ตอนที่ 6 ขิงก็ราข่าก็แรง ep.6
ชัยชนะส่ายหน้าไปมา
“ได้มาเยอะสินะ ถึงไม่สนใจงานนี้เลย หากนายร่ำรวยมากพอแล้ว ก็อย่ามารับงานแสดงละครเลย ไปอยู่ที่ตลาดหลักทรัพย์จะดีกว่า จะได้ลุ้นได้เต็มที่..”
ทฤษฎ์ธาดาหัวเราะเบา ๆ
“ไหน ๆ ก็ว่างแล้ว ดื่มเหล้ากันดีกว่า..ผมเลี้ยงเอง ที่เดิมนะครับ ทุกคนเชิญนะครับ..”
เขาพูดจบก็เดินออกไปท่ามกลางสายตาของทุกคน โดยไม่สนใจว่าจะถูกตำหนิหรือทำให้ใครต่อใครหัวเสียขนาดไหน แต่ว่า เมื่อเขาคล้อยหลังไปทีมงานทุกคนก็เก็บของหลังจากนั้นก็ไปรวมตัวกันที่ร้านประจำที่เขามักจะเลี้ยงอยู่บ่อย ๆ
“ผู้ชายเฮงซวยอะไรแบบนี้ บ้าชะมัดเลย..”
ญารินดารู้สึกหงุดหงิดแล้วอารมณ์เสียอย่างมาก แม้ว่าเธอจะมาถึงบริษัทเพื่อเตรียมตัวเข้าประชุมแล้วก็ตาม แต่ความขุ่นเคืองในหัวใจที่มีต่อเขาก็ยังสุมแน่น
“พร้อมหรือยังคะ..”
“คุณปาลินยังไม่มาค่ะ..”
เลขาวัยสี่สิบเศษร้องบอกเธอ
“ไม่ต้องรอค่ะ พี่ปาไม่มา..เริ่มประชุมได้เลยค่ะ..”
ญารินดาเข้าร่วมประชุมรับฟังการสรุปผลกำไรและรายได้ทั้งหมดในสามเดือนที่ผ่านมา
“ได้กำไรเหมือนไม่ได้ มันเป็นเพราะอะไร..”
“กำลังผลิตของเราไม่เพียงพอและก็ไม่ได้มาตรฐาน สินค้าที่ผลิตออกมาเสียหายมาก แม้ว่าเราจะเพิ่มราคาก็ไม่เป็นผล..”
“มันแก้ปัญหาที่การเพิ่มราคาไม่ได้ อย่างหนึ่งได้กำไรอีกอย่างหนึ่งขาดทุน เท่ากับเสมอตัวก็จริง แต่เราต้องพัฒนาฝีมือของแรงงานและคุณภาพของสินค้า มันอยู่ที่อะไรแน่..”
“ต้นทุนการผลิตของเราไม่เพียงพอ จึงต้องหาวัสดุที่มีราคาถูกมา เมื่อเริ่มต้นผลิต วัสดุไม่ได้มาตรฐาน ทำให้สินค้าด้อยคุณภาพ แล้วคนงานก็ทำงานยากประกอบกับพวกเขาไม่ชำนาญ..”
เธอระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ กับคำรายงานและการอธิบายของผู้เข้าร่วมประชุม
“มันดีขึ้นหรือเลวลงกันแน่ ทำท่าเหมือนจะดี เพราะมีทุนมาลงเพิ่ม แต่กลับเป็นแบบนี้ มันหมายความว่าทุนที่เราเอามาลงมันไม่พอกับวัสดุที่มีคุณภาพ..”
“ครับ..”
ผู้บริหารทุกคนต่างลงความเห็นแบบนั้นทำให้เธอยิ่งกลัดกลุ้มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพราะเงินทั้งหมดที่มีเธอก็เอามาลงทุนกับวัสดุเพื่อผลิตสินค้า ที่เหลือก็แบ่งไว้สำหรับการรักษาเยียวยาพ่อ
นี่เธอจะทำอย่างไรดี รายได้จากการแสดงเมื่อรวมกับเงินที่ปาลินให้ก็ยังไม่พออยู่ดี ถึงแม้เธอจะดีใจว่ามันทำให้เธอมีทุนเพิ่ม แต่พอมาถึงวันนี้เธอกลับรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน
“ดูสีหน้ารินไม่ค่อยดีเลยนะจ๊ะ..”
