6หงุดหงิด
บทที่5
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างเงียบๆ แล้วเดินไปหาเนเน่ ฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกแย่มากแค่ไหนแต่ฉันจะไม่ร้องไห้ฟูมฟาย จะไม่แสดงท่าทางเสียใจให้เพื่อนรักหรือใครต่อใครต้องเป็นห่วง พี่คชาก็แค่คนเลวคนร่านคนเอาไม่เลือกเท่านั้นเขาไม่ควรจะมามีอิทธิพลกับหัวใจของฉัน เพราะเขาชอบทำร้ายจิตใจของฉันทุกครั้งที่อยู่ใกล้กันหรือได้เจอกัน
"ปะ ไปทานอาหารกัน" เขตแดนเอ่ยกับฉันขณะที่เดินมาพร้อมกับเนเน่
"อืม" ฉันพยักหน้าแล้วฉีกยิ้มให้เพื่อนอย่างสดใส แล้วเดินไปพร้อมๆกัน
"ป้าคะ กระเพราหมูกรอบสามจานค่ะ" เนเน่สั่งแล้วนั่งบนเก้าอี้ พวกเราสามคนชอบทานอะไรเหมือนๆกันเวลาทานพวกน้ำพวกไรก็จะคล้ายๆกันค่ะ เวลาสั่งอาหารเนเน่จะเป็นคนจัดการทุกอย่างเพราะพวกเราสามคนต่างรู้ใจกันและมีอุปนิสัยคล้ายๆกัน
เราสามคนก็นั่งทานอาหารไปเรื่อยๆพร้อมกับคุยกันไปเรื่อยเปื่อยตามประสาของพวกเรานั่นแหละค่ะ แม้ฉันจะมีเรื่องไม่สบายใจแต่ฉันก็ไม่อยากให้เพื่อนต้องคิดมากฉันก็เลยยิ้มแย้มให้ทั้งสองอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าในใจของฉันตอนนี้มันจะร้องไห้แล้วก็ตาม
"อร่อยไหม"
"ก็อร่อยเหมือนเดิมนั่นแหละใครๆก็รู้ว่าร้านของป้าแจ๋วอร่อยทุกอย่าง"
"ใช่ๆอร่อยเหมือนเดิมทุกๆอย่างเลย" เราสามคนก็นั่งทานอาหารไปเรื่อยๆสั่งน้ำสั่งอะไรมากิน พลันสายตาของฉันก็ปรากฏร่างหนาที่คุ้นเคยเดินควงคู่กับผู้หญิงเข้ามาที่ร้าน ช่วงนี้ไม่ว่าจะทำอะไรฉันก็จะเจอแต่เขา เฮ้อ
เขาเดินผ่านเลยไปไม่แม้จะปรายมองฉัน ดีแล้วล่ะ ที่เขาไม่สนใจไม่ปรายตาไม่เอ่ยทักทาย ฉันจะได้ตัดใจง่ายๆแล้วเริ่มต้นใหม่ตั้งใจเรียนทำชีวิตให้มีความสุขดีกว่า
"เออ เมื่อวานฉันไปกินกุ้งทอดผัดซอสมะขามโคตรอร่อยเลย ฉันก็เลยอยากจะให้พิกุลกับเนเน่ได้ทาน"
"ว่าแต่ร้านไหนเหรอที่ว่าอร่อย"
"ร้านข้างบ้าน เอาไว้ตอนเย็นเธอสองคนไปบ้านฉัน ฉันจะพาไปกิน ฉันจะเลี้ยงเหล้ากับน้ำหวานด้วย"
"อืม" เนเน่พยักหน้าตอบรับ เรารีบทานอาหารแล้วเดินออกไป ไม่สนใจมองคนที่นั่งทานกับผู้หญิงไม่ช้ำหน้าหรอกค่ะ พวกเราทั้งสามไปเรียนพอเรียนตอนบ้านเสร็จก็เดินลงมาจากตึกคณะ
"เรา ไปตลาดนัดหลังแถวคลองสี่ไหม" พี่โน่เดินมา
"ไกลไปไหมพี่" เนเน่แย้ง
"ไม่ไกลหรอก เดี๋ยวพี่ขับเอง ไปด้วยกันนะพิกุล"
"พอดีเขตชวนไปบ้านน่ะค่ะ"
"เขตไปด้วยกันนะ เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้าน หรือไม่ก็จะไปกินเหล้าที่บ้านด้วย"
"แบบนั้นจะดีเหรอครับ แล้วรถผมล่ะ"
"ดี ส่วนรถก็จอดมันไว้นี่แหละ"
"งั้นเดี๋ยวผมให้ลูกน้องพ่อมาขับกลับ"
"อืม"
"แล้วพี่จะไปซื้ออะไรที่คลองสี่"
