หุบเขาพรายพิศวาสรัก

45.0K · จบแล้ว
Mrs.Lily
43
บท
7.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาเสียวจนตาเหลือกเมื่อสาวเจ้าก้าวขึ้นมาคร่อมทาบเขาไว้ทั้งตัว ก่อนที่ดอกเหมยงามจะเบ่งบานโอบล้อมกระบองดุ้นใหญ่ของเขาจนมิด และแม่นางคนงามก็ควบขี่เขาราวกับเป็นม้าหนุ่มคะนองศึกพร้อมจ้วงทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่ลดล่ะ ผิดก็แค่ม้าอย่างเขามันดันครวญครางเสียงกระเส่าเพราะความเสียวซ่านอย่างไม่มีที่สิ้นสุดก็เท่านั้น “แม่นาง โอว... แม่นาง... ข้าไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว โอว...” “ไม่ไหวก็ปลดปล่อยออกมาสิเจ้าคะท่านพี่ ปล่อยออกมาเลยเจ้าค่ะ ปล่อยเข้ามาในร่างของข้า โอว... ท่านพี่... ปล่อยออกมา... โอว... โอว... ท่านพี่... ข้าเสียว... ท่านพี่... อ้า... ท่านพี่...” เสียงหวานสั่นวิญญาณของสาวสวยทำให้ความสุขสมของเขาพวยพุ่งตามคำเร่งเร้าและแรงควบขี่ไม่ลดละ ดวงตาของเขาจ้องเรือนร่างงดงามที่สะบัดพลิ้วไหวด้วยความกระสันอยากของแม่นางคนงาม และโพรงชุ่มฉ่ำของดอกเหมยก็บีบรัดกระบองดุ้นโตของเขาแนบแน่น แน่น... แน่น... และก็แน่นเสียจนความหฤหรรษ์ที่ได้รับเพียงอึดใจที่ผ่านมากลับกลายเป็นอีกความรู้สึกหนึ่งแทนที่ “แม่นาง...” ดวงตาสวยหวานทอดมองเจ้าของความแข็งแกร่งเบื้องล่าง พร้อมกับแย้มยิ้มอย่างมีความสุขที่ทำให้ดวงตาของเขาต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจ “ปะ... ปล่อยข้า... ปล่อยข้านะ เจ้า... ปล่อยข้า...” เสียงร้องคล้ายจะได้ยินเพียงในลำคอยามที่ร่างแข็งขืนพยายามดิ้นรนพากระบองที่ยังคงแข็งขืนอยู่ในร่องฉ่ำอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งที่ควรจะหดตัวเมื่อหยาดอุ่นพวยพุ่งไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนเท่าไร ก็ไม่อาจทำให้หลุดออกจากโพรงดอกเหมยที่บีบรัดแน่นขนัดนี้ได้ ความแนบแน่นมากมายจนเขาหายใจไม่ออก คล้ายกับว่าโพรงดอกเหมยนี้มีชีวิต และมันไม่ยอมปลดปล่อยเขาออกไป

นิยายสยองขวัญนิยายจีนโบราณตำรวจแวมไพร์จีนโบราณพระเอกเก่ง

EP.1

สองเท้าพาร่างอ่อนล้าเพราะกรำงานหนักมาทั้งวันมุ่งตรงเข้าสู่ตรอกเล็กๆ ที่แยกมาจากถนนเส้นหลักของชุมชนย่านตลาด แม้จะเป็นยามห้ายแต่เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนโหวกเหวกร้องเรียกลูกค้าซื้อของ เสียงลูกจ้างโรงเตี๊ยมเรียกลูกค้าเข้าร้าน เสียงหัวเราะต่อกระซิกครื้นเครงจากโรงคณิกา และเสียงการเล่นที่มีเรียงรายตลอดเส้นทางก็ยังดังต่อเนื่องตลอด เสมือนว่าทุกสิ่งบนถนนเส้นหลักนั้นไม่เคยหลับใหล

แต่สำหรับเขา งานรับจ้างแบกข้าวสารที่กรำมาทั้งวัน ก็หนักหนาเสียจนเขาอยากจะทอดร่างลงนอนแล้วให้น้องนางคณิกาที่ชม้อยชายตาให้เมื่อครู่ บีบนวดให้คลายเมื่อย แต่เพราะความจนทำให้ต้องเจียมตัว เงินที่หาได้ในแต่วันก็ต้องเก็บออมไว้ไถ่ถอนที่นาที่เอาไปจำนองไว้เมื่อครั้งแต่งเมีย

เดิมคิดว่าหน้านาครั้งนี้จะได้ข้าวมากพอที่จะขายและปันเงินมาไถ่ถอนได้ แต่โชคชะตาฟ้าก็กลั่นแกล้งให้ปีนี้น้ำท่วมหนัก ข้าวเน่าตายคานาไปแทบทั้งหมด ที่เหลือก็เพียงเอาไว้กิน เขาจึงต้องจากบ้านมาทำงานในเมือง

