ตอนที่หนึ่ง น่าเบื่อหน่าย (กรุบกริบ)
ตอนที่หนึ่ง
น่าเบื่อหน่าย
คลิก คลิก คลิก
เสียงแป้นพิมพ์รัวดังไม่หยุดสลับกับเสียงถอนหายใจในสำนักงานซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับตัวเลขอันคร่ำครึ
พนักงานซึ่งเป็นหญิงทั้งสาวและไม่สาวต่างก้มหน้าก้มตาคิดคำนวณตรวจสอบความถูกผิดของงานโดยแทบไม่ได้เงยหน้าเงยตามองรอบข้าง
วันทั้งวันจะมีเพียงเสียงน้ำซึ่งถูกกดดังอยู่ในห้องสุขาเท่านั้นซึ่งบ่งบอกว่าทุกคนยังขับเคลื่อนเดินได้ กับเสียงถอนหายใจเฮือกๆมาเป็นระยะเพื่อบ่งบอกการมีชีวิต
แม้จะเบื่อหน่ายในหน้าที่การงานจนอยากจะคว่ำโต๊ะปิดเครื่องมือตรงหน้าแทบแย่ แต่ทุกคนย่อมไม่สามารถละทิ้งความวุ่นวายยุ่งยากได้ เพราะถึงอย่างไรก็ยังต้องกินต้องใช้ ต้องพึ่งพาเงินเดือนในแต่ละเดือนซึ่งแลกมาด้วยความอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงและที่สำคัญงานที่นี่ยังมีเข้ามาให้ทำอย่างต่อเนื่องจนเลิกคิดเรื่องการตกงานหรือโดนให้ออกไปได้เลย
คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ทุกคนต้องนั่งปิดยอดสิ้นเดือนให้เสร็จทันกับกำหนดเวลาซึ่งไล่เข้ามาใกล้จนจวนเจียนจะขาดใจเต็มที บรรยากาศเงียบเชียบมีเพียงเสียงแป้นพิมพ์กับเสียงถอนหายใจสลับกันยังคงดังมาให้ได้ยิน
‘ฟ้า’หัวหน้าสำนักงานแห่งนี้เครียดหนักนั่งกุมขมับด้วยยังไม่สามารถหาข้อผิดพลาดของเอกสารตรงหน้าได้แม้จะวนดูอยู่จนตาแทบกลับไปอีกด้าน
เฮ้อ...จับผิดยากชะมัด รู้ทั้งรู้ว่าหมกเม็ด แต่คนทำก็เก่งเหลือเกิน เธอและลูกน้องไล่มาหลายรอบแล้ว เจอแต่ส่วนที่ผิดเล็กๆน้อยๆ ยังหาข้อผิดพลาดแบบโต้งๆไม่ได้ แล้วแบบนี้จะให้เซ็นชื่อรับรองลงไปได้อย่างไร
ขืนเซ็นสุ่มสี่สุ่มห้าลงไปมีหวังก้าวขาข้างหนึ่งไปอยู่ในลูกกรงสี่เหลี่ยมแน่ๆ
เอาอย่างไรดีนะ
ร่างอวบซึ่งไม่เคยออกกำลังกายด้วยกรำงานหนักเกือบตลอดเวลาค่อยๆเลื่อยลงไปฟุบอยู่บนโต๊ะในท่าก้มหน้าลงกับแขนทั้งสองข้างอย่างทดท้อ
ไม่นานสาวใหญ่ผู้เคร่งขรึมก็จมเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างอ่อนล้าไปทั้งกายใจ
“คุณชายเบาหน่อยสิเจ้าคะ เหตุใดรุนแรงเช่นนี้”
“เพียงคิดว่าได้ขย่มบนร่างของน้องเฟยเฟย ข้าจะเบาได้อย่างไร”
“แต่ข้ามิใช่ฮัวเฟยฮวา ข้าชื่ออาจิว คุณชายอย่าได้โหมแรงเช่นนี้สิเจ้าคะ”
“อย่าได้พูดมาก โอ้ววววว น้องเฟยเฟยของข้า”
ฟ้าเบิกตามองภาพตรงหน้าด้วยนัยน์ตาเหลือกลาน นี่เธอฝันบ้าบออะไร ฝันว่ามาแอบถ้ำมองคนกำลังสอดใส่ร่วมรักกันเนี่ยนะ
