9 ร่วมด้วยช่วยกัน
“เอาออกได้แล้ววิชญ์ พี่หนัก!”
“อยู่นิ่งๆ ก่อนพี่มิน”
สรวิชญ์รวบมือทั้งสองข้างของมินตราไว้เมื่อพี่สาวคนสวยเริ่มพยศ เธอพยายามจะผลักเขาออกเพราะรู้ดีว่าสิ่งที่เขากำลังจะทําต่อคืออะไร
“ถ้าจะทำต่อต้องเปลี่ยนถุงก่อนนะวิชญ์!”
มินตราพยายามขยับตัวแต่สรวิชญ์ก็ใช้กําลังในการควบคุม เพียงแค่เธอดิ้นก็ขยับสะโพกอยู่เหนือร่างมินตราอีกครั้ง
“วิชญ์เปลี่ยนถุงยางเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวมันแตก” เธอได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กหนุ่มบนร่าง นี่เขาแกล้งเธอเล่นงั้นเหรอ ไม่นานนักเขาก็ยอมถอดถอนตัวตนออกไป
สรวิชญ์ถอดถอนตัวตนออกมา ลมหายใจหอบถี่อย่างเหนื่อยอ่อนก่อนที่จะทิ้งร่างลงข้างกายของมินตรา
เรื่องบนเตียงของนักศึกษาปีหนึ่งอย่างนายวิชญ์ที่ตอนแรกมินตราดูไม่ประสีประสาอะไรเท่าไหร่ เขาเล่าว่าเคยช่วยตัวเองตอนดูหนังโป๊ แต่เธอลืมไปว่าหนังโป๊กว่าจะจบก็เป็นชั่วโมง มินตราแกล้งจูบปาก เขาตัวก็สั่นแล้ว ยิ่งตอนที่เธอดูดให้ครั้งแรก เขาดิ้นแทบตาย แต่พอสอดใส่เท่านั้นแหละ ทำให้เธอมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว สรวิชญ์และมินตรานอนกอดกันทั้งคืน
เขานอนหลับไปแล้ว แต่เธอกลายเป็นนอนไม่หลับ จะทำอย่างไรดี จะบอกแฟนเธออย่างไรที่เธอเผลอมีอะไรกับนายวิชญ์
เช้านี้มินตรา ตื่นแต่เช้าเพื่อไปขอกุญแจสำรองจากพี่รัตน์เจ้าของหอพัก จนได้ความว่า มีคนเก็บกุญแจห้องพักได้ที่หน้าทางเข้า
“เขาเอามาฝากคืนไว้เมื่อเช้านี้เอง พอดีเขามากินข้าวที่ร้านน้า”
“ขอบคุณมากคะน้ารัตน์”
“เออ!!.. แล้วเมื่อคืนหนูมินไปนอนไหนละ ทำไมไม่มาปลุกน้า”
“หนูไปนอนห้องเพื่อนค่ะ” มินตรารีบโกหก เธอได้กุญแจก็รีบเข้าห้องไป เปลี่ยนชุดที่ยังไม่แห้งนั้นผึ่งไว้ จะใส่ชุดนายวิชญ์ออกมาก็ไม่กล้า เพราะมันคือชุดของนายวิชญ์ น้ารัตน์ต้องรู้แน่ ๆ ว่าเธอไปนอนกับนายวิชญ์
“เมื่อคืนฝนตกหนัก น้าหลับไม่รู้เรื่องเลย ถึงมีคนมาเคาะน้าก็คงไม่ได้ยินแน่ ๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกน้ารัตน์”
“เออ!..แล้ววันนี้มีเรียนมั้ย”
“หนูมีเรียนเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ค่ะ”
“อ๋อ”
สรวิชญ์ที่หลับใหลอยู่ควานหาร่างอวบอิ่มที่นอนซุกเขาทั้งคืนไม่เจอก็เลยรีบตื่นขึ้น เขาเดินไปเปิดประตูห้องก็พบว่ารองเท้าของเธอไม่อยู่แล้ว เหลือบไปมองห้องที่ติดกันก็เห็นอยู่หน้าห้องเธอแล้ว สงสัยว่าหญิงสาวจะได้กุญแจเข้าห้องแล้ว สรวิชญ์จึงไปเคาะเรียก
“พี่มิน ๆ”
“หญิงสาวเดินมาเปิดประตู”
“มีอะไรวิชญ์ วันนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ ทำไมยังไม่รีบไปอาบน้ำแต่งตัว” สรวิชญ์คิดในใจ ถ้าเธอมาอยู่กับเขาแล้วคอยเตือนแบบนี้ก็ดีสินะ
“พี่จะออกจากห้องมาทำไมไม่บอกผม”
“ก็พี่เห็นเธอหลับอยู่ ก็ไม่เลยอยากจะกวน”
“พี่ลืมชุดชั้นในไว้ที่ห้องผมนะ”
“เดี๋ยวพี่ค่อยไปเอา”
“วิชญ์อย่า ..เมื่อคืนยังไม่พออีกเหรอ”
มินตราเอ่ยพลางจะปิดประตูหนี แต่สรวิชญ์คว้าไว้และแทรกกายเข้ามาในห้องของเธอพร้อมกับดันกายเธอไปติด ผนัง ก่อนที่จะปลํ้าจูบเธอทันที
กรี๊ด! “อะไรเนี่ยวิชญ์ อื้อ... ปล่อยฉันนะ นายเป็นบ้าอะไรขึ้นมาเนี่ย มินตราพยามผลักร่างของเขาออก
“สรวิชญ์! ปล่อยฉันนะ! ฉันบอกให้ปล่อย อื้อ...ปล่อย!
