ตอนที่ 12 แผนตลบหลังอดีตคนรัก ep.6
ญารินดาตัดสินใจขับรถมายังสถานที่ที่นายดำรงบอกเธอ จนมาถึงบริเวณรั้วบ้านทรงไทยหลังใหญ่ในแถบชานเมือง ที่ห้อมล้อมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์
เธอมองกำแพงบ้านที่สูงตระหง่านที่โอบล้อมตัวบ้านเอาไว้อย่างแน่นหนา ก่อนจะเลี้ยวไปยังประตูอัลลอยด์แล้วบีบแตรหนึ่งครั้ง แต่ก็ยังเงียบ เธอจึงก้าวลงจากรถเดินมองหากริ่งหน้าบ้าน
“ไม่มีกริ่ง..มีใครอยู่หรือเปล่านะ..”
เธอถามตัวเองอยู่ในใจก่อนจะเข้าไปในรถบีบแตรอีกสองครั้งติดต่อกัน รออีกครู่ บานประตูค่อย ๆ เลื่อนเปิดออก เธอจึงขับรถผ่านประตูเข้าไป
ญารินดาก้าวลงจากรถมองไปรอบตัวที่ร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่าสิบปี และได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ไทยที่ส่งกลิ่นหอมในยามเย็น โชยผ่านคละเคล้ามากับสายลมที่พัดแผ่ว
เธอพยายามองหาใครสักคนเพื่อจะบอกความจำนงว่าเธอมาที่นี่เพื่ออะไร แต่ก็ไม่มีใครให้เธอได้พูดคุยด้วยแม้แต่คนเดียว จนกระทั่งเธอเดินเข้ามายังบริเวณบ้านทรงไทยไม้สักทองที่สวยโปร่งโล่ง เดินผ่านออกมายังสระน้ำด้านหลังที่ห้อมล้อมด้วยดอกไม้ไทยปลูกเรียงรายไว้อย่างเป็นระเบียบส่งกลิ่นหอมจรุงอย่างน่าหลงใหล
“มีใครอยู่ไหมคะ ฉันมาพบคุณนฤทธิ์ค่ะ..”
เธอร้องถามเบา ๆ แล้วเหลียวมองไปรอบตัว พร้อมกับเดินไปยังศาลาไม้มะค่าโมงทรงแปดเหลี่ยม
“มาพบผมหรือครับ..”
แต่เสียงที่ดังผ่านมาเหมือนเสียงแว่ว ทำให้เธอหันไปตามเสียง เห็นชายชราวัยกว่าหกสิบ เส้นผมเป็นสีดอกเลา สวมใส่เสื้อผ้ามีราคายืนถือไม้เท้าอยู่ริมสระ
เธอรู้สึกคุ้นหน้าเขาอย่างมาก เหมือนเคยเห็นที่ไหน เธอมองสำรวจผมสีดอกเลาได้รับการตัดแต่งอย่างประณีต ขนคิ้วดกที่ขาวโพลน ดวงตาที่เรียบนิ่งสวมแว่นสายตา เครื่องหน้าของเขาดูคมคาย เธออดคิดเสียไม่ได้ว่า หากเขาเป็นหนุ่ม คงจะหล่อเหลาอย่างมาก
“ค่ะ ดิฉัน ญารินดาค่ะ..”
“ญารินดา..”
เขาทวนชื่อของเธอ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้เธอ โดยถือไม้เท้าค้ำยันหยุดยืนมองดวงหน้าหวานละไมนิ่ง ๆ
“ผมเหมือนจะเคยเห็นหน้าคุณที่ไหนสักแห่ง..”
เธอยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะแนะนำตัวว่าเธอมาจากบริษัทอะไร มาเพื่อจุดประสงค์อะไร
“คุณพอจะแบ่งขายให้ดิฉันได้ไหมคะ..”
เขาพยักหน้าช้า ๆ
“มีคนมาขอแบ่งซื้อจากผมแล้วและให้ราคาดีมาก..”
เธอระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ
“ราคาดีหรือคะ..”