ภาพตรงหน้าช่างเด่นชัดราวเธอกำลังยืนอยู่ข้างเตียง พวกเขาต่างเปลือยร่างโยกเข้าโยกออกอย่างไม่มีออมแรง แม้ฝ่ายหญิงสาวจะร้องบอกให้เบา แต่ร่างบางกลับยังคงเด้งขึ้นลงตอบรับพร้อมเปล่งเสียงครวญครางซ่านกระเส่า
หัวหน้างานสาวจดจ้องมองภาพการขับเคลื่อนอย่างไม่วางตา โชคดีที่พวกเขามองไม่เห็นว่ามีคนยืนดูอยู่อย่างใกล้ชิดจึงยังคงดำเนินกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างเต็มแรง
ชายหนุ่มสอดใส่แท่งเนื้อของตนเองมุดหายเข้าไปจนมองไม่ทันก่อนจะชักดึงออกมาแลเห็นแท่งเนื้อซึ่งอาบชุ่มไปด้วยน้ำเหนียวสีขาวฉ่ำเยิ้ม
เขาชักเข้าดึงออกเร่งเร็วอยู่เช่นนั้นจนร่างเปลือยขาวโพลนของหญิงสาวโยกคลอนสั่นไหวไม่หยุด
ทรวงอกใหญ่โตถูกมือใหญ่บีบเคล้นจนไหลไปไหลมาแทบบี้แบน ร่างทั้งสองเต็มไปด้วยเหงื่อซึ่งอาบท่วมบ่งบอกได้ว่าทุ่มเทแรงกายไปกับกิจกรรมตรงหน้ามากเพียงใด
“อื้อ...คุณชาย ข้าใกล้แล้ว”
“อย่าเพิ่ง รอข้าก่อน อ้า...”
ชายหนุ่มเร่งแรงโหมกระหน่ำกดสะโพกตอกอัดดังตับตับสะเทือนเลื่อนลั่นจนหญิงสาวที่ลอบมองอยู่ถึงกับสูดปากด้วยความเจ็บแทนสาวร่างบางข้างใต้
ทำไมต้องรุนแรงขนาดนั้น ไม่เจ็บกันบ้างหรือ ดูสิ ทั้งหน้าอก ทั้งช่องทางรัก ถูกบดขยี้ไม่มีเบามือ
ผู้ชายคนนี้นี่ช่างดุเดือดเสียจริง
แน่นอนว่าสาวโสดอย่างหัวหน้างานผู้ไม่เคยมีแม้แต่คนคบหาย่อมไม่เข้าใจเรื่องเช่นนี้
จวบจนชายด้านบนตอกทิ่มครั้งสุดท้ายพร้อมเปล่งเสียงร้องครางดังยาวราวถูกเชือดและสั่นกระตุกไปทั้งกาย ขณะร่างชื้นเหงื่อของหญิงสาวด้านล่างหดเกร็งทั้งแขนขาใบหน้าบิดเบี้ยว
สาวใหญ่ผู้กำลังใจเต้นระทึกกับภาพเร่าร้อนจึงได้ออกจากความฝันพร้อมสะดุ้งตื่นน้ำลายเปียกปอนจนต้องรีบปาดเช็ดอย่างหวาดระแวง
บ้าจริงเชียว ถ้าใครรู้ว่าแอบงีบหลับแล้วฝันขนาดนี้คงโดนแซวจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
เฮ้อ!...ฝันจนเปียกทั้งบนแฉะทั้งล่าง
หัวหน้างานสาวขยับขาซึ่งร่องกลางฉ่ำนองไปด้วยน้ำใสจากอารมณ์ร่วมกับสองหนุ่มสาวในความฝัน
ว่าแต่ คนอื่นเป็นอย่างไรกันบ้างแล้ว
หญิงสาววัยสี่สิบต้นรีบเงยหน้าขึ้นมองลูกน้องสาวแต่ละคนซึ่งยังคงก้มหน้าก้มตาหมกมุ่นอยู่กับงานของตนเองอย่างไม่พร้อมจะสื่อสารกับใคร
พวกเขาใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้นโดยแทบลืมกินข้าวกินปลาจนโรคกระเพาะแทบถามหาแล้ว
“เฮ้อ...”