“ไม่!......ไม่ปล่อย...เมื่อเขาไม่หยุดรุกลํ้า และเธอก็เหนื่อยเกินที่จะสู้แรงกับเขาเพราะแทบไม่ได้นอนทั้งคืน ร่างของคนทั้งสองจึงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่
สรวิชญ์พยายามที่จะปลํ้าจูบ มินตราพยายามดิ้นและหลีกหนีจากการ กระทําของเขาหญิงสาวจึงร้องออกมาทั้งนํ้าตา
“วิชญ์ เรื่องเมื่อคืนพี่ว่าเราจบกันแค่นี้ พี่บอกวิชญ์ไปแล้วว่าพี่มีแฟนแล้ว” หญิงสาวเอ่ยพลางดิ้นให้หลุดจาก พันธนาการของเขา เมื่อได้ยินมินตราพูดออกมาดังนั้นความโกรธปนหึงที่ใกล้ถึงขีดสุดในหัวใจของ สรวิชญ์ก็พุ่งทะลุปรอททันที เขาตรงเข้าไปปลํ้าจูบหญิงสาวเพื่อสั่งสอนให้เธอรู้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์อ้างคำว่าแฟนกับเขามินตราเองก็ตกใจกับการกระทําของเขาไม่น้อย หญิงสาวพยายามหนีและปัดป้องสุดชีวิตแต่ก็ไม่อาจพ้นไปจากอ้อมแขนแกร่งและมากไปด้วยพละกําลังของสรวิชญ์ไปได้
กรี๊ด...สรวิชญ์! ปล่อยฉันนะ อื้อ...อื้อๆๆ หญิงสาวร้องออกมาเป็นพัลวัน พยายามปัดป้องการรังแกของเขา ทั้งผลักทั้งทุบแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเขากลับทํารุนแรง มากขึ้น
อื้อ...วิชญ์! อื้อ อย่า!...อื้อ อื้อ... จนกระทั่งเสียงของหญิงสาวขาดหายไปเพราะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ การกระทําของเขาจึงค่อยๆ นุ่มนวลขึ้นเรื่อย ๆ และความรู้สึกความรักที่เขาส่งผ่านมาหญิงสาวก็ได้รับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน หากแต่ความโกรธปนน้อยใจยังคงเหลืออยู่ในสํานึกเธอมองหน้าเขานิ่งพยายามที่จะผลักเขาออกไปแต่ดิ้นก็แล้วทุบก็แล้วผลักก็แล้วก็ไม่มีผล
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“หนูมิน! มีอะไรกันหรือเปล่า ...เสียงดังเชียว! ” น้ารัตน์เจ้าของหอมาเคาะห้องเพราะเดินผ่านแล้วได้ยินเสียงตึงตัง
มินตรารีบผลักเขาออกไปได้ในที่สุด หลังจากที่การกระทําถูกขัดจังหวะด้วยการเคาะประตูและเสียงเรียกของน้ารัตน์ มินตราก้มหน้านิ่งไม่หันมองเขาเลยแม้แต่น้อย สรวิชญ์เองก็ตกใจและนิ่งไป
“มีอะไรกันหรือเปล่า ทะเลาะอะไรกันเสียงดังเชียว อย่าบอกนะว่ายังแย่งห้องกันอยู่” น้ารัตน์ พูดเสียงเรียบพลาง มองหน้าสรวิชญ์ที่นิ่ง
“ก็ประมาณนั้นครับ” สรวิชญ์ต้องแกล้งเนียน เพราะตอนนี้ต้องช่วยกันแก้สถาณการณ์เฉพาะหน้า
“ก็นายวิชญ์เค้าอยากจะได้ห้องนี้ บอกยังไงเขาก็ไม่เชื่อค่ะน้ารัตน์ มินตราก็ช่วยพูดตามน้ำไปก่อน
“น้าว่าถ้าทั้งสองเคลียร์กันไม่ลงตัว ก็ย้ายพร้อมกันเลยมั้ย น้ามีห้องว่างฝั่งท้ายสุดอีกห้องหนึ่ง แล้วก็ฝั่งทางหัวสุดอีกห้องหนึ่ง”
“อืม..ไม่ดีกว่าค่ะ/ครับ” ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน
“งั้นก็รีบตกลงกันละ แล้ววันนายวิชญ์ไม่ไปเรียนเหรอ เปิดเทอมวันแรกนี่น่า”
“ไปครับน้ารัตน์”
“แล้วมัวอยู่ทำไมล่ะ สายแล้วนะ จะกินข้าวหรือเปล่าน้าจะได้ทำรอ” น้ารัตน์ไม่กลับมือเปล่าแถมมัดมือชกขายของซะด้วย
“ครับน้า เอากะเพราไก่ไข่ดาวนะครับ ขอไข่ดาวกรอบ ๆ นะครับ”
“โอเคร ได้ แล้วหนูมินจะ เอาอะไรดีจ๊ะ”
“ของหนูเป็นฉู่ฉี่ทะเลค่ะน้า แต่ว่าของหนูไม่ต้องรีบนะคะ เดี๋ยวหนูอาบน้ำเสร็จจะออกไปค่ะ”
สรวิชญ์จำใจออกจากห้องของมินตรา เพื่อไม่ให้น้ารัตน์สงสัย อีกอย่างน้ารัตน์ต้องไปฟ้องแม่ของเขาแน่ ๆ เพราะน้ารัตน์ก็รู้จักแม่ของเขาเช่นกัน