“ครับ เขายินดีซื้อทั้งหมดแล้วให้ราคาดี จริง ๆ แล้วผมตั้งใจจะเปิดโรงงาน แล้วผลิตสินค้าชนิดนี้เหมือนกัน แต่ว่า พอผมได้ยินราคาจากผู้ค้ารายนั้นผมก็อยากจะขายวัตถุดิบที่มีให้กับเขาไปก่อนแล้วค่อยไปหาซื้อมาใหม่..”
“เขาให้เท่าไหร่คะ..”
ทฤษฎ์ธาดา ในคราบของนฤทธิ์ โภคทรัพย์อนันต์บอกราคาที่สูงให้กับเธอ ทำให้เธอนิ่งอึ้ง
“แต่ว่า ผมยังไม่ได้ตอบตกลง..”
เธอเผลอยิ้มออกมาเมื่อมองหน้าเขา
“ขายให้ดิฉันนะคะ..แต่ว่าราคา..”
“ผมยินดีมอบมันให้คุณทั้งหมดโดยไม่คิดเงินสักบาทก็ได้..”
เขาโน้มใบหน้าไปใกล้ ๆ เธอ
“ผมพอใจคุณมาก..”
ดวงหน้าที่อิ่มยิ้มละไมแปรเปลี่ยนไปแทบทันที
“ครั้งเดียวเท่านั้น..ผมยกมันให้คุณทั้งหมดก็ได้ เพราะว่า ผมพอใจคุณมากจริง ๆ..”
ญารินดากำมือแน่นก่อนจะจ้องหน้าเขานิ่ง อยากจะตบหน้าชายแก่คนนี้ให้หนักแต่ก็ทำได้แค่คิด ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมหันหลังเดินจากไป
“ฝันไปเถอะคนอย่างฉัน มีปัญญาหาเงิน แล้วขอบอกหากคุณยังพูดจาเลว ๆ แบบนี้กับฉัน ฉันจะไม่เกรงใจ.”
“คิดดูให้ดีนะครับ ผมจะรอคุณหนึ่งอาทิตย์ หากคุณไม่มาหาผม ผมจะขายให้ผู้ค้าคนอื่น และหลังจากนั้นคุณก็ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก..”
“เก็บความคิดชั่ว ๆ ของคุณเอาไว้เถอะ ต่อให้ฉันหมดเนื้อหมดตัวก็อย่าหวังว่าฉันจะยอม”
“อย่าด่วนปฏิเสธเลยครับ..คิดดูให้ดี กิจการที่เป็นเหมือนชีวิตของพ่อคุณ จะต้องพังด้วยมือของคุณเองงั้นหรือ..”
“อย่าหวังว่าฉันจะมาเหยียบที่นี่อีก ไม่มีวันที่ฉันจะมา..คนชั่ว เลวที่สุด ไปลงนรกซะไป”
เขาหัวเราะเบา ๆ
“ผมรอคุณอาทิตย์เดียวนะครับ วัตถุดิบที่ผมมี สามารถทำให้คุณผลิตสินค้าได้เป็นปี..มันจะทำให้คุณมีทุนเพิ่ม แล้วไม่ถูกปรับเมื่อส่งสินค้าไม่ทัน..แค่คุณยอม..”
เขาทิ้งท้ายไว้เมื่อเดินตามมา
“ครั้งเดียวเท่านั้น..ผมจะรอ..”
เขาตะโกนไล่หลังเธอไป ในขณะที่ญารินดาเดินออกไปยังที่รถของเธออย่างหัวเสีย
“ไอ้บ้า ไอ้คนทุเรศ เห็นฉันเป็นอะไร บ้าที่สุด..”
เธอรู้สึกหงุดหงิดแล้วนึกเกลียดชายแก่คนนั้นอย่างมาก ยิ่งขับรถออกมาจากบ้านของเขา ใบหูก็ยังแว่วได้ยินเสียงของเขา มันทำให้เธอเจ็บใจมากขึ้นไปอีก
