3
วูบหนึ่งเธอยังหวังให้บิดาไปงานรับปริญญาของเธอ อยากให้ท่านเห็นความสำเร็จของเธอ แต่ท่านก็ไม่มา เธออุตส่าห์เอาเอกสารวันที่สำเร็จการศึกษาและวันรับปริญญาบัตรไปวางไว้บนโต๊ะ แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมากลับว่างเปล่า ท่านคงเห็นแล้วและโยนทิ้งถังขยะไปแล้วแน่ ๆ เธอวางเด่นขนาดนั้นจะไม่เห็นได้ยังไงกัน
เธอสวมชุดครุยเรียบร้อย ผมถักเปียเรียบหอมกลิ่นแชมพูจาง ๆ สายตาของเธอมองผู้คนที่มีครอบครัวอยู่รายล้อม ทุกคนต่างหัวเราะ ยิ้มกว้าง ถ่ายรูปกันไม่ขาดสาย แต่สำหรับเธอ วันนี้ไม่มีใครเลยสักคน
ไม่มีบิดา ไม่มีมารดา ไม่มีน้องชาย ไม่มีแม้แต่เพื่อนที่รัก คนสมัยนี้คบกันแค่เงิน เธอเป็นแค่นักเรียนทุนจน ๆ ที่ไม่มีใครเหลียวแลหรืออยากคบหาด้วย
เมื่อเรียนจบถึงเพิ่งรู้ว่าน้องสาวไฮโซของเธอบอกทุกคนว่าเธอคือลูกคนใช้ในบ้าน ปีนขึ้นไปบนเตียงบิดาจนได้กลายเป็นลูกอีกคน เลยกลายเป็นพี่สาวนอกสมรส บิดาแค่ให้ใช้นามสกุลก็บุญหัวแค่ไหนแล้ว ไม่แปลกที่ภีมจะรังเกียจเธอ ทั้ง ๆ ที่เรื่องทุกอย่างไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย แต่เธอก็คร้านที่จะอธิบายให้ใครฟัง ใครอยากจะเชื่อยังไงก็เรื่องของเขา อธิบายไปก็เปล่าประโยชน์ คนทั้งโลกเชื่อเช่นนั้น เธอคงต้องอธิบายจนปากเปียกปากแฉะ ไม่เป็นอันทำอะไร ช่างมัน ความจริงก็คือความจริง เธอรู้อยู่แก่ใจ
ลมอ่อนพัดผ่านใบหน้า ดารินสูดหายใจลึก ๆ พยายามบังคับรอยยิ้มให้คงอยู่ แม้หัวใจจะหนักเหมือนมีหินทับ เธอพูดกับตัวเองเบา ๆ
“อย่างน้อย เราก็ทำได้แล้วนะ”
เธอเดินออกจากบริเวณงาน เพราะไม่มีเหตุผลให้เธออยู่ต่ออีก
แต่จังหวะที่กำลังเดินเลี้ยวตรงทางริมสวนก็ชนกับร่างสูงของใครบางคนเข้าอย่างจังจนของในมือหลุดร่วง
“ขอโทษค่ะ!” ดารินรีบก้มเก็บเอกสาร
“ไม่เป็นไรครับ ผมต่างหากที่เดินไม่ดูทาง” เสียงทุ้มอบอุ่นดังขึ้นเหนือศีรษะ
เธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ แล้วต้องชะงัก ชายในชุดเครื่องแบบทหารเต็มยศยืนอยู่ตรงหน้า เขาสูงใหญ่ในท่วงท่าสง่างาม ดวงตาคมลึกใต้หมวกปีกขาวกำลังมองมาด้วยแววสุภาพและอบอุ่น
“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ” เธอก้มศีรษะอีกครั้ง ก่อนจะรีบก้มลงเก็บแฟ้มในมือ
ชายคนนั้นยิ้มบาง ๆ แล้วก้มลงช่วยเก็บเอกสารให้
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ต้องขอโทษเหมือนกัน”
เธอชะงัก เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ จนหัวใจเธอสั่นไหวอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ขอบคุณค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เธอรับแฟ้มคืน ก่อนเดินจากไปอย่างสุภาพ แต่แววตาของเขายังคงมองตามอย่างไม่อาจละสายตาได้