"ไปซื้อตั๊กแตนทอด"
"โถ่ ไอ้พี่บ้า ตั๊กแตนทอดแถวบ้านก็มี"
"มันไม่อร่อยเหมือนร้านนั้นน่ะสิ"
"ร้านไหนก็เหมือนๆกันแหละค่ะ"
"ตลาดแถวบ้านผมอร่อยนะ" เขตแดนเอ่ย
"งั้นไปบ้านตลาดบ้านไอ้เขตแดนแล้วกัน" ทุกคนเดินไปขึ้นรถแล้วพี่โน่ก็ขับแล่นออกไปจนกระทั่งถึงตลาดแถวบ้านเขตแดน ซึ่งมันไม่ไกลจากบ้านของพี่คชามากนัก เราเดินเลือกนั่นนี่ไปเรื่อย
"เดี๋ยวไปซื้อผลไม้ตรงนั้นก่อนนะเขต"
"อืม ได้สิ" ฉันเดินไปเลือกซื้อพวกมะยมพวกผลไม้ดองต่างๆฉันจะซื้อไปไว้ในตู้เย็นเผื่อดึกๆฉันลุกขึ้นมากินช่วงหลังๆเนี่ยตอนดึกฉันรู้สึกหิวอยากกินของเปรี้ยวมาก ฉันก็เลยกะว่าจะซื้อไปกักตุนสักหน่อย
ในขณะที่ฉันกำลังเลือกซื้อผลไม้ก็มีหญิงวัยกลางคนหน้าตาดีดูเป็นผู้ดีมากมาเลือกซื้อข้าวของซื้อผลไม้เหมือนกันกับฉัน นิ้วมือสวยๆนั้นกำลังหยิบจับพร้อมกับเลือกผลไม้ใส่ตะกร้าฉันจ้องมองอยู่นานมากๆเลยค่ะมองแบบลืมตัวไปเลยผู้หญิงคนนี้สวยหวานทำให้ฉันมองเพลินเป็นอย่างมาก
"มาซื้ออะไรเหรอคะ" ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยถามฉัน
"ผลไม้ค่ะ แล้วคุณล่ะคะซื้ออะไร"
"ผลไม่เหมือนกันจ้ะ"
"ค่ะ" ฉันฉีกยิ้มให้เธอ
"เอาทุกอย่างเลยค่ะ หมอกจะจ่ายเงินแล้วจะให้ลูกน้องมาเอานะคะ พอดีหมอกต้องรีบไปธุระต่อค่ะ"
"ได้เลยจ้ะคุณนาย" แม่ค้าเอ่ยกับหญิงคนนั้นพร้อมกับส่งยิ้มอย่างยิ้มแย้ม ฉันมองตามผู้หญิงคนนั้นที่เดินตรงไปที่รถ พลันสายตาของฉันก็เห็นวัตถุสีดำล่วงหล่นลง มันเป็นกระเป๋าสตางค์สีดำที่ล่วงออกมาจากกระเป๋าถือใบใหญ่
"คุณคะ" ฉันรีบวิ่งไปเก็บกระเป๋าแล้วรีบวิ่งตาม
"มีอะไรหรือเปล่าคะ" ผู้หญิงคนนั้นหันมายิ้มให้ฉันอย่างใจดี
"กระเป๋าคุณหล่นค่ะ" ฉันยื่นกระเป๋าสีดำใบนั้นให้ท่าน
"อุ้ยตาย ฉันนี่สะเพร่าจริงๆเลย ถ้าเกิดว่ากระเป๋าใบนี้หายไปแล้วแย่เลย ขอบคุณนะคะที่เก็บกระเป๋าใบนี้ส่งคืนให้ฉัน"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"ฉันจะให้สินน้ำใจเธอนะ" ท่านควักเงินออกมาจากกระเป๋า
"ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน"
"เอาไปเถอะนะ
"ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันรีบปฏิเสธทันที แต่ท่านก็ยังยัดเงินจำนวนหนึ่งให้ฉันอยู่ดี
"เอาไปเถอะ มันได้มากอะไรเลย ส่วนนี้นามบัตรของฉัน มีอะไรให้ฉันช่วยก็ติดต่อไปนะ" ท่านยัดนามบัตรใส่เงินฉันแล้วเดินขึ้นรถไป ฉันมองรถที่เคลื่อนออกไปจนลับตาก่อนจะเอาเงินใส่กระเป๋าตัวเองแล้วเดินมาที่ร้านผลไม้ ฉันจ่ายเงินค่าผลไม้แล้วเดินไปหาเขตแดน
"ตั๊กแตนทอดแม่งโคตรอร่อย"
"พี่ก็อร่อยทุกครั้งแหละ เวลาที่กินแมงประหลาดนั้น"
"ก็มันอร่อยนิ่"
"อร่อยก็กินเยอะๆ"
--------------
คชา...
