะยังไม่ได้พบเจอกับเว่ยหยวนไท่จื่อ หากแต่หลู่ฟู่หลินก็มั่นใจว่านางไม่มีวันรักเขาอย่างแน่นอน แม้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเป็นไปตามที่นางเคยฝันถึงหรือไม่ก็ตาม

ก๊อกๆๆ!

ขณะที่หลู่ฟู่หลินกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ เสียงเคาะประตูก็ได้ดังขึ้นทำให้นางต้องหยุดความคิดลงพร้อมกับหันดวงหน้างามไปยังประตูไม้บานใหญ่

“คุณหนูเจ้าคะ ฮูหยินผู้เฒ่าให้บ่าวมาแจ้งกับคุณหนูว่าตอนนี้พร้อมออกเดินทางแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้ประจำสกุลหลู่เอ่ยกับเจ้านายอย่างนอบน้อม หลู่ฟู่หลินหันไปมองหีบใส่ของใช้ส่วนตัวที่ชิงชิงตระเตรียมไว้ให้นางเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนจึงหันไปเอ่ยกับสาวใช้คนเดิม

“บอกท่านย่าว่าข้าขอเวลาหนึ่งถ้วยชาแล้วจะรีบตามไป”

สาวใช้ผู้นั้นตอบรับคำสั่ง จากนั้นจึงเดินถอยหลังออกไปจากห้อง ขณะที่หลู่ฟู่หลินรีบก้าวขาลงจากเตียงวิ่งไปยังหลังฉากกั้นเพื่อให้ชิงชิงช่วยปรนนิบัติเปลี่ยนอาภรณ์ เป็นเพราะเมื่อคืนฝันถึงเรื่องราวในนิยายทำให้นางตื่นสายกว่าทุกวัน อีกทั้งวันนี้นางยังมีนัดสำคัญกับท่านย่าเยว่เฉียวว่าจะเดินทางขึ้นไปสวดมนต์ไหว้พระอยู่ที่วัดบนภูเขาและค้างที่นั่นสักสองสามคืน ซึ่งนางทำแบบนี้มาเป็นประจำทุกปี ปีละหนึ่งหน

หารู้ไม่ว่าการที่หลู่ฟู่หลินติดตามฮูหยินผู้เฒ่าไปที่วัดบนภูเขาในปีนี้จะทำให้นางได้พบเจอกับใครบางคนที่นางไม่คาดคิด!