ปาลินเอ่ยทักเมื่อมาเยี่ยมพ่อเหมือนเช่นทุกวัน แล้วเดินมาหาเธอที่นั่งอยู่ที่ลานหญ้านุ่ม ๆ บริเวณหน้าบ้าน
“มีอะไรหรือเปล่า..”
เธอตัดสินใจมองหน้าพี่สาวคนเดียว
“ปล่อยให้บริษัทปิดดีไหมคะพี่ปา รินไม่ไหวแล้ว..”
“ริน!!..”
เธอก้มหน้าลง
“รินรู้ว่าเป็นหยาดเหงื่อของคุณพ่อและเป็นสิ่งที่คุณพ่อรัก มันเหมือนชีวิตของท่านแล้วก็เป็นเหมือนเลือดเนื้อของรินด้วย เพราะรายได้จากบริษัทจึงทำให้รินเรียนจบ แต่ว่า..”
“เงินไม่พอใช่ไหม ต้องการเท่าไหร่..”
เธอมองหน้าปาลินทันที
“พี่ปาคะ พอเถอะค่ะ อย่าเอาของเขามาอีกเลย รินไม่อยากได้แล้ว ยิ่งรินคิดว่า พี่ปาจะต้องเสียสละอะไรบ้างเพื่อเงินแต่ละก้อน รินก็ยิ่งเจ็บและรู้สึกผิด..”
ปาลินวางมือลงที่บ่าของเธอก่อนจะเลื่อนไปกอดไว้แล้วซบหน้าลงไปหาศีรษะเล็กของเธอ
“อย่าคิดมากเลยนะ พี่ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนักหนา พี่ต่างหากที่อยู่สบาย แล้วทิ้งภาระให้รินคนเดียว ไหนจะคุณพ่อ ไหนจะบริษัท..”
“แต่พี่ปาต้องเสียสละมากมายเพื่อจะพยุงบริษัทไว้ หากพี่ปาไม่แต่งงานกับเขาก็อาจจะได้อยู่กินกับคนที่พี่ปารัก เพราะรินไร้ความสามารถเอง..”
“คิดมาก”
หล่อนมองหน้าน้องสาวก่อนจะนั่งลงตรงข้าม
“พี่จะโอนเข้าบัญชีให้อีกนะจ๊ะ แต่ว่า คงต้องเป็นเดือนหน้า เพราะว่าเดือนก่อนพี่เอามาแล้ว..จะขอเขาทุกเดือนก็กระไรอยู่..”
ญารินดารวบมือบางของปาลินไว้แน่น
“พี่ปาไม่ต้องโอนให้รินแล้วนะคะ รินพอจะมีทางออกแล้วล่ะค่ะ พี่ปามีก็เก็บไว้เป็นส่วนตัวบ้างเถอะนะคะ.”
“มีทางออกจริง ๆ หรือ..”
เธอฝืนยิ้มออกมาแล้วก็รีบปรับสีหน้าให้ดูสดใสขึ้นทันที
“ได้ระบายบ้างแล้วรู้สึกดีขึ้นจริง ๆ..”
เธอยิ้มกว้าง
“วันนี้รินให้แม่ครัวทำของโปรดของพี่ปาไว้ ทานด้วยกันก่อนนะคะ..”
“จ้ะพี่ก็ตั้งใจอย่างนั้น..”
สองพี่น้องนั่งคุยกันเหมือนคนที่มีความสุข แต่ว่าทั้งสองกลับมีเรื่องที่ซ่อนอยู่ในใจแต่ไม่อยากจะบอกซึ่งกันและกันเพราะเกรงว่าจะสร้างความหมองหม่นให้กันและกัน เพราะต่างก็มีปัญหารุมเร้า
ด้านปาลินหล่อนก็ไม่อยากจะขอเงินนายศักดาอีกแล้ว เพราะไม่ว่าหล่อนจะเอ่ยปากเท่าไหร่เขาก็ให้โดยไม่ขัด ทำให้หล่อนยิ่งเกรงใจเขา
ส่วนญารินดา ก็รู้ว่าพี่สาวจำใจแต่งงานกับนายศักดาเพราะต้องการเงิน ทำให้หล่อนต้องเสียสละความรักที่จำต้องปฏิเสธชายคนรักไป หล่อนต้องทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักด้วยหัวใจที่ปวดร้าว เรื่องนี้เธอรู้ดี แม้จะไม่เคยเห็นหน้าชายคนรักของพี่สาวก็ตาม