ผมเอนกายมองดูสารคดีสัตว์โลกกับหลานของผม ขุนเขานั่งอยู่ข้างๆ ส่วนสายน้ำนั่งอยู่ไม่ไกลมากครับ ทั้งสองนั่งดูนิ่งๆเปิดทีวีเสียงดังลั่น
นกฟลามิงโก เป็นนกที่มีซากฟอสซิลสามารถนับย้อนไปไกลได้กว่า 30 ล้านปีก่อน นกฟลามิงโกอาศัยอยู่เป็นฝูงขนาดใหญ่ ซึ่งสถานที่ ๆ พบนกฟลามิงโกได้มากที่สุดในโลก คือ ทะเลสาบนากูรู ในอุทยานแห่งชาติทะเลสาบนากูรู ทางตอนเหนือของประเทศเคนยา
เออผมมาถึงจุดที่ต้องมานั่งดูสัตว์โลกกับหลานแล้วเหรอ ให้ตายสิ
"ขุนเขาเบาเสียงได้ไหมอาไม่ชอบเสียงมันเลย" ผมเอ่ยอย่างรู้สึกรำคาญ
"ขุนกับน้องก็ดูทุกวันไม่เห็นอาจะบ่นว่าเสียงดัง" นั่นน่ะสิ วันนี้ทำไมผมถึงรู้สึกหงุดหงิดได้ขนาดนี้ ขุนเขากับสายน้ำเป็นลูกพี่สาวกับพี่เขยของผม ซึ่งพี่สาวผมจะเอาขุนเขากับสายน้ำมาฝากที่ครอบครัวพ่อแม่ผมเป็นประจำเลย พี่เขยพี่สาวมีงานต้องทำ หลานหัวแก้วหัวแหวนเลยต้องมาอยู่ที่นี่ทุกวัน ซึ่งผมเป็นคนไม่ค่อยจะชอบเด็กเท่าไหร่ เลยจะไม่ค่อยชอบอยู่บ้าน
ขุนเขา10ขวบแล้วนะครับแต่ก็ยังชอบสารดีกับสายน้ำ ให้ตายเถอะเด็กอะไรก็ไม่รู้
"ตาล" เสียงของแม่ผมดังขึ้นขณะที่ท่านเดินเข้ามาในบ้าน
"ค่ะคุณหมอก"
"ไปปิดหน้าต่างเอาม่านลงให้เรียบร้อยนะจ้ะ"
"เอาลงทำไมคะ วันนี้ฝนไม่ตกสักหน่อย" พี่ตาลเอ่ย ถ้าฝนตกแม่ผมจะชอบให้คนใช้ปิดม่านเพราะท่านไม่ค่อยชอบแสงฟ้าแลบ หลานๆผมก็เหมือนกัน
"ก็คชาอยู่บ้าน วันนี้ฝนน่าจะตกห่าใหญ่" แม่ผมหัวเราะแล้วเดินไปนั่งกับหลาน ผมคิดอย่างหงุดหงิด นั่นสินะ ปกติผมไม่อยู่บ้านผมชอบดื่มชอบเที่ยวชอบเอาผู้หญิง แต่วันนี้ผมดันมานั่งโง่ๆดูสารคดีกับหลานอยู่บ้าน
"นั่นสินะ พี่ตาลไม่ต้องปิดม่าน เพราะวันนี้ผมจะออกไปเที่ยงหาเพื่อน"
"นั่นไง ว่าแล้วไม่มีผิด แต่ถ้าเกิดไปเที่ยวผู้หญิงก็อย่าลืมป้องกันแล้วกัน"
"ผมป้องกันตลอดแหละแม่"
"มั่นใจนะ"
"มั่นใจสิครับ" ผมเอ่ยอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก ผมป้องกันก็จริง แต่กับพิกุลผมไม่ได้ป้องกัน แต่พอกุลเธอคงจะป้องกันล่ะมั้ง
"แน่นะ"
"แน่สิครับ" ผมเอ่ยแล้วหยิบโทรศัพท์กดโทรศัพท์หาไอ้โน่
ผม : มึงอยู่ไหน
ผมแชทถามมันเพราะคิดว่ามันอาจจะไปกินเหล้ากับเพื่อนคนอื่น
ไอ้โน่ : กินเหล้ากินหมูทะบ้านเขตแดนกับเนเน่กับพิกุล ว่าแต่มีอะไรเหรอ"
ผม : กูกำลังจะไปหามึง
ผมกดส่งแล้วเดินไปที่รถ ขับแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว บ้านไอ้เขตแดนอยู่ไม่ไกลจากบ้านผม วันนี้ถ้าไม่ได้กินเหล้าก็ได้ปี้คนล่ะวะ ผมคิดแล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ ผมมันคนรักสนุกแต่ไม่ผูกพัน มีความสุขด้วยกันแล้วแยกย้ายเท่านั้นเอง