ดังนั้นไม่ว่าจะอยากปลดเปลื้องความสุขมากแค่ไหน ก็ต้องทนไว้ หรือหากทนไม่ไหว นิ้วมือทั้งห้าก็ช่วยได้ แต่หากพรุ่งนี้เขาขยันมากขึ้น บางทีเขาอาจมีเงินเพียงพอที่จะหาซื้อความสุข แค่ต้องขอให้ ‘ซ้อเจ็ด’ เจ้าของหอคณิกา ช่วยลดราคาค่าตัวแม่นางเหล่านั้นให้หน่อย เขาจะไม่เกี่ยงไม่เลือกนางใด จะให้ซ้อเจ็ดเลือกให้ แม่นางผู้ใดก็ได้ที่จะพอรับเงินน้อยนิดของเขา

“อูย...”

แค่คิด มือกรำงานมาทั้งวันก็ต้องทาบทับกระบองสั้นเอาไว้เพื่อระงับ แต่เสียงหัวเราะของแม่นางคนงามเหล่านั้นก็ยังคงดังต่อเนื่อง เขาจึงต้องเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้นอีก ถ้าไม่ได้ยินเสียงหวานหัวเราะต่อกระซิก เขาคงจะห้ามตัวเองจนกว่าจะถึงที่พักได้

ยามดึกเช่นนี้ แสงสว่างจากจันทร์ครึ่งเสี้ยวยังพอให้เห็นเส้นทางได้ ยิ่งเดินมาไกล ทั้งเสียงและแสงก็เริ่มจะลดน้อยลง เพราะแม้จะมีแสงจันทร์นำทาง แต่แนวต้นไม้ที่ขึ้นหนาทึบเรียบริมตลิ่งก็ไม่อาจทำให้จันทร์ทอแสงส่องมาถึงได้

อากาศที่เริ่มเย็นทำให้เขาต้องห่อตัวและเร่งฝีเท้า เพื่อให้ถึงยังจุดหมายโดยเร็ว เพราะหากชักช้าแล้วพบเจอสัตว์มีพิษเข้า เขานี่แหละที่จะเดือดร้อน เพราะคงไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าหมอรักษา ลำพังแค่เงินจะหาห้องพักเล็กๆ แค่ซุกหัวนอนก็ยังทำไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เลือกพำนักที่วัดร้างด้านใน

คิดแล้วก็ท้อใจในโชคชะตาเพราะลำพังแค่เงินค่าจ้างต่อวันก็น้อยแล้ว ยังต้องเจียดไว้สำหรับซื้ออาหารแต่ละมื้อ ดังนั้นเรื่องเข้าพักในโรงเตี๊ยมก็เป็นสิ่งที่ไกลตัว คิดแล้วก็ได้แต่แค่นยิ้ม เพราะจนแสนจน แต่เขายังกล้านึกถึงเรือนร่างของแม่นางเหล่านั้น

ร่างเล็กผอมรีบพาตัวเองเดินลัดเลาะตามริมตลิ่ง สายตาสอดส่ายระแวดระวังภัย แต่แล้วอะไรบางอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่ริมน้ำก็ทำให้เขาต้องชะงักฝีเท้า พลางขยี้ตาให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นนั้นใช่อย่างที่คิดไว้จริงหรือไม่

เรือนร่างขาวโพลนท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องกระทบกำลังดำผุดดำว่ายอยู่กลางสายน้ำที่แยกตัวมาจากแม่น้ำสายหลักของเมืองหลวง ขนาบกับตรอกที่เขาเดินเข้า ร่างอรชรแหวกว่ายไปในทิศทางที่เขากำลังตรงไป ‘ท่าน้ำหน้าวัดร้าง’ สถานที่ที่เขาใช้สำหรับชำระล้างร่างกายในแต่ละค่ำคืน

สองเท้าพาก้าวเร็วไวตามใจที่โลดแล่น แม้ว่ามันอยากจะหยุดเต้นเสียเวลานี้ เพราะหากเขาไม่ได้ตาฝาดไป สิ่งที่เห็นนั้นคือ สาวน้อยรูปร่างอรชรที่ไม่ได้นุ่งห่มอะไรเลยสักชิ้น ร่างของแม่นางผู้นั้นเปล่าเปลือยจนเห็นความอวบอิ่มนูนเด่นได้อย่างถนัดตาและยิ่งใหญ่จนเขาอยากไปเห็นให้ใกล้กว่านี้

ยิ่งเดินเข้าใกล้ ดวงตาหื่นกระหายก็ไม่อาจละจากอกอวบอิ่มที่เห็นปริ่มน้ำได้เลย เพราะทรวงอกนั้นไม่ต่างจากดอกบัวคู่งามที่โผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมา มันทั้งอูมใหญ่ ทั้งขาวผ่องกระจ่างชัดอยู่ในค่ำคืน และเมื่อเจ้าของดอกบัวคู่ใหญ่หันมาเห็นเขา หญิงสาวก็ทำท่าเอียงอาย แต่ชม้ายตาให้เขาราวกับเย้ายั่ว