เธอไม่รู้เลยว่าผู้ชายคนนั้นคือ ระฟ้า ธันวากุล นายทหารหนุ่มผู้เป็นว่าที่คู่หมั้นของเธอตามข้อตกลงระหว่างสองตระกูล ที่เธอไม่เคยได้รับรู้แม้แต่น้อย เพราะน้องสาวได้แย่งคู่หมั้นคนนี้ไปเสียแล้ว
และเขาเองก็ไม่รู้ว่า หญิงสาวในชุดครุยที่เดินชนเมื่อครู่ คือผู้หญิงที่ถูกกำหนดไว้ให้เป็นคู่ชีวิตของเขาตั้งแต่แรก
ระฟ้ามองตามแผ่นหลังบางที่เดินลับหายไปในฝูงคน สีหน้าของเขาเปลี่ยนจากประหลาดใจเป็นความสนใจลึก ๆ อย่างไม่เข้าใจตัวเอง
“ผู้หญิงคนนั้น” เขาพึมพำเบา ๆ
แต่เสียงเรียกดังขึ้นจากด้านหลัง
“พี่ใหญ่! น้องอยู่ทางนี้ค่ะ!” รุ้งฟ้าเรียกพี่ชายเสียงใส นั่นทำให้เขาต้องหันไปสนใจน้องสาวแทน
เสียงเครื่องบินทหารก้องกังวานเหนือฟ้า เมฆหนาทึบบดบังแสงอาทิตย์ยามบ่ายขณะเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนของกองทัพเคลื่อนผ่านแนวเขตชายแดนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เสียงคลื่นลมแรงปะทะตัวเครื่องจนสั่นสะเทือน
3
พันตรีระฟ้า ธันวากุล ในเครื่องแบบพร้อมออกรบ แววตาแน่วแน่ เขาคือหนึ่งในหน่วยรบพิเศษ หน่วยรบที่ถูกฝึกมาอย่างเข้มงวดที่สุดในกองทัพ ทั้งการจู่โจม การรบประชิดตัว การเอาชีวิตรอดในทุกสภาพพื้นที่
ภารกิจครั้งนี้เป็นการสกัดกั้นขบวนลักลอบขนยาที่ชายแดนเหนือ หน่วยของเขาได้รับคำสั่งให้เข้าปฏิบัติการกลางดึกในพื้นที่ภูเขาสูงชัน ฝนตกหนัก และอากาศหนาวเหน็บจนหายใจแทบไม่ออก
“หน่วยหนึ่ง รายงานสถานการณ์” เสียงวิทยุแทรกขึ้นมาในหูฟัง
“พบนักค้าประมาณหกคน กำลังลำเลียงของ” เสียงตอบจากลูกทีมดังกลับมา
“ทุกหน่วยเตรียมเข้าประชิด เป้าหมายอยู่ห่างไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตร” ระฟ้าพูดเสียงเรียบแต่มั่นคง
เสียงฝีเท้าแผ่วเบาในโคลน เสียงหายใจของลูกทีมถูกควบคุมอย่างมีวินัย ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
“ระวัง!” ระฟ้าตะโกนสั่งก่อนจะผลักลูกทีมหลบหลังโขดหิน เขาตอบโต้อย่างแม่นยำ แต่ใน
วินาทีนั้นเขาเข้าช่วยเหลือลูกน้องจนได้รับบาดเจ็บแทน
เลือดไหลซึมเปื้อนเครื่องแบบ เขายังฝืนลุกขึ้น คุ้มกันให้ลูกทีม จนแนวข้าศึกแตกพ่าย แต่ร่างกายกลับอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ เสียงระเบิดแว่วมาไกล ๆ ก่อนสติจะดับวูบไปในความมืดมิด
หลายชั่วโมงต่อมา เฮลิคอปเตอร์พยาบาลทหารบินกลับเข้าสู่ฐาน เสียงเจ้าหน้าที่เร่งตะโกนเรียกหมอสนามดังระงม
“คนเจ็บรายนี้ ถูกกระแทกอย่างแรง มีแผลทะลุชายโครง! สัญญาณชีพต่ำมาก!”
เมื่อถูกส่งถึงโรงพยาบาลทหารกลางกรุง แพทย์ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการผ่าตัดช่วยชีวิต ระฟ้ารอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่ไม่รู้สึกตัวอีกเลย
